เรื่องเทาๆ ฉาวๆ ในวงการลอตเตอรี่ตอนนี้ เมื่อก่อนเคยมีไหม
ปิ่นหยก
ตอบ ปิ่นหยก
มีเรื่องราวบอกเล่าไว้ในบทความ “ลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท จ่ายเงินรางวัลให้บุคคลไร้ตัวตน คดีทุจริตหวยสุดอื้อฉาวสมัย ร.6” เผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.silpa-mag.com ดังนี้
หากพูดถึง “ลอตเตอรี่” หรือ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ผู้คนจะเห็นเป็นช่องทางรวยอีกช่อง เพราะรางวัลที่ได้รับมีมูลค่าสูง และด้วยรางวัลเหล่านี้ ทำให้เกิดการขวนขวายหาเลขเด็ดต่างๆทางโลกก็ดี ทางไสยศาสตร์ก็ดี เพื่อให้ได้รางวัลอันมากค่านั้น และก็ด้วยรางวัลนั้น ทำให้เกิดคดีฉาวที่เกี่ยวข้องกับลอตเตอรี่ในหน้าประวัติศาสตร์ช่วงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
คดีที่จะกล่าวถึงนี้มีความน่าสนใจเพราะเป็นคดีที่เกิดจากการ ฉ้อราษฎร์บังหลวง ของเหล่าข้าราชการที่ดูแลการออกสลากและรางวัลโดยตรง
ลอตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีประเด็น คือ “ลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท” ที่ถูกพิมพ์ขึ้นมา 1 ล้านฉบับ ฉบับละ 1 บาท เพื่อระดมทุนจัดหาอาวุธให้กองเสือป่า อย่างไรก็ตาม เรื่องราวถูกผู้คนและหนังสือพิมพ์จับจ้องถึงความไม่น่าเชื่อถือในการจ่ายเงินรางวัล มีการตั้งข้อสงสัยว่าผู้ซื้อสลากและถูกรางวัล 3 รางวัลแรก คือ นายชื่น, นายเส็ง และอีกคนที่ไม่ทราบชื่อแน่ชัด ซึ่งรับเงินรางวัลไปแล้ว มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่?
ลอตเตอรี่ระดมทุนนี้มีต้นคิดและอำนวยการโดย “มหาเสวกตรี” และ “นายพลเสือป่า พระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี”
คดีนี้ถูกตีแผ่เป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อหนังสือพิมพ์ “เกราะเหล็ก” เกิดประหลาดใจในเลขรางวัลทั้งสาม ขึ้นต้นด้วย 183 ทั้งสิ้น และ “คณะแก่นเพชร” ก็ได้วิจารณ์พระยานนทิเสนสุเรนทรภักดีผ่านการแสดงลำตัดและร้อยแก้ว ก่อนแพร่ไปยังหนังสือพิมพ์อื่นๆ ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว ถึงขั้นจั่วหัวในหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ว่า “ลากไส้พระยานนทิเสน” จนเรื่องไปถึง พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าคำรบ ผู้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจในสมัยนั้น จึงมีบัญชาการให้สืบสวน เจ้าหน้าที่และกรรมการที่ออกลอตเตอรี่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกฝรั่ง
ผลการสืบสวนพบว่า ผู้ได้รับรางวัลทั้งสามนั้น “ไม่มีตัวตน อยู่จริง” เป็นความจริงตามที่หนังสือพิมพ์สงสัย
ตำรวจกองพิเศษ (เปลี่ยนชื่อในภายหลังว่า สันติบาล) ที่สืบสาวเรื่องราวจนได้ข้อเท็จจริง จึงออกหมายจับพระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี, พระยาสิทธิศรสงคราม, หลวงอนุสรณ์นนทิกิจ และขุนสิทธิ์ เพื่อส่งให้ศาลโปริสภา (ศาลแขวงในปัจจุบัน) สอบสวนว่าคดีมีมูลจริง และส่งเรื่องให้กรมอัยการฟ้องต่อศาลอาญา ก่อนคดีสิ้นสุด ที่ศาลฎีกา โดยตัดสินโทษพระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี จำเลยที่ 1 จำคุก 15 ปี, พระยาสิทธิศรสงคราม จำเลยที่ 2 จำคุก 5 ปี, หลวงอนุสรณ์นนทิกิจ จำเลยที่ 3 ศาลตัดสินปล่อยตัวทันที และจำเลย ที่ 4 คือขุนสิทธิ์ ได้ปล่อยตัวในชั้นศาลฎีกา
คดีลอตเตอรี่เสือป่าที่เป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลานั้น กล่าวได้ว่าเป็นผลของสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นตัวช่วยเผยแพร่ข้อมูลและข้อสงสัยอันนำไปสู่การเสาะหาความจริง เรียกได้ว่า เป็นกระจกสะท้อนอิทธิพลของสื่อมวลชนต่อสังคมที่ผลักดันคณะตำรวจให้เปิดโปงความฉ้อฉลของคดีดังกล่าวได้สำเร็จ
