อนุชา แก้วคำมา – เรื่อง/ภาพ

ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันที่ 16 มิ.ย. จนข้ามไปอีกวัน ตำรวจและชาวเมืองพิษณุโลกกระจายกำลังออกติดตามหาตัวไอ้หื่นที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายสาวน้อยวัยแค่ 16 ปี จนบาดเจ็บสาหัส แล้วขืนใจจน ยับเยินทั้งร่างกายและจิตใจ

กระทั่งเวลา 03.00 น. มีชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าพบชายต้องสงสัยวิ่งออกจากท็อปแลนด์พลาซ่า ไปทางตึกร้างฝั่งตรงข้าม จึงไล่ติดตามเพื่อตรวจสอบจนพบตัว

แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมจนมุม กระโดดพุ่งหลาวลงแม่น้ำน่านหน้าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี ลอยคอว่ายน้ำข้ามฝั่งไปฝั่งตะวันตกด้านหน้าโรงแรมวังจันทร์ริเวอร์วิว เจ้าหน้าที่อีกชุดจึงไปดักรออยู่จึงต้องยอมสิ้นฤทธิ์ให้ตำรวจจับกุมแต่โดยดี หลังใช้เวลาหลบหนี ทั้งคืนกว่า 6 ชั่วโมง

สอบสวนทราบชื่อว่า นายสมชาย หรือ หมึก เย็นจิตร ชาวเมืองอุตรดิตถ์ อายุ 44 ปี

ปฐมบทการปิดเมืองสองแควไล่ล่าคนร้ายครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันเกิดเหตุ

ขณะที่มีคนหาปลาเดินทอดแหริมฝั่ง แม่น้ำน่านไปจนถึงบริเวณใต้สะพานนเรศวร (ฝั่งตะวันออก) หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก

ชายหาปลาได้ยินเสียงหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือดังเล็ดลอดออกมาจากท่อระบาย น้ำใต้สะพาน เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปดู ก็พบนายสมชายเปลือยท่อนล่าง คร่อมร่างของหญิงสาววัยกระเตาะ ที่ใบหน้าบวมปูดเต็มไปด้วยคราบเลือด หญิงสาวอยู่ในสภาพอ่อนแรงไร้ทางสู้ มีแต่เสียงร้องไห้คร่ำครวญขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวดเท่านั้นที่ลอดออกมาจากปาก

พลเมืองดีคนดังกล่าวรีบตะโกนเสียงดังเรียกให้ชาวบ้านข้างเคียงมาช่วยเหลือ ทำให้นายสมชายตกใจรีบกระโดดลงแม่น้ำน่าน ว่ายหลบหนีไปยังฝั่งตรงข้าม พลเมืองดีรีบแจ้งตำรวจ

พลันที่ ร.ต.อ.วิรัตน์ โมสกุล รอง สวป.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุสื่อสาร ก็ระดมกำลังออกตามล่าตัวชนิดกัดไม่ปล่อย กระทั่งจนมุมในที่สุด

ส่วนเหยื่อสาววัยเพียง 16 ปี ถูกส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ในสภาพบาดเจ็บ สาหัส ศีรษะแตกเลือดอาบ ฟันถูกชกหัก หลายซี่ ร่างกายสะบักสะบอม

สอบสวนไอ้หื่นให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุดื่มสุราขาวจนเมา จากนั้นเดินไปทางริมแม่น้ำหน้าวัดใหญ่ พบเหยื่อนั่งเล่นอยู่ริมน้ำ

นายสมชายอ้างว่าได้เข้าไปพูดคุยและขอซื้อบริการจากเหยื่อวัยกระเตาะในราคาเพียง 150 บาท ซึ่งฝ่ายหญิงเป็นผู้ชักชวนลงไปมีอะไรกันในท่อระบายน้ำดังกล่าวเอง แต่ด้วยความเมามากทำให้ประกอบกิจไม่สำเร็จ จึงเรียกร้องขอเงินค่าใช้บริการคืน

แต่เหยื่อสาวไม่ยอมพยายามจะหนี เลยคว้าขวดเหล้าตีศีรษะ ชกที่ใบหน้าจนเหยื่อ ฟันหัก ได้รับบาดเจ็บร่างกายสะบักสะบอม กระทั่งมีคนหาปลามาพบจึงรีบกระโดดลงแม่น้ำน่านหลบหนี

แม้ผู้ต้องหาจะให้การแบบนั้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากประวัติของไอ้หื่นรายนี้ไม่ธรรมดา เพราะเคยต้องโทษติดคุก ในคดีข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ บ้านเกิด แล้วถูกส่งตัวมาจำคุกที่เรือนจำกลางพิษณุโลกเมื่อปี 2551 ก่อนที่จะพ้นโทษออก มาเมื่อปี 2556 จึงคุมตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

ส่วนเหยื่อสาวเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ติดตามให้การช่วยเหลือ เพื่อรับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพ พร้อมประสานโรงพยาบาลพุทธชินราช นำตัวเด็ก ไปตรวจร่างกายและสภาพจิตใจ

จากนั้นได้ติดตามไปเยี่ยมที่บ้านเพื่อประเมินครอบครัวเด็ก ก่อนจะนำเด็กเข้าสอบปากคำต่อหน้าทีมสหวิชาชีพ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ต่อมาวันที่ 18 มิ.ย. พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายสมชายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางกำลังตำรวจคุ้มกันกว่า 50 นาย

เพราะหวั่นเกรงว่าชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนมุงดูเหตุการณ์ เป็นจำนวนมาก อาจจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา ก่อนส่งฝากขังต่อศาล

อีกหนึ่งผลงานตัวอย่างจากความร่วมแรงร่วมใจของประชาชน ที่เป็นหูเป็นตาให้ตำรวจช่วยให้ปิดคดีอุกฉกรรจ์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน