สดจากสนามข่าว

ดำรงพล พาชื่น / เรื่อง-ภาพ

คืนที่เคยเงียบสงบ บนถนนสายท่าตูม-รัตนบุรี ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พลันถูกทำลาย เมื่อจู่ๆ เกิดคดีแก๊งปาหินออกอาละวาด ลงมือก่อเหตุติดๆ กัน 3 วันซ้อน หนุ่มวัย 25 ปีโดนเข้าเต็มๆ ล้มหัวฟาดพื้นถึงสาหัส แพทย์ให้ญาติทำใจหลังตรวจพบสมองตาย

เหตุร้ายล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ร.ต.อ.พงพิทักษ์ ประณมศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนบุรี รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นดักปาหินทำร้ายร่างกาย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ บนถนนสายท่าตูม-รัตนบุรี บริเวณก.ม.ที่ 15 บ้านหนองกา ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย

พ.ต.อ.มงคล ภูวประภาชาติ ผกก.สภ.รัตนบุรี พร้อมด้วยพ.ต.ท.ไท สกุลสันติรักษ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.แสงอรุณ ศรีโสม รอง ผกก.(สอบสวน) นำชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บชื่อ นายตันติกร ศิลป์ศร อายุ 25 ปี และ นายวินัย ชูรส อายุ 15 ปี โดนของแข็งขว้างใส่ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากงานบวช ล้มศีรษะฟาดกับพื้นอย่างแรง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอำเภอรัตนบุรีหน่วยกู้ชีพศูนย์นเรนทร เร่งนำส่งร.พ.สุรินทร์

นายตันติกรอาการหนัก โดยแพทย์พบว่าศีรษะถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักจนสมองตาย แต่ก็ยังเฝ้ารอดูอาการ ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้เป็นพ่อและญาติพี่น้อง ขณะที่ผู้ป่วยอีกหนึ่งราย คือ นายวินัย รู้สึกตัวแล้ว พ้นขีดอันตราย โดยมีผู้เป็นแม่คอยดูแลอยู่ข้างกาย

ขณะเดียวกัน นายจริน ศิลป์ศร อายุ 53 ปี พ่อของนายตันติกร กล่าวว่า ทีแรกรู้ว่าลูกชายโดนทำร้าย ไม่นึกว่าอาการหนักขนาดนี้ พอมาเห็นลูกชายที่โรงพยาบาลลูกไม่รู้สึกตัวแล้ว เสียใจจนไม่รู้จะพูดยังไง หมอบอกว่าสมองตายไม่ไหวแล้ว ยังทำใจไม่ได้ลูกชายยังไม่มีครอบครัว

“ลูกผมไม่ใช่โดน แก๊งปาหินเป็นรายแรก ชาวบ้าน คนสัญจรไปมาโดนมาหลายสิบครั้งแล้ว ล่าสุดหลานชายก็โดนเขาไล่ตี ก็พวกกลุ่มเดียวกันนี้เเหละ ไม่ได้เป็นมาครั้งเดียว มันเป็นมาบ่อยครั้งแล้ว กลุ่มผู้หญิงที่มาด้วยกันบอกว่าเขารู้และเห็นหน้าคนร้ายด้วย ขนาดร้องขอชีวิตและยกมือไหว้แต่มันก็ไม่หยุด ทีแรกเอาไม้เขวี้ยงก่อน พอรถล้มก็พากันรุมตี แต่พ่อของคนที่โดนก่อนเขาบอกว่าลูกชายผมเห็นเขาตีเพื่อนก็เลยกลับมาช่วย เลยโดนกลุ่มคนร้ายใช้ไม้ฟาดที่บริเวณทัดดอกไม้อย่างแรง” นายจรินระบายออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ

หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.รัตนบุรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งสืบสวนรวบรวมหลักฐานจนมีข้อมูลแน่ชัดว่ากลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่น บ้านหนองกา ที่ชอบจับกลุ่มดื่มสุราใกล้สถานที่เกิดเหตุ ดังกล่าว พอเมาได้ที่เกิดความคึกคะนอง ออกมาก่อเหตุในที่มืดริมถนนข้างทาง ช่วงเวลาประมาณ 22.30-01.00 น. วันที่ 9-11 ก.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

เย็นวันเดียวกันนั้นเอง ตำรวจนำกำลังบุกเข้าตรวจค้นภายในบ้านร้างซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหนังสือ และมีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีอายุ 21 ปี เพียงคนเดียว ทั้งหมดหลบอยู่ในห้องน้ำพร้อมกระป๋องกาวที่เปิดใช้แล้วหล่นอยู่จำนวนมาก จึงได้นำตัวมาสอบสวน

ทั้งหมดให้การว่าในคืนเกิดเหตุมีดนตรีหมอลำในงานบวช ที่บ้านหนองคู ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. วัยรุ่นกลุ่มนี้กว่า 20 คนไปเที่ยวงาน และไปมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นในงานโดยได้มีการท้าทายให้ไล่ตามมา

ก่อนที่จะมาดักรออยู่ริมถนนประมาณกว่า 20 คน เมื่อเหยื่อมาถึงได้ช่วยกันรุมปาก้อนหินใส่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย

ในที่เกิดเหตุยังพบระเบิดปิงปองตกอยู่ 1 ลูก คาดว่าน่าจะเป็นของวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุนำมาทิ้งไว้ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งเป็นเยาวชน จำนวน 12 คน มาสืบสวน

หนึ่งในนั้นให้การรับสารภาพว่าใช้ท่อนไม้ตีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่ยังหลบหนีไป อีกจำนวนหนึ่งต่อไป

พ.ต.อ.มงคล ภูวประภาชาติ ผกก.สภ.รัตนบุรี กล่าวว่า ชุดสืบสวน สภ.รัตนบุรี ได้ลงพื้นที่ดำเนินการสืบสวน ทราบแล้วว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านหนองกา และหมู่บ้านใกล้เคียง ตอนนี้ได้ดำเนินการนำตัวมาที่ สภ.รัตนบุรี และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาส่วนหนึ่ง

จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มนี้มีประมาณสิบกว่าคน จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งหมด และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในเบื้องต้นได้เเจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายก่อน ส่วนหากมีข้อหาที่มากกว่านี้ก็จะมีการแจ้งเพิ่มเติมอีกครั้ง

ลำพังมั่วสุมดมกาวกันก็แทบไม่มีอนาคตอยู่แล้ว ยังหาเรื่องทำร้ายคนอื่นอีก สุดท้ายถูกจับดำเนินคดี หมดทั้งอนาคตทั้งอิสรภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน