เมธี เมืองแก้ว – เรื่อง/ภาพ

ชาวปักษ์ใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพหลักในการทำสวนยางพารา วิถีชีวิตต้องตื่นแต่กลางดึกไปกรีดยางตลอดทั้งคืนเพื่อนำน้ำยางส่งขายทันที หรือแปรรูปเป็นแผ่นยางดิบ เพื่อให้ได้ราคาดีขึ้น

ในยุครุ่งเรืองราคายางพุ่งพรวดทำให้ชาวสวนยางกลายเป็นเศรษฐีไปตามๆ กัน รัฐบาลก็โหมกระแสสนับสนุนการปลูกยางพารากระจายไปทั่วประเทศ

นอกจากประเทศไทยแล้วยังมีอีกหลายประเทศในอาเซียนที่มียางพาราเป็นสินค้าส่งออก ยังไม่นับรวมประเทศจีนจากที่เคยเป็นคู่ค้ารายสำคัญที่สั่งซื้อยางพารามูลค่ามหาศาลในแต่ละปี ก็หันมาปลูกยางเองภายในประเทศ

เมื่อ “อุปสงค์” (Demand) หรือความต้องการซื้อสินค้า น้อยกว่า “อุปทาน” (Supply) หรือปริมาณสินค้าที่เสนอขาย ราคายางพาราก็ร่วงลงต่ำติดดิน ชนิดที่เรียกว่าราคายางทุกวันนี้ขายได้ 3 กิโลร้อยบาท ความเดือดร้อนก็บังเกิด

เช่นเดียวกับชายชาวตรังวัย 30 ปีรายหนึ่ง ที่ต้องกลายเป็นโจรผู้ร้าย เพราะเจ๊งจากการทำสวนยางพารา

เรื่องรันทดคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ต.ปัญญา ไล่คง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุวิ่งราวทองคำรูปพรรณที่ห้างทองประดิษฐ์ทรัพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 100/1 ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ตรงข้ามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองตรัง

โดยมีเจ้าของร้านและพลเมืองดี กำลังวิ่งไล่กวดตามจับอยู่ จึงรีบประสานตำรวจสายตรวจในพื้นที่เข้าไป ตรวจสอบ

เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าวก็พบว่ามีชาวบ้านวิ่งไล่ล่าชายคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงขี่ จยย.สายตรวจตามล่าอย่างกระชั้นชิด

สุดท้ายชายคนดังกล่าวก็ต้องยอมจำนนหลังเข้าไปหลบในโรงพยาบาลราชดำเนิน เพราะหมดแรงหลังต้องวิ่งหนีมาไกลกว่า 1 ก.ม. จากห้างทองที่ก่อเหตุไว้ พร้อมของกลางเป็นแหวนหัวปลา กระเบน น้ำหนักกว่า 10 กรัม ราคาประมาณ 30,000 บาท

ทราบชื่อคือ นายณรงค์ หมาดหมัน อายุ 30 ปี ชาว ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองตรัง

เจ้าของร้านให้การว่า ตอนเกิดเหตุอยู่หน้าร้านกัน 2 คน นายณรงค์ซึ่งทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาขอซื้อและดูแหวนทอง

ทางร้านได้หยิบขึ้นมาให้ดู 3 วง และ 1 ในนั้นเป็นแหวนหัวปลากระเบน น้ำหนักกว่า 10 กรัม ราคาประมาณ 30,000 บาท ซึ่งนายณรงค์ได้ลองสวมใส่แหวนวงโน้นวงนี้

กระทั่งในช่วงเจ้าของร้านเผลอ นั่งลงรับโทรศัพท์ นายณรงค์ได้ฉวยโอกาสคว้าแหวนทองได้วงหนึ่ง ก่อนจะวิ่งออกไปคร่อมจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีเทาดำ ทะเบียน ขพล 823 ตรัง ที่อำพรางทะเบียนด้วยการปิดบางส่วนของเลขทะเบียน จากเลข 8 เป็นเลข 3 ไว้แล้ว

แต่คนในร้านได้ร้องตะโกนให้คนช่วย นายณรงค์จึงตกใจทิ้งรถไว้แล้ววิ่งหลบหนีไป เจ้าของร้านจึงได้โทร.แจ้งความ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสาน ไล่ล่าตามจับตัวคนร้ายมาได้ในที่สุด

ด้านนายณรงค์ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าประกอบอาชีพทำสวนยางพารา หาเลี้ยงดูลูกและภรรยา แต่ช่วงนี้เป็นฤดูฝนทำให้กรีดน้ำยางได้ลดลง ประกอบกับราคายางพาราตกต่ำ จนไม่อาจสร้าง รายได้ให้ครอบครัว จึงตัดสินใจก่อเหตุวิ่งราวทอง ด้วยการทำทีเข้าไปขอลองแหวนทองเพื่อจะซื้อ

เมื่อเจ้าของร้านเผลอก็รีบฉวยโอกาสวิ่งหนีออกจากร้านโดยสวมแหวานของกลางออกมาด้วย

แต่ขณะจะสตาร์ตรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้านเพื่อขี่หลบหนี เจ้าของร้านวิ่งตามออกมาทัน พร้อมร้องตะโกนให้ชาวบ้านช่วยเหลือ ทำให้ตกใจทิ้งรถวิ่งเตลิดหลบหนีไม่รู้ทิศรู้ทาง กระทั่งหมดแรงถูกตำรวจจับได้ในที่สุด

ไม่ว่าคำให้การของผู้ต้องหาจะทำให้เจ้าของร้านรู้สึกสงสารขนาดไหน แต่เมื่อทำผิดกฎอาญาบ้านเมืองก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนลูกเมียก็คงต้องเดือดร้อนหนักกว่าเดิม เพราะขาดผู้นำครอบครัวที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพราะคงต้องรับโทษในเรือนจำไปอีกนาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน