นพรัตน์ คุ้มศรี, พิชัย ศรีรุ่งเรือง, ภัทรพล แก้วสกุณี – เรื่อง/ภาพ

ย้อนไปเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วรภร แก้วดวงเทียน รอง สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตำรวจบาดเจ็บ ภายในซอยคลองหลวง 24 ชุมชนคลองหนึ่ง ม.3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศราวุฒิ ศรีสุขศิริพันธ์ ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ พฐ.

ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนริมคลอง พบ พ.ต.ท.สมบัติ กานจะบุตร สว.สส.ภ.จว.นนทบุรี และกำลังชุดสืบสวนอยู่ในที่เกิดเหตุ กว่า 10 นาย พบกองเลือด โทรศัพท์มือถือ และห่อยาบ้า 2,000 เม็ดตกอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ จ.ส.ต.อาสาฬ เกตุจำปา อายุ 32 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี

ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด ถูกส่งรักษาที่ร.พ.ปทุมเวชไปก่อนหน้าแล้ว แต่อาการสาหัสและเสียชีวิต ในเวลาต่อมา

พ.ต.ท.สมบัติเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ภ.จว.นนทบุรี จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า 2 ราย ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จากการสอบสวนขยายผล ทั้งคู่ให้การซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจากนายยงยุทธ หว่างไพรี อายุ 27 ปี ฉายา ‘รุ่ง ริมคลองหนึ่ง’ อยู่ในชุมชนที่เกิดเหตุ

ชุดจับกุมจึงส่งสายลับเข้าไปล่อซื้อยาบ้าจำนวน 2 พันเม็ด ต่อมานายยงยุทธเดินออกจากบ้านนำยาบ้ามาส่ง จ.ส.ต.อาสาฬจึงเข้าไปแสดงตัวเพื่อจับกุม แต่คนร้ายไหวตัวทัน ชักอาวุธปืนยิงใส่จ.ส.ต.อาสาฬ จนล้มฟุบ จมกองเลือด จากนั้นวิ่งหลบหนีไป

ตํารวจกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นอยู่ทั้งคืนแต่ก็ไร้เงา กระทั่งในช่วงเช้า พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจงยอดสุข ผบช.ภ.1 นำทีมไล่ล่า พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.ภาค 1 และสุนัขตำรวจ กว่า 40 นาย กระจายกำลังกันหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุอีกครั้ง

พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยว่า สั่งการให้กระจายกำลังตามจับผู้ต้องหา หากคนร้ายต่อสู้เราก็จะทำตามกฎหมาย และต้องใช้มาตรการให้เหมาะสมตามสถานการณ์

สำหรับประวัติของนายยงยุทธเคยถูกจับในคดีเล่นการพนันไฮโลปี’54, ครอบครองยาเสพติดเพื่อจําหน่ายปี’52 ในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ถูกศาลจังหวัดธัญบุรีสั่งจำคุก 8 ปี แต่ติดจริงไม่ถึง 6 ปี เพราะได้ลดโทษต่างๆ ตามกติกาขณะถูกคุมขัง

เพิ่งพ้นโทษออกมาช่วงม.ค.ที่ผ่านมา จึงออกบวชได้ 20 วัน พอสึกออกมาก็กลับมาขายยาเสพติดต่ออีก ล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรีอนุมัติหมายจับ ในคดีฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่แล้ว

“ยืนยันว่าคนร้ายรายนี้เป็นบุคคลอันตรายมากซึ่งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนวิสามัญฆาตกรรมได้ทันทีหากคนร้ายยิงต่อสู้ พร้อมกำชับให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และสวมเสื้อเกราะกันกระสุนทุกครั้งขณะออกปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่านายยงยุทธ เพราะคนร้ายยังมีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าภายในสองสามวันนี้จะมีความคืบหน้าแน่นอน” ผบช.ภาค 1 กล่าว

หลังถูกไล่ล่ากดดันหนัก ประกอบกับรู้ตัวว่าขืนหลบหนีต่อไปมีโอกาสถูกจับตายสูงมาก ในที่สุดนายยงยุทธก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่ สภ.คลองหลวง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.สุวัฒน์ และพล.ต.ต.สุรพงษ์ แถลงข่าวรายละเอียดคดี

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า นายยงยุทธสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงจ.ส.ต.อาสาฬเข้าที่หน้าอก จำนวน 2 นัดจริง โดยก่อนเกิดเหตุสายของชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี เข้าไปล่อซื้ออยู่หน้าบ้าน นายยงยุทธนำยาบ้า 2,000 เม็ดออกมาให้ที่หน้าประตู จังหวะนั้นนายยงยุทธเห็นจ.ส.ต.อาสาฬวิ่งเข้ามาหาเพื่อจะแสดงตัว ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและจับกุมตัว แต่นายยงยุทธได้ชักอาวุธปืนยิงใส่จ.ส.ต.อาสาฬทันที ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปอยู่ในป่าแถวที่เกิดเหตุ

ขณะที่ตำรวจกว่า 100 นายออกค้นหาตามบ้าน ในชุมชน ไม่พบตัว เนื่องจากผู้ต้องหาไปนอนแอบอยู่ในป่า กระทั่งเมื่อวานเย็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญบิดาของนายยงยุทธ มาสอบปากคำ และให้ช่วยเกลี้ยกล่อมนายยงยุทธให้ออกมามอบตัว

กระทั่งตีสาม นายยงยุทธเดินออกมาจากจุดซ่อนตัว จากนั้นได้ไปขอน้ำดื่มจากร้านขายของกิน ก่อนจะนำอาวุธปืนไปฝากนายแมน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท แล้วเข้ามาอาบน้ำ กินข้าวที่บ้าน กระทั่งเช้าจึงตัดสินใจมอบตัว โดยให้พี่สาวนั่งรถแท็กซี่มาเป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าทางตำรวจจะวิสามัญฯ

“อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนให้ครบทั้งหมด ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกบ้าง และจะดำเนินคดีในครบทุกคน เพราะเนื่องจากเป็นบุคคลที่กระจายยาเสพติดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนี้พอจะทราบตัวการในจังหวัดใกล้เคียงแล้ว หลังจากนี้จะเตรียมประสานกับ ปปง.เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดทรัพย์ต่อไป” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว

นายยงยุทธรับว่า ที่ทำลงไปเพราะไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ จึงอยากขอโทษทางครอบครัวของผู้ตาย ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจมามอบตัวเพราะรู้สึกผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน