ติรยา ใจแก้ว – ภูษณิศา สัญญารักษกุล – สำราญ แสงสงค์ – เรื่อง/ภาพ

จับกันไม่รู้จักหมดจัดสิ้นกันเสียทีกับขบวนการค้ายานรก ถึงแม้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะตั้งหน้าตั้งตากวาดล้างทุกวิถีทาง

แม้จะเห็นรุ่นพี่ร่วมอาชีพต้องเดินคอตกเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในคุก หรือถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเด็ดหัวแทบรายวัน

แต่เพราะความยั่วยวนจากกลิ่นหอมของเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ทำให้กลุ่มผู้ค้ายาไม่ยอมเข็ดหลาบ พยายามค้นหาวิถีใหม่ๆ ใช้ตบตาตำรวจ เพื่อขนส่งยาเสพติดให้ลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

ล่าสุดตำรวจลำปางก็สกัดกั้นยาบ้าได้ถึง 13 ล้านเม็ด ด้วยอุปกรณ์ไฮเทค

เหตุจับยาบ้าล็อตใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้น ขณะที่พ.ต.อ.ดอย วงค์พุ่ม รอง ผบก.สกส.บช.ปส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และตำรวจ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง ร่วมกันตั้งด่านสกัดอาชญากรรมและยาเสพติด ที่ด่านเอกซเรย์แม่พริก ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก

เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็พบรถบรรทุก 12 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-6070 เชียงราย ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งขับผ่านมาบรรทุกเฟอร์นิเจอร์ประเภทตู้เอกสารเหล็ก และโซฟา มาเต็มคัน

ตรวจสอบคนขับทราบเป็นชายชาวเชียงราย อายุ 47 ปี ไม่ได้แสดงท่าทีมีพิรุธอะไร แต่มีจุดน่าสงสัยคือ รถดังกล่าวไปรับสินค้ามาจากห้องแถวใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีข้อมูลว่าถูกใช้เป็นแหล่งขนถ่ายยาเสพติดบ่อยครั้ง จึงให้ขับรถผ่านเข้าอุโมงค์เอกซเรย์

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่จอคอม พิวเตอร์แสดงผลก็พบความผิดปกติ เพราะเห็นเงาของสิ่งแปลกปลอมจำนวนมากซุกซ่อนมากับเฟอร์นิเจอร์ จึงขอตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้ง

กระทั่งพบว่า ตู้เอกสารจำนวนกว่า 30 ตู้ ที่บรรทุกมา มียาบ้าซุกซ่อนอยู่ตู้ละ 4 กระสอบ หรือประมาณ 4 แสนเม็ด รวมทั้งหมดพบยาบ้าจำนวนกว่า 13,000,000 เม็ด

เมื่อเห็นยาบ้าล็อตมหึมากองอยู่ตรงหน้าโชเฟอร์หนุ่มถึงกับละล่ำละลักปากคอสั่น ให้การว่า เป็นเพียงพนักงานขับรถของบริษัทขนส่งเอกชนใน จ.เชียงราย ได้รับคำสั่งให้ขับรถไปรับเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมได้ดังกล่าว โดยไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมดที่พบ

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้สอบสวนขยายผล เพื่อตามลากเจ้าของยาบ้าทั้งหมด รวมถึงเครือข่ายเอเยนต์ยาเสพติด และตัวจอมบงการมา ดำเนินคดี

ไกลออกไปสามร้อยกว่ากิโลเมตรจากเหตุการณ์แรก ในช่วงเวลาไม่ห่างกันมากนัก พ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ สืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาบ้าผ่านเข้ามาในพื้นที่แม่อาย

จึงสั่งการให้พ.ต.ท.ตรีกฤช จงวิไล รองผกก.สส. พ.ต.ต.พีรพจน์ ธุระกิจ สว.สส. ร.ต.อ.ประพันธ์ โถงาม และร.ต.อ.ดวงแก้ว อินจา รองสวป. ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ พรมเพ็ชร รอง สว.สส. นำกำลังไปดักซุ่มโป่งเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหว บนถนนสายท่าตอน- ดอยลาง บริเวณหน้าอบต.ท่าตอน ม.3 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย

กระทั่งพบรถยนต์ 2 คันขับผ่านมา ลักษณะตรงตามสายรายงาน จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่คนร้ายไหวตัวทันรีบขับรถแหวกวงล้อมออกไปได้ 1 คัน เจ้าหน้าที่ต้องตามไล่ล่าอยู่พักใหญ่ ระหว่างทางคนร้ายโยนกระสอบ 3 ใบ บรรจุยาบ้ารวม 3 แสน 2 พันเม็ดทิ้งออกจากรถ ก่อนไปจนมุมที่สวนมะม่วงข้างทาง

เจ้าหน้าที่ตามไปจับตัวคนขับไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายเลาฝา อาจู่ อายุ 36 ปี ชาวอ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ส่วนคนที่นั่งมาด้วยอาศัยความมืดหลบหนีไป

ส่วนรถอีกคันที่ถูกสกัดจับได้ก่อน ทราบชื่อคนขับคือ นายจะคา จะปา อายุ 27 ปี ชาวอ.ไชยปราการ เช่นเดียวกัน มีชายหนุ่มวัย 19 ปี นั่งคู่มาด้วย

สอบสวนนายเลาฝาสารภาพว่า มีนายจะดา (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ว่าจ้างให้ขนยาเสพติดจากบ้านป่ากุ๋ย ต.ท่าตอน ไปส่งที่บ้านห้วยม่วง ต.แม่นาวาง

จึงไปจ้างนายจะคาให้ขับรถตาม เพื่อคอยระวังหลังให้ ซึ่งนายจะคาให้การตรงกัน ส่วนชายอายุ 19 ปี ให้การว่านายจะคาชวนนั่งรถมาเป็นเพื่อนเท่านั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งหมดไว้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อขยายผลตามจับตัวนายจะดา และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี

ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 เดินทางไปร่วมตรวจสอบของกลาง และแถลงรายละเอียดผลการจับกุม ที่ด่านเอกซเรย์แม่พริก พร้อมเปิดเผยผลการขยายผลที่น่าตกใจว่า ตร.สงสัยว่าขบวนการดังกล่าวมีการปลอมชื่อ เพื่อจ้างรถขนสินค้าที่ซุกซ่อนยาบ้า มาแล้วถึง 21 ครั้ง และยังมีการติดเครื่องจีพีเอส ไว้คอยตรวจสอบตำแหน่งของยาบ้าที่ขนอีกด้วย จึงสั่งให้ขยายผลตามจับพวกที่เหลือ

เพื่อล้างบางขบวนการอุบาทว์ให้สิ้นไปจากแผ่นดินไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน