สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย – เรื่อง/ภาพ

บ่ายโมงวันที่ 28 พ.ค. ที่ลานหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ร่วมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. นำทีมแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักรถรายใหญ่

ซึ่งเป็นผลงานของชุดสืบสวนนครบาล โดย พล.ต.ต.อิทธิพล พร้อมด้วย พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผกก.กก. อารักขา 1 บก.อคฝ. พ.ต.ท.ศยามอินทร์ สุวรรณโณ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ที่ได้จับกุมนายวีรวัฒน์ จันทร์กลาง อายุ 36 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 2/23 หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พร้อมของกลางที่นำมาแสดงเป็นรถยนต์ 16 คัน ประกอบด้วย รถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ 3 คัน รถกระบะ 4 คัน รถยนต์ 8 คัน และรถตู้แวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ 7 คัน ชุดสว่านไฟฟ้า 1 ชุด แผ่นป้ายทะเบียน 9 แผ่น เอกสารคู่มือประจำรถ 10 ชุด แผ่นเพลตแสดงหมายเลขเครื่องและหมายเลขตัวถังรถ 9 แผ่น แผ่นเพลตที่ยังไม่ตอกหมายเลข 40 แผ่น และอะไหล่รถอีกหลายรายการ

พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวถึงเบื้องหลังการจับกุมว่า สืบเนื่องจาก 1 ปีที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาลรับแจ้งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หายกว่า 80 คัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 70-80 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบจนทราบว่ามีแก๊งคนร้ายมีพฤติการณ์ตระเวนโจรกรรมรถยนต์ ในเขตกรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี สระแก้ว และสมุทรปราการ จึงได้สืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายนำรถที่โจรกรรมมาได้ไปซุกซ่อนที่ใด

กระทั่งวันที่ 26 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นของศาลอาญากระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักที่คนร้ายนำ รถที่ลักมาไปซุกซ่อน จำนวน 9 จุด ในเขต พื้นที่ จ.สระแก้ว สมุทรปราการ นนทบุรี สุพรรณบุรี และปทุมธานี สามารถตรวจยึดรถของกลางที่ลักมาจากผู้เสียหาย ได้ 2 คัน รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 5 คัน และรถที่เกี่ยวข้องกับคดีอีก 9 คัน และ จับกุม นายวีรวัฒน์ ไว้ได้ ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ นายสุชาติ รอดหงส์ทอง และ นายรุ่งโรจน์ นาคเกษม หลบหนีไปได้

ขณะที่พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวเสริมว่า จากการสอบสวนนายวีรวัฒน์รับสารภาพว่า แก๊งนี้มี 3 คน โดยนายสุชาติทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแก๊ง คอยติดต่อรับงานจากกลุ่มนายหน้า ส่วนนายวีรวัฒน์ทำหน้าที่เป็น คนขับรถตระเวนหารถที่เป็นเป้าหมายในการลักทรัพย์ และนายรุ่งโรจน์ทำหน้าที่ ตัดสัญญาณกันขโมย เปิดล็อกประตูและ สตาร์ตเครื่องรถที่ลักมาได้

“ก่อนเริ่มงานผู้จ้างวานจะจ่ายเงินมัดจำให้กลุ่มผู้ต้องหา 5,000 บาท จากนั้น จะออกตระเวนหาลักทรัพย์รถยนต์ที่ จอดไว้ในที่ลับตา หรือตามหมู่บ้านที่ไม่มี รปภ. เมื่อสามารถลักรถยนต์คันดังกล่าวออกมาได้แล้วจะนำไปซุกซ่อนไว้ที่อู่รถย่าน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และเปลี่ยน แปลงสภาพภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้น จะส่งต่อรถไปที่อู่รถยนต์ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งรับสวมซากรถที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วนำรถที่สวมซากแล้วไปขายในตลาดรถมือสอง เต็นท์รถ หรือนำไปโพสต์ขายตามเพจเฟซบุ๊ก โดยบอกว่าเป็นรถหลุดจำนำราคาถูก ซึ่งการขายแบบรถหลุดจำนำจะทำให้ได้ราคามากกว่าการขายแบบรถลักมา เพราะผู้ที่ซื้อมาแล้วไม่สามารถโอนเล่มทะเบียนได้

หรืออีกช่องทางคือส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อสามารถขายรถให้ลูกค้าได้แล้ว กลุ่ม ผู้ต้องหาจะได้รับค่าตอบแทน สำหรับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ คันละประมาณ 150,000-200,000 บาท และรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ได้ค่าตอบแทนคันละ 200,000-350,000 บาท” ผบก.สส.บช.น.กล่าว

แนวทางการสืบสวนทราบว่านายวีรวัฒน์เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์รถยนต์, ชิงทรัพย์ และยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ คือนายสุชาติ มีประวัติถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และนายรุ่งโรจน์ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อต้นปี 2560

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเงินหมุนเวียนในกลุ่มดังกล่าวมี 60-70 ล้านบาท โดยตำรวจจะประสาน ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์ เบื้องต้นแจ้งข้อหานายวีรวัฒน์ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำ ความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะติดตาม ผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการขยายผลสามารถตรวจยึดของกลางรถแวนยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน ฮล 9678 กรุงเทพมหานคร ได้จากบ้านเลขที่ 98/47 ม.1 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบของกลางเป็นสมุดใบสั่งกองบังคับการตำรวจจราจร รหัส 7612 ซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร.ต.ท. สังกัด บก.จร.

ตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเป็นผู้ร่วมขบวนการด้วย ทำหน้าที่เป็นผู้สั่งออร์เดอร์และโอนเงินให้กับกลุ่ม ผู้ต้องหาครั้งละ 5,000 บาท ก่อนออกไปตระเวนลักรถ และรับซื้อรถที่สามารถลักมาได้ จากการสอบสวนร.ต.ท.รับว่าสั่งออร์เดอร์โอนเงินล่วงหน้าไปจำนวน 5 คันด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการเอาผิดทั้งอาญาและวินัย

เป็นเจ้าหน้าที่แต่มาทำผิดซะเองอย่างนี้ คงต้องลงโทษสถานหนัก!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน