ผักชี
ขอข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับผักชี ประโยชน์ด้วย
น้องเล็ก
ตอบ น้องเล็ก
ผักชี หรือ ผักชีไทย ชื่อสามัญ Coriander ชื่อวิทยาศาสตร์ Coriandrum sativum L. หรือบางท้องถิ่นเรียก ผักชีลา ผักหอมน้อย ผักหอมผอม ผักหอมป้อม เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Apiaceae ลักษณะใบติดกับลำต้น มีใบย่อยเป็นจำนวนมากใบหยักลึกเข้าหากลางใบ ดอกช่อ ดอกย่อยสีขาวอมชมพู ผลมีลักษณะรี ค่อนข้างกลม แก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีเมล็ด 2 เมล็ด
เป็นพืชที่มีกลิ่นเฉพาะตัว จึงเป็นที่นิยมนำไปใช้ประกอบอาหารและด้วยสีเขียวสดกับรูปทรงของใบจึงเป็นที่นิยมนำไปตกแต่งจานอาหาร กับยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ
ข้อมูลจากคอลัมน์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ มติชนสุดสัปดาห์ ระบุว่า ผักชีไม่ใช่ผักพื้นถิ่นของไทย มีบันทึกว่ามนุษย์รู้จักใช้ผักชี มาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ โดยพบหลักฐานการปลูกในสมัย 3,500 ปีที่แล้ว สันนิษฐานว่าเป็นผักดั้งเดิมของกลุ่มชนพื้นเมืองในยุโรป แถบเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชียตะวันตก ก่อนนำไปปลูกทั้งใน ทวีปยุโรปและเอเชีย ส่วนที่จีนก็มีเรื่องเล่าว่า คนทางตะวันตกของจีน (น่าจะคนต่างชาติ) นำผักชีเข้าไปปลูกในสมัยราชวงศ์ฮั่น หรือประมาณ 1,600 ปีก่อน
สำหรับคนไทยรู้จักนำผักชีมาใช้ประโยชน์อย่างยาวนานจนอยู่ในวัฒนธรรม ทั้งการกินเป็นอาหาร และนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรบำบัดรักษาโรค ซึ่งถ้ากล่าวตามสรรพคุณยาไทย พูดได้ว่าทุกส่วนของผักชีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ ต้นผักชี มีคุณสมบัติร้อน เล็กน้อย เผ็ด มีสรรพคุณขับเหงื่อ ทำให้ผื่นหัดออกมากขึ้น ขับลมเจริญอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ทำให้เลือดไหลเวียน แก้ผื่นแดง แก้ไฟลามทุ่ง
ผลผักชี มีคุณสมบัติร้อนเล็กน้อย เผ็ด ทำให้ผื่นหัดออกเร็วขึ้น กินช่วยให้เจริญอาหาร ละลายเสมหะ บำรุงกระเพาะอาหาร กระตุ้นต่อมในกระเพาะอาหารและลำไส้ เพิ่มน้ำดีให้มากขึ้น รักษาอาการปวดท้อง แก้อาการบิด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร
ใบผักชี ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย แก้กระหายน้ำ แก้ไอ แก้หวัดแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้อาการอาหารเป็นพิษ ลดระดับน้ำตาลในเลือด, รากผักชี ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยกระทุ้งพิษไข้หัว ไข้อีดำอีแดง ไข้เหือด ไข้หัด อีสุกอีใส
ในเวลานี้มีการศึกษาผลทางเภสัชวิทยาของผักชีในระดับ สัตว์ทดลองและหลอดทดลอง ที่พอจะบอกได้ว่า ใบและทั้งต้น ผักชี ถ้าได้กินประจำก็จะได้สารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดี ได้แก่ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) สารกลุ่มแทนนิน (tannins) สารกลุ่มคาโรทีนอยด์ (carotenoids) น้ำมันหอมระเหย วิตามินและเกลือแร่ ซึ่งทั้งใบและลำต้น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการชัก และต้านการถูกทำลายของเซลล์สมอง ต้านแบคทีเรียต้านเชื้อรา และมีฤทธิ์ช่วยย่อยในระบบทางเดินอาหาร
ผลและเมล็ด มีงานวิจัยพอสมควร พบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านปรสิต ต้านการอักเสบ ต้านการ ก่อมะเร็ง มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันเลือด ลดไขมัน ในเลือด ลดความวิตกกังวล แก้ปวด สามารถจับและกำจัดโลหะหนัก ปกป้องตับและไต
ข้อควรระวัง กินผักชีมากเกินไปไม่ดี เพราะลูกผักชีและต้นผักชีมีน้ำมันหอมระเหย ถ้ากินมากไปจะเสพติดได้และมีผลต่อเซลล์ตับบางคนกินแล้วอาจแพ้มีผื่นคัน
