ส่งออกข้าวหืดจับ

คอลัมน์วงล้อเศรษฐกิจ

ส่งออกข้าวหืดจับ – ในปี 2563 การส่งออกข้าวไทยต้องเผชิญแรงกดดันและความท้าทายหลายด้านทั้งราคาส่งออกที่พุ่งสูงขึ้นทำให้แข่งขันในตลาดโลกยากขึ้นจากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงที่ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวลดลงจากปกติรวมทั้งประเทศผู้นำเข้าข้าวหันไปนำเข้าข้าวจากอินเดียซึ่งราคาต่ำกว่ามากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของเงินบาท รวมถึงสายพันธุ์ข้าวไทยเริ่มไม่ตอบโจทย์ความนิยมบริโภคข้าวในตลาดโลก โดยคาดว่า ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในปี 2563 จะอยู่ที่ 5.7 ล้านตัน หดตัว-24% YOY

สำหรับในปี 2564 คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน ขยายตัว 31%YOY โดยประเทศผู้นำเข้าข้าวยังคงมีแนวโน้มเพิ่มปริมาณสต๊อกข้าวในประเทศเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกข้าวไทย

ขณะที่โครงการประกันรายได้ในปี 2563/2564 รวมถึงเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิต ที่ในเบื้องต้นกำหนดที่ 500 บาท/ไร่ จะยังจูงใจให้ชาวนาเพาะปลูกข้าวต่อไป

ประกอบกับปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักในการเพาะปลูกข้าวนาปีปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือนต.. 2563 เป็นต้นมาจะส่งผลให้ปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ซึ่งอุปทานที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในปี 2564 มีแนวโน้มลดต่ำลงจากปี 2563 และทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาส่งออกข้าวไทยกลับมาปรับตัวดีขึ้น

แม้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในปี 2564 จะมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นแต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าในอดีตมาก

โดยมองว่า ยังมีหลากหลายปัจจัยที่กดดันการส่งออกข้าวไทยในปี 2564 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นปัจจัยลบต่อเนื่องมาจากปี 2563 ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือที่ยังอยู่ในระดับต่ำมากในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปรังในฤดูการผลิตหน้า (ปีการผลิต 2563/2564)

รวมไปถึงแนวโน้มการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินบาทในปี 2564 ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่สำคัญต่อการส่งออกข้าวไทย

ยิ่งไปกว่านั้น การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวพื้นนิ่มก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาอีกพอสมควร ซึ่งส่งผลให้ข้าวไทยยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคข้าวในตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที

EIC ธนาคารไทยพาณิชย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน