อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล – เรื่อง/ภาพ

พัทยา เมืองชายทะเลอันดับหนึ่งของไทย มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ทั้งเรื่องความสวยงาม ความสนุกสนานและเซ็กซ์

ที่ผ่านมาผู้บริหารเมืองพัทยาและหลายหน่วยงาน พยายามลบล้างภาพลักษณ์เก่าๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘เมืองหลวงแห่งเซ็กซ์’

แม้นจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการชาวไทย แต่ยังมีฝรั่งต่างชาติ ที่เข้ามาแอบแฝงตัวเป็นมาเฟีย อาศัยหากินอยู่ในเมืองพัทยา มีพฤติกรรมเป็นตัวถ่วงความดีงาม ยังคงหากินอยู่กับเรื่องเซ็กซ์และยาเสพติด

 

มาเฟียต่างชาติเหล่านี้เป็นเป้าหมายหลักที่ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ต้องเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้

ย้อนไปเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ หัวหน้าชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 295/2561 ลง 16 มิถุนายน 2561 เข้าจับกุมนายสตีเฟน อลัน คาร์เพนเตอร์ อายุ 49 ปี สัญชาติออสเตรเลีย

ในข้อหา “ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”

โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

พ.ต.ท.ดุลยพัฒน์เผยรายละเอียดคดีว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ผู้ต้องหาได้โพสต์รูปภาพในลักษณะโป๊เปลือยของผู้หญิงไทย เห็นหัวนมและอวัยวะเพศหญิง พร้อมบุคคลที่เป็นชายชาวต่างชาติในเฟซบุ๊กชื่อบัญชีว่า Richard Brown

นอกจากนี้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ในเฟซบุ๊กของ ผู้ต้องหา ยังมีการโฆษณาธุรกิจในนาม AUSTHAI Tours โดยการจัดทริปลงเรือ แล้วให้บริการหญิงโสเภณีบนเรือกลางทะเลในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยคิดราคาหัวละ 38,000 บาท

ต่อมาชุดสืบสวนศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ได้รับแจ้งถึงพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้ให้สายลับติดต่อทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ล่อซื้อผู้ต้องหาและผู้ต้องหาส่งหมายเลขบัญชีธนาคาร เพื่อให้สายลับชำระเงินครึ่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.00 น. สายลับได้โอนเงินค่ามัดจำ จำนวน 19,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ซึ่งถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว

ทางศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ศปชก.ตร.) จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหา ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ก่อนรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหากระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ

ชุดสืบสวนจับกุมติดตามแกะรอยจนทราบว่า นายสตีเฟนหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนเวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบตัวผู้ต้องหาบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ดังกล่าว

ตำรวจแสดงหมายจับให้ดู ก่อนที่ เจ้าตัวจะยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน จึงนำตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.มวกเหล็ก

“จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติม พบว่าผู้ต้องหารายนี้กระทำความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพ และวิชาชีพห้ามทำ (ธุรกิจนำเที่ยว), เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ใน ราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จากนี้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีต่อไป” พ.ต.ท.ดุลยพัฒน์กล่าว

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบในเชิงลึกเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่า นายสตีเฟนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติในประเทศออสเตรเลีย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานว่านายสตีเฟนลักลอบส่งยาเสพติด‘โคเคน’ บรรจุลงในหัวไม้กอล์ฟแล้วนำใส่ถุงไม้กอล์ฟจากประเทศไทย ส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย

โดยจะมีเครือข่ายรอรับที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ในส่วนนี้ทางนายสตีเฟนยืนยันปฏิเสธและไม่ยอมให้ปากคำใดๆ โดยอ้างว่าสื่อสารภาษาไม่เข้าใจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ จะได้สอบสวนดำเนินคดีต่อไป

พลันที่ข่าวการจับกุมนายสตีเฟนถูกนำเสนอออกสู่สังคมทางสื่อมวลชนไทย ก็พบว่าข่าวดังกล่าวมีการรายงานออกไปในสื่อต่างประเทศ อาทิ เดลีเมล์ ซึ่งพบว่ามีภาพที่กลุ่มผู้ต้องหา ขณะจัดทริปเซ็กซ์ทัวร์อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน