พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี – เรื่อง/ภาพ

ร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานที่อยู่เวรกะดึก ต้องพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งคนเมาก่อกวน หรือการถูกคนร้ายจี้ปล้นชิงทรัพย์ แต่ครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่คนร้ายก่อเหตุโดยไม่สนใจเงินทอง แต่สนใจเอาแค่ของใช้ส่วนตัวเท่านั้น

เรื่องราวพิลึกเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 4 ก.ค. ร.ต.อ.ธนศักดิ์ พ้องเสียง รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสุขาภิบาล 5 ซอย 5 จามจุรีพาร์ค แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ต.สรายุทธ ปัญญาวิชัย สว.สส.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม และกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน

ที่เกิดเหตุอยู่ปากซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 5 แยก 1 ภายในร้านพบพนักงานอยู่ในอาการตกใจกลัว โดยมีน.ส. นงลักษณ์ โพธิ์บัลลัง อายุ 36 ปี พนักงานขาย รอให้การกับเจ้าหน้าที่ ว่าก่อนเกิดเหตุตนกำลังยืนเช็กสินค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนเพื่อนอีก 2 คนยืนเช็กสินค้าอยู่ด้านในร้าน

จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีขาว สวมหมวกแก๊ปสีขาว เข้ามาภายในร้าน ก่อนจะเดินหยิบสินค้าใส่ตะกร้า มาวางที่บริเวณเคาน์เตอร์เพื่อคิดเงิน เหมือนลูกค้าตามปกติ

เมื่อตนหยิบสินค้าใส่ถุง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำยาบ้วนปาก โรลออน ทาผิว ยาสระผม ครีมนวด และคิดเงินเสร็จรวมเป็นเงินทั้งสินจำนวน 1,169 บาท คนร้ายได้พูดออกมาว่าโอนเงินไปให้แล้ว 2 หมื่นบาท ตนเลยตอบกลับไปว่า ทางร้านรับแต่เงินสดเท่านั้น

หลังจากนั้นคนร้ายพูดออกมาว่า “ตอนนี้เงินสดไม่มี จะเอาใครจะทำไม ถ้าไม่ให้จะใช้มีดแทงนะ” ซึ่งตนก็ไม่เห็นอาวุธ ที่คนร้ายกล่าวอ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจไม่ทราบว่าคนร้ายจะมีอาวุธจริงหรือไม่ และเกรงว่าคนร้ายจะใช้อาวุธทำร้ายตนจริงๆ จึงต้องยอมให้ของไป หลังจากนั้นคนร้ายได้หยิบถุงสินค้าไป 1 ถุง ก่อนขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีเขียวออกไป มุ่งหน้าออกถนนสุขาภิบาล 5

พนักงานสาวเล่าต่อด้วยเสียงสั่นว่า คนร้ายรายนี้ไปแล้วไม่ไปลับ หลังจากผ่านไปไม่นานคนร้ายคนเดิมก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ ย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อตนและเพื่อนเห็นคนร้ายขับรถมาจอดหน้าร้านก็พากันวิ่งไปหลบอยู่หลังร้าน จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้ามา หลังเคาน์เตอร์ก่อนจะหยิบถุงสินค้าที่เหลือ พร้อมหยิบบุหรี่ไปอีกจำนวน 2-3 ซอง พร้อมพูดขู่ว่า “ใครขวางจะแทงให้ดู” ก่อนจะขับรถหลบหนีไป โดยไม่สนใจเงินทอง

ทั้งนี้ ตนจำได้ว่าคนร้ายเคยมาซื้อของที่ร้านเป็นกาแฟ 1 แก้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งแต่ละครั้งที่คนร้าย เข้ามาจะมีท่าทีแปลกๆ คล้ายคนเมา แต่ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์

หลังสอบสวนปากคำเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภาพในร้าน พบว่าสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์และใบหน้าของคนร้าย เอาไว้ได้อย่างชัดเจน

พอเห็นใบหน้าคนร้ายชัดๆ เท่านั้นตำรวจก็ถึงบางอ้อ เพราะ ทั้งใบหน้า รูปร่าง ท่าทางการเดินของคนร้าย คล้ายกับนายสราวุธ เสือเอก หรือเบิร์ด อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 197 ซ.พหลโยธิน 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นคนในพื้นที่บางเขนนั่นเอง

ตีห้าวันนั้นเอง พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พร้อมด้วย พ.ต.ต.สรายุทธ ปัญญาวิชัย สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.อ.อำนาจ อยู่สุข รอง สว.สส.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที ฝ่ายสืบสวน ก็ร่วมกันจับกุมตัวนายสราวุธได้ที่บ้านเลขที่ 197 ซ.พหลโยธิน 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

พร้อมของกลาง สินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ยาสระผม, น้ำยาบ้วนปาก, เครื่องดื่ม, โรลออน, บุหรี่ รวมทั้งหมด 25 รายการ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีเขียว-เทา หมายเลขทะเบียน วบข 294 กรุงเทพมหานคร

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนแน่ใจ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องสงสัย ก่อนจะพบเจ้าตัวซึ่งยังอยู่ในชุดเดียวกันกับที่เพิ่งใช้ก่อเหตุมา จากการสอบสวนนายสราวุธ หรือเบิร์ด ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมา ให้การรับสารภาพ อ้างว่าตนไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร อยู่แต่บ้าน รดน้ำต้นไม้ไปวันๆ

โดยก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไปจนมึนเมา และที่เข้าไปก่อเหตุก็เพื่อต้องการประชดชีวิตเท่านั้น ตนต้องการเพียงสิ่งของเอามาเก็บไว้ โดยไม่มีเจตนาจะเอาเงิน เนื่องจากทางบ้านตนเองมีฐานะอยู่แล้ว แต่อยาก ที่จะหยิบสิ่งของมาใช้เฉยๆ เท่านั้น

หากครั้งนี้ตนไม่ถูกตำรวจจับกุมก็คิดว่าจะกลับมาเอาของใช้ที่ร้านเซเว่นฯ แห่งนี้อีกครั้งด้วย

จะก่อเหตุเพราะประชดชีวิต หรือเพราะเมายา แต่ความผิดก็สำเร็จแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน