อดิศร จิตตเสวี – เรื่อง/ภาพ

ยาเสพติดถือว่าเป็นภัยระดับชาติ ทุกรัฐบาลต่างมุ่งหวังให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศ ขณะเดียวกันผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่หลังจากที่ถูกจับต่างหาช่องทางลำเลียงให้แยบยลมากขึ้นเพื่อจะตบตา เจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้การส่งยาเสพติดได้เล็ดลอดออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหาวิธีต่างๆ เพื่อจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ๆ ให้ได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม พ.ต.อ. ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.1 กก. สส.ภ.1 พร้อมกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยา เสพติด ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี

ร่วมกันแถลงผลจับกุมยาบ้าบิ๊กล็อต จำนวนถึง 11 ล้าน 6 แสนเม็ด ยาไอซ์อีก 700 กิโลกรัม มูลค่าหลายพันล้านบาท ที่นับว่าเป็นยาบ้า-ยาไอซ์ล็อตใหญ่ที่ตำราจภูธร ภาค 1 จับได้ พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย มี นายจรัญ ก๋านนท์ อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ชาว อ.สันติสุข จ.น่าน นางศรีคำ ปินตา อายุ 38 ปี ภรรยา และ นายชัน สวัสดี อายุ 47 ปี คนขับรถกระบะฟอร์ด ชาว อ.แกลง จ.ระยอง

พล.ต.ต.สุภธีร์ เปิดเผยเบื้องหลังการจับกุมว่า ทางผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ทำงานในเชิงรุก เน้นการติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากจังหวัดภาคเหนือ ใช้เส้นทางจ.พะเยา มาในพื้นที่ภาคกลาง

ตนจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วสันต์ เตชะอัครเกษม พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.1 กก.สส.ภ.1 พร้อมชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สืบสวนติดตามยาเสพติดล็อตดังกล่าว

ต่อมาในวันที่ 25 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบว่าจะมีคนร้ายใช้รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-1838 พะเยา ลำเลียง ยาเสพติด โดยมีรถยนต์กระบะฟอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน กว 7912 เชียงราย เป็นรถกรุยทาง ทิ้งระยะห่างประมาณ 5-30 ก.ม. เพื่อตรวจดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ที่ตั้งด่าน

กระทั่งสามารถสกัดจับรถยนต์กระบะ ฟอร์ดและรถบรรทุกที่ติดตามมาได้ในพื้นที่จ.สิงห์บุรี จากนั้นได้นำรถทั้งสองคันมาตรวจค้นที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี

ผลการตรวจค้นภายในท้ายกระบะรถบรรทุกสิบล้อพบเมล็ดข้าวโพดอยู่เต็มคันรถ เมื่อเทเมล็ดข้าวโพดลงจากรถพบกระสอบจำนวนมากจึงแกะดู พบยาบ้าและ ยาไอซ์จำนวนดังกล่าว ขณะที่รถกระบะฟอร์ดไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย

จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้นำส่งยาไปในเขตปริมณฑลใกล้กรุงเทพฯ โดยนายชัน คนขับรถกระบะฟอร์ดได้ค่าจ้างในการดูลาดเลา 6 แสนบาท ส่วนนายจรัญ คนขับรถบรรทุก 10 ล้อที่บรรทุกยาเสพติดได้ 7 แสนบาทต่อเที่ยว

พฤติกรรมคนร้ายจะใช้รถกระบะขับนำร่องเพื่อตรวจสอบเส้นทางว่ามีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากพบด่านก็จะโทร.แจ้งให้รถบรรทุกยาหาที่จอดรอ จนด่านเลิกหรือเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น หรือหากเป็นช่วงฝนตกก็จะเป็นทางสะดวก เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่ตั้งด่าน เนื่องจากอาจทำให้ประชาชนผู้ใช้รถคนอื่นเป็นอันตราย

ทั้งหมดรับอีกว่าทำมาแล้ว 5 ครั้ง ทั้งนี้ เชื่อว่ายาทั้งหมดเป็นของกลุ่มว้าใต้ เพราะสัญลักษณ์ 999 ที่หีบห่อ

แต่ละครั้งในการจับกุม กลุ่มนายทุนยาเสพติดจะใช้วิธีการต่างๆ ให้เครือข่ายการส่งยาเสพติดได้หลบหลีกการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ เราจึงต้องทำงานเชิงรุกเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย

ขณะที่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่าเส้นทางลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ลำเลียงผ่านพื้นที่ภาคเหนือ และจะนำมาพักไว้ที่จังหวัดแถบปริมณฑล ก่อนจะนำไปกระจายต่อ สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่านายทุนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการให้หมดสิ้นต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน