คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พิรยุทธ นิ่มนนท์ /จันทร์ชนะ สายสวาท – เรื่อง/ภาพ

การสืบสวนคลี่คลายคดีฆาตกรรม สิ่งที่นักสืบทุกคนต้องรีบทำงานแข่งกับเวลา ต้องรู้ให้ได้เร็วที่สุด นอกจากรูปร่างลักษณะคนร้าย พฤติกรรมการก่อเหตุแล้ว ยังมีข้อมูลส่วนตัวของผู้ตาย ว่าเป็นใครมาจากไหน ทำอาชีพอะไร และที่สำคัญมีปัญหากับใคร ยิ่งรู้เร็วสรุปปมเหตุได้เร็ว โอกาสที่จะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้โดยเร็วก็มีมากขึ้น

แต่หากผู้ตายกับผู้ก่อเหตุไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันมาก่อนเลย หรือเป็นการก่อเหตุ ฆ่าผิดตัว แนวทางวิธีการสืบสวนติดตามจับ กุมคนร้าย ย่อมพลิกแพลงแตกต่างไป ฐานข้อมูลคนร้าย กลุ่มบุคคล หรือบุคคลที่มีแนวโน้มว่าจะก่อเหตุรุนแรง จึงถูกมาวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถจำกัดวงผู้ต้องสงสัย จนถึงระบุตัวคนร้ายและรวบรวมหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลได้

ดั่งเช่นเหตุการณ์เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 21 ส.ค. พ.ต.ท.ขวัญชัย กองศักดิ์ รองผกก.(สอบสวน) สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ปั๊มน้ำมัน ปตท. ปากซอยสุวินทวงศ์ 40 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงโคกแฝก เขตหนองจอก กทม. จึงรุด ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต. ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ ผกก. พ.ต.ท.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ประยูร ประกอบจันทร์ สว.สส. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทร

ที่เกิดเหตุพบ นายผดุงศิษย์ หรือ เบส ยิงรัมย์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 8 ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พนักงานร้านเซเว่นฯ นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณเคาน์ เตอร์ด้านในสุด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ หน้าท้อง 1 นัด และ ต้นขาขวา 2 นัด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล นวมินทร์ 1 แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวน นายต้น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พยานที่เกิดเหตุ ทราบว่า ขณะที่ผู้ตายกำลังยืนล้างตู้ขนมจีบอยู่หลังเคาน์เตอร์ ก็ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 ราย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว เดินเข้ามาภายในร้านแล้วตรงเข้าไปหาผู้ตายก่อนชักอาวุธปืนลูกโม่ยิงใส่ผู้ตายไป 3 นัดซ้อน จนล้มคว่ำลงกับพื้น แล้วคนร้ายก็วิ่งออกจากร้านไปขึ้นรถจยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน ที่คนร้ายอีกคนจอดติดเครื่องรออยู่หน้าร้านหลบหนีไป

ตร.มุ่งประเด็นไปที่ปัญหาส่วนตัว เพราะตัว ผู้ตายเพิ่งย้ายจากจ.ศรีสะเกษ มาทำงานที่ร้านดังกล่าวได้เพียง 2 เดือน และตลอดระยะเวลาที่ทำงานไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร และ เป็นคนขยันทำงาน ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เข้ามาก่อเหตุและหลบหนี เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า จากลักษณะการก่อเหตุคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อชีวิตมากกว่า เพราะคนร้ายมี 2 คน ขี่รถจยย.มาจอดหน้าร้านก่อนที่อีกคนจะเดินลงมาใช้ปืนขนาด .38 จ่อยิงภายในร้านแล้วหลบหนีไป ซึ่งคนร้ายไม่ใช่มืออาชีพเพราะกระสุนเข้าที่ท้อง 1 นัด และขา 2 นัด ส่วนปมก่อเหตุนั้นคาดว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็มีหลายประเด็น

ตร.พยายามตรวจสอบทุกปมประเด็น ที่อาจเป็นชนวนสังหาร ทั้งเรื่องงาน เรื่องชู้สาว ที่แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.3 พบว่าก่อนหน้านี้ได้มีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่ทำงานในร้านเดียวกับผู้ตาย ซึ่งทั้ง 2 คนมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะถูกไล่ออกไป และก่อนที่ ผู้ตายจะเสียชีวิต หญิงดังกล่าวได้เดินร้องไห้ออกมาจากซอยลำไทรใกล้กับที่เกิดเหตุ มาเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อสอบถามว่าร้องไห้เรื่องอะไร หญิงคนดังกล่าวบอกว่าทะเลาะ กับแฟน พอจับใจความได้ว่า ห้ามไม่ฟังและไม่ให้ลงมือทำอะไรบางอย่าง กระทั่งผู้ตายมาถูกยิงเสียชีวิต

แต่เมื่อไล่ตรวจสอบเช็กข้อมูลแล้ว กลับไม่พบความเป็นไปได้ที่จะเป็นชนวนสังหาร ตร.จึงกลับมาตั้งต้นสืบสวนกันใหม่ จนในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้
2
เย็นวันที่ 20 พ.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี นำตัว นายเกียรติศักดิ์ สืบประยูร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/24 ซอยคู้บอน 27 แยก 15 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. คนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 944/2559 ลงวันที่ 2 ก.ย.59 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดนไม่มีเหตุอันควร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในร้านเซเว่นฯ ที่เกิดเหตุ

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า จากการสอบสวนนายเกียรติศักดิ์รับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุได้พบผู้ตายที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท. ซึ่งมีลักษณะหน้าตาคล้ายกับนายโจ๊ก ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเคยเป็นเด็กนักเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง และเคยก่อเหตุยิงนายโรจน์ ซึ่งเป็นเพื่อน รุ่นพี่ที่เรียนช่างกลแห่งหนึ่งเสียชีวิตที่บริเวณฝั่งขวา เมื่อประมาณเดือนธันวาคม ปี 2556

เมื่อพบจึงเกิดความแค้นจึงได้ชักชวน นายสิทธิ์ศักดิ์ หรือ นุ่ม ศรีสุวรรณ ร่วมกันวางแผนมาก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนสุวินทวงศ์ขาเข้าไปยังบ้านพักแถวคู้บอนจากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนี โดยตัวนายเกียรติศักดิ์ได้หลบหนีไปทำงานขนของกับเพื่อนที่ตลาดย่านสมุทรสาคร ส่วนนายสิทธิ์ศักดิ์อยู่ระหว่างติดตามตัว

พ.ต.ท.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผกก.สส.สน.ลำผักชี เผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในปั๊มปตท.ตรงจุดเกิดเหตุ จนทราบใบหน้าคนร้าย ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่ายังเป็นวัยรุ่นอายุยังน้อย จึงประสานงานกับ กก.สส.บก.น.3 และพื้นที่ใกล้เคียงจนทราบว่านายเกียรติศักดิ์และเพื่อนเป็นเคยเด็กช่างกล

เมื่อนำแฟ้มประวัติของกลุ่มนักเรียนช่างกลที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังมาดู ก็พบมีนายเกียรติศักดิ์อยู่ในนั้นด้วย จึงติดตามสืบสวนหาข่าว แต่หลังเกิดเหตุนายเกียรติ ศักดิ์และเพื่อนหลบหนีออกจากที่พัก และเปลี่ยนที่อยู่หลายครั้ง เจ้าหน้าที่เชิญอดีตกลุ่มเพื่อนมาสอบปากคำจนได้ข้อมูลที่หลบซ่อน ก่อนจับกุมได้ในที่สุด

ทำความผิดไว้ อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้ สุดท้ายถูกตามจับได้ทุกราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน