ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ – เกษม ชนาธินาถ – เรื่อง/ภาพ

ตามความเชื่อของคนไทยที่มีสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ จะทำการงานอะไรก็ต้องถือเคล็ดถือโชคเพื่อให้งานราบรื่น ไม่เว้นแม้แต่มิจฉาชีพ ที่ลงมือก่อเหตุยกเค้ามาทั่วเมืองโคราช ก็ถือเคล็ดหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือกฎหมายไปได้

เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่ บก.ภ.จว.นครราช สีมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อม พ.ต.อ.สันติ เหล่าประทาย รอง ผบก. พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สภ. จอหอ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายสิทธิโชค ทิมดอน หรือเล่ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/14 หมู่ที่ 1 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราช สีมา ผู้ต้องหาลักทรัพย์ และนายนราธิป ปุ๋ยกระโทก หรือเม่น อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ที่ 2 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหารับของโจร

พร้อมด้วยของกลางจำนวนมาก อาทิ อาวุธปืน, จอแอลซีดีทีวี, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, เครื่องตัดหญ้า, สว่านไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, เครื่องเล่นเกม, พระเครื่อง, สร้อยคอทองคำปลอม และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ

พล.ต.ต.วัชรินทร์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ ลักทรัพย์ในเคหสถานในพื้นที่รับผิดชอบรวม 11 ครั้ง ทั้ง อ.เมือง, อ.ปักธงชัย, อ.ครบุรี, อ.วังน้ำเขียว, และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีพฤติการณ์ก่อเหตุค่อนข้างคล้ายคลึงกัน

กระทั่งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.จอหอ รับแจ้งเหตุคนร้าย ลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 8 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยคนร้ายได้ลักเอาโน้ตบุ๊กพร้อมด้วยพระเครื่องไป

ขณะที่เจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกสืบสวนหาตัวคนร้าย เจ้าทุกข์แจ้งเบาะแสเพิ่มเติมว่า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ถูกขโมยไปซึ่งเชื่อมต่อข้อมูลกับโทรศัพท์มือถือของเจ้าทุกข์ แจ้งว่ามีการใช้งานผ่านเฟซบุ๊กในชื่อ “นราธิป ปุ๋ยกระโทก” มีการพูดคุยติดต่อกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “เล่ แล้วใง” และมีการโพสต์ภาพประกาศให้เช่าพระเครื่องของ เจ้าทุกข์ที่ถูกขโมยไปพร้อมกัน

เมื่อตรวจสอบในเฟซบุ๊กดังกล่าวพบว่ายังมีการประกาศขายทรัพย์สินหลายรายการ ทางเพจขายสินค้ามือสอง เจ้าหน้าที่จึงติดต่อล่อซื้อเครื่องเล่นเกม กระทั่งนายนราธิปหลงเชื่อกระทั่งถูกจับกุมในเวลาต่อมา

เมื่อสอบถามถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใช้ล็อกอินเฟซบุ๊ก ผู้ต้องหาให้การว่าขายต่อให้ผู้อื่นไปแล้ว จึงตามไปอายัดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสอบสวนเพิ่มเติมจนนายนราธิปสารภาพรับซื้อมาจากนาย สิทธิโชค ซึ่งมักมีสิ่งของมีค่า พระเครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้ามา ขายให้ในราคาถูกเป็นประจำ จึงนำไปโพสต์เฟซบุ๊กขายต่อทำกำไรอีกทอดหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ให้นายนราธิปติดต่อขอเช่าพระเครื่องเพิ่มเติมจากนายสิทธิโชค โดยนัดรับสินค้าที่หน้าสถานีดับเพลิงเทศบาลตำบลจอหอ กระทั่งผู้ต้องหาหลงกลมาตามนัด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมพระเครื่องจำนวนมาก และอาวุธปืนพกไทยประดิษฐ์ขนาด .38 พร้อมกระสุน 1 กระบอก อยู่ในกระเป๋าเป้ที่ผู้ต้องหาสะพายมา

พล.ต.ต.วัชรินทร์เปิดเผยอีกว่า หลังจับกุมตำรวจพาตัวนาย สิทธิโชคไปค้นที่ห้องพัก ต.หนองระเวียง อ.เมือง พบของกลาง เพิ่มเติม ประกอบด้วย อาวุธปืนยาว 2 กระบอก ปืนสั้น 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 8 นัด, จอแอลซีดีทีวี 6 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง, เครื่องตัดหญ้าฮอนด้า 1 เครื่อง, เลื่อยยนต์ 1 เครื่อง, ตู้เชื่อมเหล็ก 1 เครื่อง, สว่านไฟฟ้า 1 เครื่อง, เลื่อยวงเดือนไฟฟ้า 1 เครื่อง, กล้องถ่ายรูป 2 กล้อง, เครื่องเล่นเกม 2 เครื่อง, สร้อยโลหะสีทอง และพระเครื่องจำนวนมาก ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.จอหอ

สอบสวนนายสิทธิโชครับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย หากพบบ้านที่อยู่ติดถนนไม่มีคนอยู่จะงัดหน้าต่างหลังบ้านเข้าไป โดยถือเคล็ดว่า 1.เข้าบ้านไหนต้องมีของติดมือออกมาทุกครั้ง 2.จะไม่เข้าไปลักทรัพย์บ้านจัดสรร เพราะจะมีกล้องวงจรปิด ยามรักษาความปลอดภัย และ 3.จะไม่ลักทรัพย์ตอนกลางคืน เพราะโทษจะหนักกว่าลักทรัพย์ตอนกลางวัน ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะขายนำเงินมากิน เที่ยวเตร่จนเงินหมด หลังจากนั้นจะออกหาลักทรัพย์ใหม่อีก

แม้จะถือเคล็ดอย่างดี แต่สุดท้ายหนุ่มแสบก็จนมุม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับจนได้

พล.ต.ต.วัชรินทร์ฝากถึงผู้เสียหายที่เคยถูกโจรกรรมทรัพย์สินว่า หากประชาชนสงสัยว่าจะถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุลักทรัพย์ ให้มาตรวจสอบทรัพย์สินของกลาง ซึ่งยังมีที่ไม่ทราบที่มาอีกหลายรายการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

สงสัยคราวหน้าต้องเพิ่มข้อห้าม ไม่โพสต์ขายของกลางทางอินเตอร์เน็ตเข้าไปอีกข้อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน