สถานการณ์ในเมืองชายแดนฝั่งเมียนมา แหล่งอาชญากรออนไลน์ ดินแดนธุรกิจสีเทา ตอนนี้อยู่ในสภาพระส่ำระสายสุดขีด ด้วยมาตรการเด็ดขาดจากรัฐบาลไทย ตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ตัดเน็ต ต้องอพยพย้ายฐานกันจ้าละหวั่น
ช่วงนี้คดีจากมิจฉาชีพออนไลน์ เริ่มลดลงไปอย่างชัดเจน บ่งชี้ว่ามาตรการนี้ได้ผลอย่างมาก!
แม้ยังไม่หมดสิ้นไป เพราะฐานของแก๊งโจรไซเบอร์ยังมีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอีกฟาก
แต่เฉพาะด้านเมียนมา ถือว่าใกล้อวสาน
ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มติดอาวุธที่ครอบครองพื้นที่ชายแดนฝั่งเมียนมา ซึ่งหากินร่วมกับนายทุนจีนเทามายาวนาน ตอนนี้ก็ต้องรีบฟอกตัว แสดงความร่วมมือกับทางการไทย
ร่วมกวาดล้างธุรกิจสีเทา ควบคุมตัวสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาจากหลายสัญชาติ ส่งมอบให้ทางการไทย เพื่อหวังให้ผ่อนคลายมาตรการยาแรง!!
แน่นอนว่า การตัดพลังงานต่างๆ จากฝั่งไทย ทำให้เมืองในพม่าเดือดร้อนอย่างหนัก
กองกำลังที่ควบคุมพื้นที่เหล่านี้ จึงต้องรีบหาทางคลี่คลายสถานการณ์ จะอยู่แบบขาดแคลนไฟฟ้า ขาดแคลนน้ำมัน ไม่มีอินเตอร์เน็ต คงไม่ไหว
ไม่ว่าจะกลุ่มกะเหรี่ยงพุทธ ดีเคบีเอ กลุ่มของนายพลหม่องชิตตู กะเหรี่ยงอีกฝ่าย ดิ้นรนฟอกตัวเองกันยกใหญ่
โดยเฉพาะหม่องชิตตู ถึงขั้นจะโดนกรมสอบสวนคดีพิเศษออกหมายจับ ฐานพัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมค้ามนุษย์
จึงเร่งกวาดบ้านตัวเองกันอลหม่านในระยะนี้!!
ส่วนกลุ่มจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ต่างๆ ถึงเวลาต้องปิดฐาน อพยพโยกย้ายไปยังอีกฟาก
มุ่งหน้าไปยังปอยเปต หรือไปทางประเทศลาวก็มี
ดังนั้นทางการไทยต้องเร่งจัดการ ไม่ให้มาสร้างฐานยิ่งใหญ่ทางฝั่งนี้ หรือแก๊งเดิมที่มีอาคารสำนักงานใหญ่โตที่ปอยเปต ก็ต้องจัดการให้หดหายไปด้วย
แต่สภาพของพื้นที่ปอยเปต ต่างกับฝั่งเมียวดีอย่างมาก!!
สถานการณ์ในพม่านั้น เพราะมีกองกำลังชนกลุ่มน้อย ในขณะที่รัฐบาลทหารพม่าก็ควบคุมหลายพื้นที่ไม่ได้
เมืองเมียวดีนั้น ปกครองด้วยกลุ่มกะเหรี่ยงหลายกลุ่ม ซึ่งสภาพเช่นนี้ ไม่มีในกัมพูชา
ฝั่งเมียวดีซื้อไฟฟ้าจากไทย ซื้อน้ำมันจากไทย จึงใช้มาตรการตัดพลังงานเหล่านี้ได้
การสกัดกั้นการย้ายฐานของแก๊งจีนเทาจากเมียนมา มายังลาวและเขมร ต้องรับมือกันให้ดี ด้วยมาตรการอย่างอื่น!?
การตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ไม่สามารถทำได้กับฝั่งปอยเปต แต่ที่ทำได้คือการตัดเน็ต ล้มเสาสัญญาณต่างๆ ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งมือกันอยู่
แก๊งสีเทากำลังจะหดหายจากฝั่งพม่า คราวนี้ไทยต้องมาจัดการกับฝั่งเขมรแทน!
วงค์ ตาวัน
