คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พิรยุทธ นิ่มนนท์ / สุรัตน์ สรรพคุณ

เรื่อง-ภาพ

ในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทาวเวอร์เครนนับเป็นเครื่องจักรที่สำคัญ เครนล้วนได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี วิศวกรต้องคำนวณชิ้นส่วนทุกชิ้นว่าสามารถรับทำงานสอดรับกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญมีความปลอดภัยต่อผู้ควบคุม

แม้มีการออกแบบมาอย่างดี แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ เมื่อสืบสาวราวเรื่องลงไปถึงสาเหตุ มักมีความประมาทของคนเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย เป็นเช่นนี้แทบจะทุกครั้ง

เช่นเดียวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 29 พ.ย. เมื่อ ร.ต.ท.ปัณณทัต สงวนทรัพย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.มักกะสัน รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเครนขนาดใหญ่ในพื้นที่ก่อสร้างโรงเรียนนานาชาติชรูวส์บิวรี่อินเตอร์เนชั่นแนล ใกล้กับโรงพยาบาลปิยะเวท แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ล้มทับคนงานเสียชีวิต

1

หลังรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก็รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต. ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. เจ้าหน้าที่โยธาสำนักงานเขตห้วยขวาง แพทย์นิติเวช ร.พ.รามาธิบดีเจ้าหน้าที่ พฐ.และอาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ก่อสร้างเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ พบทาวเวอร์เครนขนาดความสูง 14 เมตร หักโค่นลงมาทับทาวเวอร์เครนอีกหนึ่งตัว ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ 1.นายวุฒิไกร เสนาอุดร อายุ 42 ปี 2.นายกิตติชัย น้อยวงศ์ อายุ 26 ปี 3.นายนิทัศน์ โฉมอุปฮาด อายุ 24 ปี และ 4.นายจันนี นิน อายุ 27 ปี (กัมพูชา)

นอกจากนี้ยังมีนายใหญ่ ชัชวาลวงศ์สกุล อายุ 27 ปี วิศวกรคุมการประกอบเครนและนายภานุ สิงห์น้อย อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง ร.พ.ปิยะเวท แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่งเป็นศพที่ 5

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า เท่าที่สอบสวนเวลานี้เชื่อว่าเกิดจากความประมาทของผู้ที่รับผิดชอบ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งคนแรกที่ต้องรับผิดชอบคือวิศวกร ก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ขณะที่ นายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการ ผู้ว่าราชการกทม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่าในส่วนของอุปกรณ์ของตัวเครน ซึ่งอยู่ระหว่างการประกอบตัวเครนเพื่อใช้งานยกของต่างๆ เกิดข้อผิดพลาด

หลังเกิดเหตุเขตห้วยขวางได้สั่งยุติการก่อสร้างชั่วคราว และมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เกิดจากการประกอบเครนที่ไม่สมบูรณ์ สลักของเครนหลุดออกจากชิ้นส่วนประกอบ ซึ่งเมื่อเครนดีดตัวส่งผลให้เกิดการหักลงมา ทั้งนี้อยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งบริษัทผู้รับเหมามาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่สน.มักกะสัน ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เดินทางเข้าพบร.ต.ท.ปัณณฑัต สงวนทรัพย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.มักกะสัน เพื่อติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามภูมิลำเนา

ด้าน พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน กล่าวว่า สอบปากคำพยานไปแล้ว 8 ปาก หลังจากนี้จะต้องประสานบริษัทผู้รับเหมามาสอบสวนเพิ่มเติม วันนี้ประสานให้ เจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหาว่าที่เครนล้มนั้นเกิดจากอะไร และได้ประสานไปยังบริษัทติดตั้งเครน มาสอบปากคำที่สน.มักกะสัน

จากนั้นเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่จาก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วสท. เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาตรวจกว่า 1 ชั่วโมง

ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวภายหลังการตรวจสอบว่า เครนที่เกิดเหตุดังกล่าวมีการติดตั้งไว้ที่ระดับความสูง 9 เมตร เเต่ต้องการต่อเพิ่มขึ้นไปให้มีความสูงถึง 15 เมตร

โดยปกติจะเพิ่มทีละ 2 เมตร ซึ่งในการ ติดตั้งต่อเครนเพิ่มแต่ละชั้น ตามมาตรฐาน ทั่วโลก จะต้องใช้ประกับมาหุ้มแล้วใช้หมุดยึดเพื่อให้แน่นหนา และก่อนจะถอดประกับออกนั้น จะต้องติดตั้งหมุดยึดให้ครบถ้วนเสียก่อน

แต่จากข้อมูลที่ได้รับและตรวจสอบเบื้องต้น สันนิษฐานว่า มีการถอดตัวประกับออกก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้ใส่หมุดยึดให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายและรวดเร็วต่อการติดตั้ง แต่การทำเช่นนี้ทำให้ไม่มีความมั่นคง เป็นเหตุทำให้แขนของเครนเอนหลังลงมาฟาดจนกลายเป็นอุบัติเหตุสลดดังกล่าว

“อยากฝากเตือนไปยังบริษัทงานก่อสร้างต่างๆ ให้ยึดหลักปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย” ศ.ดร.สุชัชวีร์กล่าว

ขณะที่ รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท. กล่าวว่า มีการย้ำเสมอว่า หลักขั้นตอนการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน อยากจะฝากไว้ตรงนี้ว่า ยิ่งชำนาญมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นบ่อเกิดให้มีความประมาทมากขึ้นเท่านั้น

รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. อธิบายการทำงานของเครนว่า เนื่องจากแขนของเครนมีความยาวกว่า 50 เมตร ด้านหลังของเครนจึงมีความจำเป็นจะต้องถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้มีความสมดุลทั้งด้านหน้าและหลัง

จากภาพที่เห็นตัวเครนมีทุ่นน้ำหนักกระแทกเสาถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งเครนหัก ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตก็อยู่ใกล้กับบริเวณข้อต่อของเครน อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตนั้นข้อต่อของเครนใส่หมุดไม่ครบ ก่อนจะถอดตัวประกับออก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ผลการตรวจสอบออกมาในทิศทางเดียวกัน นับเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน