แฟ้มคดี

ยังคงเร่งสืบสวนสอบสวนอย่างเข้มงวด สำหรับการคลี่คลายคดีฆ่าโหดอดีตตำรวจอิสราเอล แล้วหั่นศพโบกปูนอำพราง

ซึ่งหลังจากได้ตัวฆาตกร ที่ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติของผู้ตาย โดยให้การรับสารภาพว่าลงมือไปเพราะเรื่อง หึงหวง ที่ผู้ตายมายุ่งกับภรรยาตัวเอง

จนพลั้งมือฆ่า และต้องหาวิธีการอำพรางศพจนทิ้งร่องรอยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตาม มาเจอ

แต่แทนที่จะปิดคดีลงได้ กลับมีเรื่องราวเพิ่มขึ้นมาอีก

เมื่อพ่อของอดีตภรรยาฆาตกรโหด โร่ขึ้นโรงพักแจ้งให้ช่วยตามหาบุตรสาว ที่หายตัวไปกว่า 1 ปี

และสงสัยว่าชะตากรรมที่ประสบจะไม่ใช่เรื่องดีงามสักเท่าใดนัก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สันนิษฐานว่าอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เมื่อยังหาศพไม่พบคดีก็ยังเป็นปริศนาต่อไป

ตร.เร่งตามหาสาวสาบสูญ

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายซีมอน บินตัน อายุ 50 ปี ชาวอิสราเอล และลูกชายวัย 17 ปี ในบ้านพักย่านบางบัวทอง ในข้อหาฆ่า นายเอลิยาฮู โคเฮน อายุ 63 ปี อดีตตำรวจชาวอิสราเอล ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพ พร้อมระบุสาเหตุเกิดจากความหึงหวงที่นายเอลิยาฮู เข้ามาพัวพันกับภรรยาของตัวเอง

แต่แทนที่คดีจะปิดลงแค่นั้น ก็ยังมีประเด็นเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเมื่อนายอนันต์ แสงอุไร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363/31 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เข้าพบ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. เพื่อขอให้ติดตามการหายตัวของ น.ส.นันทิยา แสงอุไร อายุ 37 ปี บุตรสาว ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนายซีมอน ที่หายตัวไปกว่า 1 ปี

เพราะกลัวจะเกิดอันตรายถึงชีวิต

นายอนันต์ เปิดเผยว่าลูกสาวตนรู้จักนายซีมอน ที่ถนนข้าวสาร เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จากนั้นก็คบหากันจนมีลูกชาย 1 คน ซึ่งก็คือเด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่ถูกจับข้อหาฆ่าพร้อมกับนาย ซีมอน

จนกระทั่งเมื่อปี 2543 ตอนที่นายซีมอนถูกจำคุก ช่วงนั้นน.ส.นันทิยาตั้งท้องได้ 3 เดือน และหลังจากที่นายซีมอนพ้นโทษออกมาก็พาลูกชายที่อายุประมาณ 12 ปี กลับไปที่อิสราเอล ก่อนจะกลับมาเมืองไทย จากนั้นก็ทราบข่าวว่าลูกสาวกลับไปคบกันอีกครั้ง

จนกระทั่งมีข่าวว่านายซีมอน ถูกจับกุมข้อหาฆ่า จึงพยายามสอบถามว่าบุตรสาวตนหายไปไหน เพราะไม่กลับบ้านและติดต่อไม่ได้มากว่า 1 ปีแล้ว แต่นายซีมอนบอกว่าลูกสาวตนถูกจับกุมที่ประเทศลาว ในข้อหายาเสพติด แต่เมื่อตรวจสอบไปยังประเทศลาวก็ไม่พบข้อมูลดังกล่าว

เมื่อสอบถามหลานชายก็บอกว่าแม่ถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน เพราะไปขโมยเงิน และจากนั้นก็ไม่ได้เจอหน้าแม่มานานมาก ซึ่งเป็น ไปไม่ได้เพราะเมื่อปี 2558 น.ส.นันทิยายังเป็นคนพาลูกชายไปทำบัตรประชาชนอยู่เลย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.นันทิยา เคยถูกจับคดียาเสพติดในพื้นที่สน.บางบอน แต่ก็พ้นโทษมาเรียบร้อย อีกทั้งไม่พบว่าเคยเดินทางไปต่างประเทศ มีแต่นายซีมอนและบุตรชายเท่านั้นที่เคยเดินทางไปประเทศลาว

%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%a2%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%9b%e0%b8%b9%e0%b8%99

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำน.ส.บี อดีตภรรยาชาวไทยอีกคนของนายซีมอน ซึ่งก็ไม่พบเบาะแส ส่วนน.ส.ปลา ภรรยาอีกคน ระบุว่า รู้จักนาย ซีมอนเมื่อก.ค. 2558 แต่ไม่เคยเห็นน.ส.นันทิยา ซึ่งรู้เพียงว่าเป็นแม่ของลูกชายนายซีมอน

ระหว่างนั้นนายซีมอนกำชับว่าหากมีใครมาถามถึงน.ส.นนทิยา ให้บอกว่าเป็นโรคมะเร็งเสียชีวิตไปแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน.ส.นนทิยาเสียชีวิตไปแล้ว แต่หากยังหาศพไม่พบ ก็พิสูจน์ไม่ได้

พลิกคดีฆ่าหั่นศพตร.ยิว

สำหรับต้นเหตุของเรื่องดังกล่าว เริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนกก.สส.น.7 โดยระบุว่า นายเอลิยาฮู โคเฮน อายุ 63 ปี อดีตตำรวจใหญ่ชาวอิสราเอล หายตัวไปจากคอนโดมิเนียม ย่านจรัญสนิท วงศ์ พร้อมรถโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ ทะเบียน ขธ 3926 ชลบุรี ตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น. จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันคนหายไว้ที่สน.บวรมงคล

เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามตรวจสอบตั้งแต่ที่คอนโดมิเนียม เช็กกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเข้าออก และเส้นทางที่นายเฮลิยาฮูขับรถออกไป ก่อนจะพบข้อมูลว่านายเฮลิยาฮู นัดพบเพื่อนร่วมชาติ 2 คน ที่เป็นพ่อลูกกัน ที่ร้านอาหารอิสราเอลแห่งหนึ่ง ย่านตรอกข้าวสาร และพบว่าเคยติดต่อกับคนกลุ่มนี้อยู่หลายครั้ง เพราะมักจะมาขอยืมเงิน

พร้อมกันนั้นก็ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน จนพบว่ามีการใช้บัตรเครดิตของนายเอลิยาฮู ซื้อของหลายรายการ อาทิ ลูกเหม็น ถุงดำ มีดโกนหนวด ที่ห้างสรรพสินค้าย่านรัตนาธิเบศร์ และซื้อกระเป๋าเดินทางที่ห้างแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ แต่บัตรรูดไม่ผ่าน

%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%aa%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2

เมื่อตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้บัตรคือ นาย ซีมอน บินตัน อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคนเดียวกับคนที่ไปพบนายเอลิยาฮู ที่ร้านอาหารย่านถนนข้าวสาร

จึงขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ขออนุมัติหมายค้นเลขที่ 1155/59 ลงวันที่ 12 พ.ย. 2559 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 88/167 หมู่บ้านภัทราวรรณ ถนนเทศบาล 2 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

เมื่อไปถึงละแวกดังกล่าวก็พบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ ทะเบียน ขธ 3926 ชลบุรี จอดอยู่ห่างจากบ้านเป้าหมายประมาณ 10 กิโลเมตร จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน ก่อนเข้าบุกจู่โจม ควบคุมตัวนายซีมอน พร้อมลูกชายวัย 17 ที่อยู่ในบ้าน

สอบสวนเบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายเอลิยาฮู แต่เมื่อตรวจสอบภายในบ้านพบคราบเลือดที่บานพับประตูห้องน้ำ จึงตรวจอย่างละเอียด จนได้กลิ่นเหม็นโชยมาจากห้องใต้บันได ใกล้กันมีกล่องใส่ลูกเหม็นจำนวนมากเพื่อดับกลิ่น

นอกจากนี้ยังมีร่องรอยการก่อปูนโดยใช้อิฐบล็อกต่อสูงกัน และโบกปูนทับตรงใต้บันได จึงทุบปูน ดังกล่าวออก ก่อนจะเจอศพถูกห่อด้วยถุงดำ ถูกหั่นเป็น 3 ท่อน ห่อด้วยถุงดำ ภายในเน่าเปื่อยส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณ

ตรวจสอบพบว่าเป็นศพของนายเอลิยาฮู จริงๆ

รับสิ้นไส้-ปมหึงแฟนสาว

จากการตรวจสอบสภาพศพที่ถูกหั่นเป็น 3 ท่อนแยกใส่ถุงดำ พบว่าถุงที่ 1 เป็นส่วนศีรษะ มีร่องรอยฟันที่กลางศีรษะ ถุงที่ 2 เป็นท่อนขาซ้ายสวมถุงเท้าสีดำ และถุงที่ 3 เป็นถุงขนาดใหญ่ ข้างในมีกระเป๋าเดินทางสีเทา ภายในบรรจุชิ้นส่วนลำตัว ติดกับขาขวา

เมื่อจำนนต่อหลักฐาน นายซีมอนก็เปิดปากรับสารภาพ โดยระบุว่า เป็นเพื่อนร่วมชาติเดียวกันกับ ผู้ตายจริง โดยวันเกิดเหตุมีการนัดเจอเพื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจ เนื่องจากทราบว่านายเอลิยาฮูมาติดพันภรรยาของตัวเอง

โดยนัดกันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยนายเฮลิยาฮู ขับเก๋งยาริสไป ในขณะที่นายซีมอน ขี่จักรยานยนต์ เมื่อไปเจอกันก็คุยกันไม่รู้เรื่อง จึงบอกว่าให้มาคุยกันต่อที่บ้านย่านบางบัวทอง โดยนายซีมอนจอดจักรยานยนต์ไว้ที่ปั๊มน้ำมัน และนั่งรถเก๋งคันเดียวกันมา

Jpeg

Jpeg

เมื่อถึงบ้าน ก็พูดคุยกันอีกรอบ แต่คราวนี้นาย เอลิยาฮู พูดจาเหยียดหยามศักดิ์ศรี จึงบันดาลโทสะ ชกเข้าที่หน้า 1 ครั้ง และชกเข้าที่ลิ้นปี่อีก 1 ครั้ง จนร่างทรุด สลบเหมือด พอเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าชีพจรอ่อน จนหยุดลง จึงต้องหาวิธีซุกซ่อนทำลายศพ

จึงร่วมกับลูกชายวัย 17 ปีไปซื้ออุปกรณ์ซ่อนเร้นทำลายศพที่ห้างสรรพสินค้าย่านรัตนาธิเบศร์ และแจ้งวัฒนะ โดยใช้บัตรเครดิตผู้ตาย จนกลายเป็นหลักฐานย้อนกลับมาพันตัวเองจนดิ้นไม่หลุด

นอกจากนี้นายซีมอนยังให้การว่าตัวเองเคยเป็นอดีตตำรวจของอิสราเอลด้วยเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบกับทางการอิสราเอลไม่มีประวัติตามที่กล่าวอ้าง

ขณะที่การตรวจสอบประวัติย้อนหลังของนาย ซีมอน ก็ไม่ใช่ธรรมดา เมื่อพบว่าเคยก่อคดีฆ่าคนตายในประเทศไทย เมื่อปี 2543 โดยฆ่าเพื่อนชาวอิสราเอลแล้วนำไปทิ้งแม่น้ำแม่กลอง และต้องโทษจำคุก

หลังพ้นโทษออกมาก็ถูกผลักดันกลับไปอิสราเอล แต่สุดท้ายกลับมาอยู่ในประเทศไทยอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก็ยังมึนงงว่าเข้ามาได้อย่างไร ผ่านช่องทางใดกันแน่

และเมื่อตรวจสอบข้อมูลเมื่อปี 2543 ก็ไม่พบ รายละเอียดแน่ชัด ถือเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป

ส่วนลูกชายวัย 17 ปี ของนายซีมอนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอดำเนินคดี จึงขออนุมัติหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่า และปิดบังซ่อนเร้นศพ และส่งตัวไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง แล้วจึงฝากขังที่สถานพินิจต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน