“บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด”

มองว่าในปี 2560 การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทย จะพลิกฟื้นกลับขึ้นมาเป็นบวกอีกครั้งในรอบสองปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมการส่งออกของไทย เนื่องจากอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่ง

โดยคาดว่าการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ไทยจะมีมูลค่า 34,670-35,370 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัวสูงถึง 7.2-9.4% (ค่ากลาง 8.3) จากปี 2559 ที่หดตัวราว 0.8%

การเติบโตของการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2560 น่าจะได้รับปัจจัยหนุนหลักอยู่ 3 ประการ คือ 1.การเติบโตของการส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อันเนื่องมาจากการอยู่ในช่วงเวลาของวัฏจักรการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์จากอายุการใช้งานในตลาดโลก

2.การเติบโตของการส่งออกวงจรรวมจากแรงหนุนของ เทรนด์อุปกรณ์อัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่างๆ

และ 3.การเติบโตของการส่งออกสมาร์ตโฟนจากการที่มี ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนสัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งเข้ามาตั้งฐานการผลิตและส่งออกในไทย

ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันราว 56% ของมูลค่าการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ไทยทั้งหมด และมีอัตราการเติบโตที่อยู่ใน ระดับสูง

สำหรับภาพรวมในปี 2561 มองว่ามูลค่าการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทยน่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2560 อันเนื่องมาจากการขยายตัวของการ ส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นปัจจัยสนับสนุนชั่วคราว และน่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงเมื่อถึงช่วงกลางถึงปลายของวัฏจักรการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ในตลาดโลก

รวมถึงการส่งออกสมาร์ตโฟนของไทยที่น่าจะขยายตัวในวงจำกัดในระยะข้างหน้าจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด สมาร์ตโฟนโลก ทำให้การส่งออกสมาร์ตโฟนของไทยจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการแข่งขัน และการทำการตลาดที่ประสบความสำเร็จของแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นดังกล่าวในตลาดโลก

ดังนั้น คาดว่าในปี 2561 การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทยน่าจะมีมูลค่าประมาณ 36,070-36,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ในกรอบราว 3.0-5.1% จากปี 2560

ในระยะข้างหน้ามองว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยยังต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลากหลายประการ อาทิ ความท้าทายจากเทรนด์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ไปสู่เทคโนโลยีโซลิดสเตตไดรฟ์ เทรนด์การพัฒนาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างเซ็นเซอร์ และส่วนประมวลผลที่ซับซ้อนมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน