อรรณพ เพ็ชรภิมล – เรื่อง/ภาพ

หนุ่มขอนแก่น จากบ้านเกิด ดั้นด้นมาหางานทำไกลถึงเมืองภูเก็ต แรกๆ ก็พอเลี้ยงตัวเองได้ แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ สุดท้ายกลายเป็นคนตกงาน

เมื่อไร้งาน ก็ไร้เงิน สุดท้ายทนไม่ไหว ตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางโจร

ย้อนไปเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 พ.ค. พ.ต.ต.หญิง นุชรี ล่องแก้ว สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับเเจ้งเหตุมีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านทองธเนศ ฮก เลขที่ 5/9 ถ.ศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ทรัพย์สินไปจำนวนหลายรายการ

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.ปฏิพัทธ์ ถาวรประพัฒน์ สว.สส. ร.ต.อ.เวชศักดิ์ จุลอดุง รองสวป. และเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต

เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ที่ห้องขายทองชั้นล่างพบเศษฝ้าเพดานแตกหักหล่นกระจัดกระจาย บนฝ้าเพดานมีร่องรอยที่คนร้ายเจาะเป็นรูขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ส่วนที่ตู้โชว์ทองและโต๊ะต่างๆ มีร่องรอยทรัพย์สินถูกรื้อค้นเอาทรัพย์สิน จึงเก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นายจีรศักดิ์ ธเนศธนะสมบัติ เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามาเปิดร้านตามปกติ ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าฝ้าเพดานภายในร้านพังลงมาและทรัพย์สินถูกรื้อค้น แต่เคราะห์ดีที่ภายหลังปิดร้านได้เก็บทองรูปพรรณส่วนใหญ่เอาไว้ในตู้เซฟอย่างดี ทำให้คนร้ายได้ทรัพย์สินไปเพียงบางส่วน

นายจีรศักดิ์ ให้รายละเอียดว่า ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก ต่างหู 1 คู่ และกรอบพระเลี่ยมทองจำนวนมาก รวมมูลค่าประมาณ 1 เเสนบาท

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพวงจรปิดของร้านทอง พบว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ชัดเจน โดยคนร้ายเป็นชายผมยาว ผิวขาว สูง 160-165 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกแก๊ปสีขาว สวมผ้าปิดจมูกสีขาวปิดบังใบหน้า

ในภาพวิดีโอแสดงให้เห็นว่า คนร้ายมุดลงมาจากด้านบนเพดาน ก่อนรื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นจึงปีนกลับขึ้นไปบนฝ้าเพดานตามเดิม

เจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบเพิ่มเติมที่หลังร้าน พบเป็นป่าหญ้ารกมีกำแพงกั้นและมีร่องรอยคนร้ายปีนขึ้นกำแพง สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีการศึกษาวิธีการและเส้นทางเป็นอย่างดี ก่อนอาศัยช่วงดึกซึ่งไม่มีคนอยู่ภายในร้าน ปีนเข้าทางหลังร้านซึ่งเป็นที่ดินรกร้าง ก่อนงัดประตูเข้าไปที่ห้องหลังร้าน จากนั้นปีนขึ้นทางฝ้าเพดานของห้องหลังร้านและเข้าไปที่ห้องหน้าร้าน ก่อนเจาะฝ้าเพดานทะลุลงไปรื้อค้นทรัพย์สินหน้าร้าน

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามร่องรอยคนร้าย ทั้งไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามถนนบริเวณรอบๆ ร้านทอง รวมทั้งนำภาพคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิด ไปสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านด้วยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ จึงรู้ดีว่าร้านทองดังกล่าวไม่มีคนนอนเฝ้าในช่วงกลางคืน

ผ่านไปไม่นานก็มีข้อมูลว่ามีชายต้องสงสัยลักษณะใกล้เคียงกับคนร้าย พักอยู่บ้านเลขที่ 2/85 ซอยร่วมใจ ถ.อนุภาษภูเก็ตการ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตรงข้ามโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตซึ่งอยู่ห่างจากร้านทองที่เกิดเหตุไปประมาณ 500 เมตร

เย็นวันเดียวกันนั้นเอง พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์นำกำลังชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เข้าตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนพบผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังคือนายเสริมศิลป์ เทพวงค์ อายุ 35 ปี ชาว ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นั่งอยู่หน้าบ้าน

พอเห็นตำรวจบุกมาค้นบ้าน เจ้าตัวก็ออกอาการทันที เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ก่อนทำการตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนที่ขโมยมา รวมทั้งของกลางเป็นกรอบพระเลี่ยมทอง จี้ ต่างหู หลายรายการ ที่หายไปจากร้านทองธเนศ ฮก รวมทั้งอุปกรณ์บางส่วนที่ใช้ก่อเหตุซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นบ้าน

เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน นายเสริมศิลป์จึงรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง ตำรวจจึงนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุที่ร้านทอง ก่อนพาตัวกลับไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองภูเก็ต

นายเสริมศิลป์กล่าวว่า เคยทำงานอยู่ที่โรงกลึงมาระยะหนึ่ง แต่ช่วงหลังตกงานไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจเข้าก่อเหตุเพียงลำพัง หลังก่อเหตุได้นำทรัพย์สินไปเก็บไว้ที่บ้าน รอขายนำเงินมาใช้จ่าย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์หรือรับของโจร มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เลือกเดินทางผิด สุดท้ายหนีไม่พ้นต้องชดใช้กรรมกันไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน