จับสัญญาณชีพ’ท่องเที่ยวไทย’ ผ่าน1เดือน’ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ : รายงานพิเศษ
จับสัญญาณชีพ’ท่องเที่ยวไทย’ – โครงการ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องท่องเที่ยวเฉพาะในภูเก็ต 14 วันจึงจะเดินทางไปพื้นที่อื่นได้ ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับภาครัฐและเอกชนจังหวัดภูเก็ตจัดนำร่อง
เพื่อกรุยทางไปยังพื้นที่นำร่องอีก 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และบุรีรัมย์
ครบ 1 เดือนของโครงการ แม้ทาง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศลั่นว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ล้มไม่ได้ ทุกอย่างคืออนาคตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.จะยืนยันการเดินหน้าโครงการ เพราะเกาะภูเก็ตเป็นพื้นที่ปิด ต้องให้ต่างชาติเข้าใจให้ได้ว่า ภูเก็ตต้องแยกออกจากประเทศไทย ต้องทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว
ตั้งแต่วันที่ 1-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีจำนวน 12,599 คน มีผู้ติดเชื้อ 30 ราย ถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยมาก และการติดเชื้อก็ติดมาก่อนที่จะเข้าภูเก็ต
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ย 200-300 คน เช่นเดียวกับสายการบินเพิ่มมากขึ้น และยอดจองห้องพักในช่วง 3 เดือนนี้มีเกือบ 3 แสนคืน ถือว่ากำลังเป็นไปได้ด้วยดี
ส่วนทิศทางต่อไปน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ททท.ตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยว 100,000 คน มีเม็ดเงินสะพัด 1.1 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 เดือนแรกของโครงการคือเดือนก.ค.-ก.ย. 2564
ส่วนไตรมาส 4 ปี 2564 จะมีต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยประมาณ 3-4 ล้านคน มีรายได้ประมาณ 3 แสนล้านบาท
เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย คนไทยสามารถเดินทางเที่ยวได้ก็จะมีการเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 90-100 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 5.5 แสนล้านบาท รายได้ท่องเที่ยวภาพรวมประมาณ 8.5 แสนล้านบาท
หลังเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว ในวันที่ 15 ก.ค.รัฐและเอกชนเดินหน้าเปิด ‘สมุย พลัส โมเดล’ หวังดึง นักท่องเที่ยวที่เที่ยวภูเก็ตแล้ว มายลโฉมความงามของสมุยต่อ พร้อมกันนี้นายพิพัฒน์หารือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อรายงานความคืบหน้าของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจและเดินทางเข้าภูเก็ตมากกว่า 1 หมื่นคน และ สมัย พลัส โมเดล เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
รวมทั้งเดินหน้าเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วในโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไปยัง 3 พื้นที่ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี, เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.กระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ในรูปแบบ 7+7 คือ
อยู่ในภูเก็ตครบ 7 วัน ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR ไม่พบเชื้อแล้วสามารถเดินทางไปพื้นที่เชื่อมโยงได้เพื่อไปอยู่อีก 7 วัน เป็นรูปแบบเที่ยวข้ามเกาะ (Island hopping) ที่ชาวต่างชาตินิยม
จากนั้นเมื่ออยู่ในพื้นที่กำหนดครบ 14 วันแล้ว สามารถเดินทางไปพื้นที่อื่นได้
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เห็นชอบแล้วรอเพียงนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา
สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เปิดมาครบ 1 เดือน และสมุย พลัส โมเดล เปิดมาได้ครึ่งเดือน ในแง่ของเศรษฐกิจ โรงแรม บริษัทที่เกี่ยวโยงกับการท่องเที่ยว เปิดรับพนักงานกลับมาอีกครั้ง
เริ่มเห็นรอยยิ้มเจ้าของธุรกิจ พนักงานลูกจ้าง หลังการระบาดของโควิด-19 ยาวนานกว่า 16 เดือน
ทำภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทบล่มสลาย เจ้าของกิจการต่างขาดสภาพคล่อง ปลดคนงาน ครัวเรือนขาดรายได้ ธุรกิจโรงแรมจากเจ้าของก็ประกาศขายเปลี่ยนมาเป็นผู้รับจ้างบริหารแทน
ปฏิเสธไม่ได้การเริ่มต้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือเป็นการนำร่องเปิดประเทศใน 120 วัน ตามนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนก.ค.จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้น สร้างสถิติใหม่ ทั้งยอดคนตายและยอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน
ส่วน สมุย พลัส โมเดล ตั้งเป้า 15 ก.ค.-15 ส.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 180 ล้านบาท
หลังการเปิดสมุย พลัส โมเดล เมื่อ 28 ก.ค. จำนวน 22 ราย และ 29 ก.ค.อีก 39 ราย รวมเป็น 61 ราย ซึ่งเกินกว่าเงื่อนไขโครงการสมุย พลัส โมเดล ที่จะพิจารณาชะลอโครงการคือต้องพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกสาเหตุมากกว่า 40 รายต่อ 2 สัปดาห์
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงหารือกับททท.สำนักงานเกาะสมุย ว่าหากพบจำนวนผู้ติดเชื้อภายใน 1-2 วันนี้อาจชะลอโครงการสมุย พลัส โมเดล
นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า จากคำสั่งจังหวัดภูเก็ตมีผลบังคับใช้ควบคุมการเดินทางเข้าพื้นที่วันที่ 3-16 ส.ค.2564 ไม่ได้ส่งผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจังหวัดภูเก็ตผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยยังสามารถเดินทางเข้าภูเก็ตได้ตามปกติ
หากนักท่องเที่ยวอยู่ภูเก็ตครบ 14 คืนแล้ว ออกไปท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ และต้องเดินทางกลับประเทศจากสนามบินภูเก็ต ให้แสดงหลักฐานตั๋วเครื่องบินกลับในวันนั้นผ่านเข้าภูเก็ตได้
ส่วนนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศ (เอ็กซ์แพท) ที่มีภูมิลำเนานอกจังหวัดภูเก็ตยังไม่สามารถเดินทางเข้าภูเก็ตได้ ยกเว้นกลุ่มที่ระบุในคำสั่งที่ผู้ว่าฯ
ด้าน นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า อยากเห็นการคุมโรคได้ไปพร้อมฟื้นฟูกับเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งที่เราไม่อยากเห็นกันตั้งแต่ตอนแรก คือการเปิดไปแล้วเราไม่ต้องการปิดเหมือนบางแห่ง
จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการขึ้นมาเป็นลำดับ เช่น ลดกิจกรรม ตอนนี้ต้องการเซฟภูเก็ต เซฟแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รอง ผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง ททท. กล่าวว่า ตามข้อกำหนดของการพิจารณายกระดับการควบคุมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะมีเกณฑ์กำหนดไว้ คือ
ระยะแรก ถ้าพบตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์จะต้องยกเลิกกิจกรรม งดการรวมกลุ่ม
ระยะต่อไปหากพบว่ามีลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล การครองเตียงมากกว่า 80% จะยกระดับมาตรการต่อไป
สำหรับภาพรวม 6 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ก่อนการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตประมาณ 3 หมื่นคน แต่เมื่อเริ่มเปิดแซนด์บ็อกซ์ ก.ค. มีต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตประมาณ 1.3 หมื่นคน และสิ้นส.ค.คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.4 หมื่นคน
ส่วนต่างประเทศ 5 อันดับที่เดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิสราเอล ฝรั่งเศส และเยอรมัน ทุกประเทศยังสามารถเดินทางเข้าไทยได้
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุย ส่วนใหญ่เป็นคนในท้องที่อาการไม่รุนแรง แต่ต้องเตรียมเตียงเพิ่มเพื่อรองรับผู้ป่วยในโรงพยาบาล
ขณะนี้โรงแรมต่างๆ กำลังเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลที่มีเตียงมากกว่า 200 เตียง สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง เพื่อช่วยประหยัดเตียงในโรงพยาบาล
ความกังวลในการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากล็อกดาวน์แบบเจ็บแต่ไม่จบนาน 3 เดือน ททท.คาดว่าเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้ประมาณ 1.2 ล้านคน คนไทยก็เที่ยวน้อยไม่ถึง 50-60 ล้านคน/ครั้ง
ดังนั้น รายได้รวมไม่เกิน 4 แสนล้านบาทแน่นอน
มาถึงวันนี้ผู้ที่ต้องตัดสินใจไม่ใช่แค่รัฐบาล เอกชนทุกคน ทุกหน่วยต้องผนึกกำลังอีกครั้ง เพื่อเซฟภูเก็ต เซฟแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย
เพื่อให้เครื่องจักร ‘การท่องเที่ยว’ ที่เป็นรายได้หลักของประเทศในช่วงนับสิบปีที่ผ่านมาเดินเครื่องทำงานอีกครั้ง