ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์

มูลค่าการส่งออกไทยเดือนมิ.ย.ขยายตัวสูงต่อเนื่องที่ 8.2%YOY นำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์และพลาสติก ที่เติบโต 23.5%YOY และ 13.6%YOY ตามลำดับ ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2018 เติบโตที่ 11.0%YOY

มูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 10.8%YOY จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 49.9%YOY ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังขยายตัวที่ 23.1%YOY ตามแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มดังกล่าว ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) ขยายตัว 15.2%YOY ทั้งนี้ การนำเข้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2018 เติบโตที่ 15.6%YOY

คาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 8.5% โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากทั้งเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าของไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มเติบโตชะลอลง หลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมของโลกเติบโตช้าลงสะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Global Manufacturing PMI) ที่ชะลอลงตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาและลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ 53.0 ในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงสงครามการค้าที่ต้องจับตาในกรณีที่มีมาตรการและการตอบโต้ออกมามากขึ้น แม้ในปัจจุบันผลต่อการส่งออกไทยในปี 2018 ยังมีค่อนข้างจำกัด

คาดว่ามูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 13.5% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการส่งออก การลงทุนในประเทศทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้

ประกอบกับมูลค่าการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งประเมินว่าการเพิ่มสูงขึ้นของมูลค่าการนำเข้าน้ำมันในปีนี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในปี 2018 ยังอยู่ในระดับสูงที่ราว 8% ต่อ GDP ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพระหว่างประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน