คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ทนงศักดิ์ ศุภการ เรื่อง/ภาพ

“ผมสุดทนแล้วจริงๆ เขาวางยาเบื่อสุนัขของลูกสาวผมจนตาย สุนัขตัวนี้ลูกสาวผมรักมาก จนมีอาการซึมเศร้าและร้องไห้ทุกครั้งเมื่อคิดถึงสุนัข” คำสารภาพด้วยน้ำเสียงอัดอั้นจากปากของ นายสมบุญ บุญจันทร์ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนและพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ

ปฐมบทของเรื่องราว ต้องย้อนกลับไป เมื่อกลางดึกวันที่ 12 พ.ย. เมื่อนายภานุวัฒน์ อินทนาคม กลับเข้ามาที่บ้านพัก ที่บ้านเลขที่ 192 ชุมชนวัดสุบรรณนิมิตร ม.9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าตัวต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบกับร่างไร้วิญญาณของบุพการีทั้งสองคน ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต

ร.ต.ท.นรินทร์ รอดชู รอง สว.สส. สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วยพ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุล รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(ป.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐาน แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสายชลชุมพร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีที่รับแจ้งเหตุร้าย

4_opt

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกว่า 100 คน ยืนมุงดูและวิจารณ์ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น อยู่หน้าบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งตึก ที่ชั้นล่างเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายและหญิง โดย ศพแรก นอนตายบนเก้าอี้หวายห่มผ้านวมขณะที่มือยังกำโทรศัพท์มือถืออยู่ ในบ้าน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้

ตรวจสอบชื่อ นางสุทัศน์ อินทนาคม หรือเจ้หม่ำ อายุ 55 ปี โดนยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ไหล่ซ้าย ลักษณะเหมือนจ่อยิงใกล้ๆ ส่วนผู้ตายอีกรายเป็นสามีชื่อ นายเกียงไกร อินทนาคม หรือ ดำ ชุมพร นอนตายในสภาพหลับนอนถอดเสื้อ ใส่กางเกงกีฬาสีน้ำเงินโดนยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าเบ้าตาซ้าย กระสุน ฝังใน นอนตายบนเตียงนอนใกล้ๆ กัน

2_opt

สอบสวนนายภานุวัฒน์ อินทนาคม หรือเป้ บุตรชายของผู้ตายได้เล่าว่า กลับมาจากทำธุระนอกบ้าน พอกลับมาเข้าบ้านพบประตูบ้านเปิดแง้มไว้ปกติ จึงได้จอดรถและเปิดเข้าบ้าน เห็นทีวีเปิดเสียงดังโดยพ่อนอนบนเตียง ส่วนแม่นั่งที่เก้าอี้ตัวโปรดเหมือนนอนหลับปกติ

แต่เห็นว่าทั้งคู่ไม่พูดจาทักทายตามปกติ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ จึงพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว “ผมตกใจมากร้องออกไปดังลั่นว่าใครทำพ่อกู จากนั้นมีเพื่อนบ้านเขามาดูและโทร.แจ้งตำรวจ” นายภานุวัฒน์กล่าว

ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ตั้งประเด็นของสาเหตุการยิงกันในครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น โดยอาจมาจากผู้ตายมีอาชีพออกเงินกู้ซึ่งอาจเป็นการฆ่าล้างหนี้ กับอีกประเด็นเป็นเรื่องความขัดแย้งกับบ้านข้างเคียงที่ไม่ค่อยถูกกัน เพราะสุนัขคนข้างบ้านมาถ่ายที่หน้าบ้านผู้ตาย กับกรณีปลาที่ผู้ตายเลี้ยงเอาไว้ที่หน้าบ้านหลายร้อยตัวถูกยาเบื่อตายไปจนเป็นเรื่องราวทะเลาะกัน

ลงพื้นที่ติดตามสอบสวนหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เอาวัยรุ่นในละแวกใกล้บ้านมาสอบแต่ปรากฏว่าไม่ตรงกับที่ลูกชายผู้ตายให้การ จึงปล่อยตัวไป

ผ่านไปหลายวัน เหมือนกับคดีจะไม่ค่อยคืบหน้า แต่หลังรวบรวมหลักฐาน อย่างเงียบๆ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองชุมพร ก็จับตัว นายสมบุญ บุญจันทร์ อายุ 41 ปี อยู่ 73 ม.9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร คนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้

โดยนายบุญสมมีบ้านใกล้กันกับของ ผู้ตาย เดิมเจ้าหน้าที่ก็เคยเชิญตัวมาสอบสวนปากคำแล้วแต่ครั้งนั้นยังไม่มีหลักฐานเพียงพอจึงปล่อยตัวกลับไป ครั้งนี้เจ้าตัวก็ยังให้การปฏิเสธ แต่เมื่อถูกสอบเค้นร่วม 3 ชั่วโมง พร้อมกับเจอหลักฐานที่เจ้าหน้าที่นำมาแสดงจึงยอมรับสารภาพในที่สุด

09.30 น. วันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวนายสมบุญไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านที่เกิดเหตุ นายสมบุญสารภาพทั้งน้ำตาว่า ที่ก่อเหตุเพราะมีความแค้นสะสม ส่วนตัวกับผู้ตายมานาน ทั้งที่พยายามอดทนทุกปัญหาและเกรงใจที่นายดำเป็นผู้กว้างขวาง

แต่เรื่องล่าสุดที่ทำให้ทนไม่ได้ คือ ผู้ตายได้ใช้ยาเบื่อ เบื่อสุนัขของลูกสาวตาย “ผม สุดทนแล้วจริงๆ เขาวางยาเบื่อสุนัขของลูกสาวผมจนตาย สุนัขตัวนี้ลูกสาวผมรักมาก จนมีอาการซึมเศร้าและร้องไห้ทุกครั้งเมื่อคิดถึงสุนัข ผมรักลูกสาวและครอบครัวมาก จึงตัดสินใจไปยืมปืน ขนาด.38 ของเพื่อน ที่ ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร มายิงผู้ตาย กับเมีย” นายสมบุญกล่าว

ก่อนลงมือได้เคาะประตูเรียกให้ผู้ตายเปิดประตูให้ ขณะที่ผู้ตายเดินกลับขึ้นไปนอนบนเตียง และเกิดโต้เถียงกันรุนแรง จึงชักปืนยิง นางสุทัศน์ อินทนาคม หรือ เจ้หม่ำ 2 นัด และยิงนายเกรียงไกร อินทนาคม หรือ ดำ 3 นัด ก่อนกลับบ้านไปกราบแม่ว่าทำผิดไปแล้วจึงหลบหนีไป

พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รรท.ผบก.ภ.จว.ชุมพร เผยว่านายสมบุญ เป็นเพื่อนบ้านของผู้ตาย บ้านห่างกัน ประมาณ 100 เมตร นายสมบุญเคยมีประวัติถูกจับกุมในคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ปัจจุบันคดีได้สิ้นสุดไปแล้ว ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานเนื่องจากรู้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้วว่า มือปืนรายนี้คือนายสมบุญ แต่ปล่อยให้ตายใจและออกข่าวไปอีกทาง ทำให้นายสมบุญไม่หลบหนีไปไหน

ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน จึงเสนอหมายจับและเข้าจับกุม เกลี้ยกล่อมจนนายสมบุญให้การยอมรับ ตลอดเวลานายสมบุญจะมีน้ำตาไหล ด้วยความอัดอั้น”

3_opt

คดียิงนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานจากพยานบุคคล แต่ทำได้อย่างลำบาก เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านของผู้ตายเท่าที่ควร โดยเฉพาะเวลาที่เกิดเหตุ เวลาที่พยานได้ยินเสียงปืนดัง ระยะแรกทุกคนปฏิเสธทั้งหมด แต่หลักฐานจากกล้องวงจรปิด พบว่าวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถจักรยานยนต์วนเวียนบริเวณหน้าบ้านผู้ตายหลายรอบ จึงตัดประเด็นที่เกี่ยวกับธุรกิจกู้ยืมเงินออกไป จนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหา ดังกล่าว

ภายหลังการทำแผนฯ มารดาของนายสมบุญที่มาดูการทำแผนอยู่ด้วย เข้าไปโอบกอดลูกชาย ก่อนขอให้ลูกอดทนรับกรรมที่ก่อไว้ และหวังว่าลูกจะหลุดพ้นคุกออกมาเป็นคนดีต่อไป โดยพี่น้องทุกคนรับปากว่าจะดูแล ลูกทั้ง 3 คนอย่างดีที่สุด ชาวบ้านทุกคนต่างให้กำลังใจและเห็นใจมือปืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน