ณัฐวุฒิ ทิพย์ประโภชน์ – เรื่อง/ภาพ

“ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย” บทกลอนท่อนหนึ่งใน”นิราศภูเขาทอง”ที่สุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บรรจงเปรียบเปรยถึงโทษภัยของสุรายาเมาได้อย่างชัดเจน

“น้ำเปลี่ยนนิสัย” ก็เป็นชื่อหนึ่งของสุราหรือเหล้า ด้วยพอดื่มเข้าไปจนเมาได้ที่ คนที่เคยสุภาพเรียบร้อย ก็กลับกลายเป็นคนห้าว พูดจาโผงผาง หาเรื่องแขวะคนอื่น มีเรื่องระรานชาวบ้านไปทั่วจนแทบจะเป็นเรื่องปกติ พอมีการตั้งวงสุรากันทีไรสุดท้ายต้องลงเอยด้วยเรื่องทะเลาะวิวาททุกครั้งไป

ดังเช่นคดีพบศพชายถูกฆ่าทิ้งน้ำในพื้นที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรี อยุธยา เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็มีจุดเริ่มต้นอยู่ในวงสุรา

ย้อนไปช่วงเวลาดังกล่าว พ.ต.ท.พีรกุล แฝงฤทธิ์หลง สว.(สอบสวน) สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งพบศพอยู่ในพงหญ้าริมคลองไผ่พระ กลางทุ่งนา ม.4 ต.ไผ่พระ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลบางไทรและเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ

ที่เกิดเหตุในป่าหญ้าริมคลอง พบศพชายผิวขาวสภาพคว่ำหน้าอยู่ริมคลองเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วัน ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วบริเวณ สวมใส่เสื้อลายสกอตสีกรมท่า กางเกงขายาวสีดำ เข็มขัดหนัง สีดำ ที่เอวพบตะกรุดสายคาดสีแดง คล้องปลัดขิก ใกล้กันพบตะกรุดอีก 1 เส้นตกอยู่ รองเท้าแตะแบบสวมตกอยู่ 1 ข้าง เท้าซ้ายลักษณะพิการไม่มีนิ้วเท้า ที่กลางหลัง ลำคอ และแขนขวา มีบาดแผลจนเกือบขาด

จากการสอบถามประชาชนบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุไม่มีใครรู้จักหรือพบเห็นผู้เสียชีวิตมาก่อน อีกทั้งเมื่อตรวจสอบในพื้นที่ อ.บางไทร ก็ไม่พบว่ามีการแจ้งคนสูญหายแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ถูกลวงมาทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในบริเวณที่เกิดเหตุ หรือถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาโยนทิ้งน้ำ จนมีผู้มาพบศพดังกล่าวในวันนี้

แม้นหลักฐานจะดูมืดมน แต่กลายเป็นว่าตำรวจสามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว หลังพบศพเพียงไม่ทันข้ามวัน เมื่อต่อมามีนางลัดดา เปรมสำราญ อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี เดินทางมาดูศพ ก่อนระบุว่าผู้ตายคือนายกัญญา เปรมสำราญ อายุ 52 ปี น้องชายที่หายตัวไปตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. เนื่องจากจำได้ถึงลักษณะที่เท้าข้างซ้ายพิการ นิ้วเท้าขาด และเสื้อผ้าที่สวมใส่ออกมาจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าของวันศุกร์ก็ตรงกัน สำหรับ ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นคนชอบดื่มเหล้า และพูดจาโผงผาง จึงอาจจะเป็นสาเหตุให้ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตและนำมาศพมาทิ้งดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจสอบสวนญาติและพยาน จนทราบว่าก่อน ที่นายกัญญาจะหายตัวไปมีนายกำพล จันทร์แจ่ม หรือ นก อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ขับรถกระบะ มารับที่บ้านเพื่อให้ไปช่วยซ่อมรถเกี่ยวข้าวและตัดต้นไม้ที่บ้านของนายกำพล ก่อนที่จะหายตัวไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปสอบสวนนายกำพลที่บ้านพักจนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือฆ่านายกัญญาเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากการนั่งดื่มสุรากันแล้วมีปากเสียงกันจึงได้ยิงนายกัญญาเสียชีวิต แล้วนำศพใส่รถกระบะไปทิ้ง

วันที่ 17 ก.ค. สภ.บางไทร จ.พระนครศรี อยุธยา พ.ต.อ.มาโนช เคลือบวิจิตร ผกก. พ.ต.ท.พีรกุล แฝงฤทธิ์หลง พนักงานสอบสวน สภ.บางไทร ได้นำตัวนายกำพล มาทำการสอบสวนอย่างละเอียด จากนั้นได้ควบคุมตัวไปที่บ้านของนายกำพล ที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าบ้านที่มีการนั่งดื่มสุราแล้วมีปากเสียงกัน

ก่อนที่นายกำพลจะใช้ไม้ทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ยิงนายกัญญา จนเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเย็นของวันเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าตัวรอจนถึงเที่ยงคืน จึงนำศพขึ้นท้ายรถกระบะโตโยต้า สีเงิน หมายเลขทะเบียน บท-2622 นนทบุรี แล้วนำศพมาทิ้งบริเวณพงหญ้าริมคลองไผ่พระ ม.4 ต.ไผ่พระ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ระยะทางห่างจุดที่ฆ่ากว่า 30 กิโลเมตร ผ่าน 3 จังหวัด จากนั้นเจ้าหน้าที่รีบนำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมตัวเพื่อส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฝากขังทันที

ขณะเดียวกันนายกำพลรับสารภาพว่าเป็นเพื่อนกับผู้ตาย เพราะมีบ้านเรือนอยู่ใกล้กัน ก่อนหน้านี้ก็เคยเรียกผู้ตายมาช่วยซ่อมรถเกี่ยวและตัดต้นไม้หลายครั้ง พอเสร็จงานก็จะนั่งดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ แต่ผู้ตายพอเมาแล้วมักจะพูดจาดูถูกดูหมิ่นต่อว่า

ครั้งหลังสุดพอเสร็จงานก็มีปากเสียงด่าทอกันอีกอย่างรุนแรง ตนจึงบันดาลโทสะทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต ตั้งแต่ช่วงเย็นนั่งก็อยู่กับศพจนถึงกลางดึกจึงลากเอาศพขึ้นรถแล้วนำไปทิ้ง จากนั้นก็กลับบ้านทำตัวตามปกติ กระทั่งเจ้าหน้าที่มาสอบเค้นจึงยอมรับสารภาพ

แม้นวัยจะล่วงเลยมาถึงครึ่งชีวิตแล้ว แต่พอเหล้าเข้าปาก อายุก็ไม่เป็นอุปสรรคกับความห้าวแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน