วัฒนชัย จำนงค์ทอง – เรื่อง/ภาพ

เหตุการณ์ที่มีผู้พบศพนายสมเกียรติ หรือ เขียด ผ่องจันทึก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ 3 ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ในพงหญ้าริมถนนสายบ้านโนนม่วง- นายูง หมู่ 5 ต.โสมเยี่ยม อ.น้ำโสม แม้เจ้าหน้าที่จะทราบตัวมือปืนตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ และใช้เวลาเพียง 3 วัน ในการไล่ล่ากดดัน จนมือปืนยอมเข้ามอบตัว

แต่สาเหตุยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากทั้งฝ่ายผู้ก่อเหตุและพยานฝ่ายผู้ตาย ต่างให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันชนิดหนังคนละม้วน

ย้อนไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ร.ต.อ.พีรยุทธ อุชชิน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณริมถนนสายบ้านโนนม่วง-นายูง หมู่ 5 ต.โสมเยี่ยม อ.น้ำโสม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก.สภ.น้ำโสม พ.ต.ท.ทองพูน จันทะเนตร รอง ผกก.ป. ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลน้ำโสม และหน่วยกู้ภัยฯ

เมื่อไปถึงพบที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านโนนม่วงประมาณ 3 ก.ม. พบศพ นายสมเกียรติ หรือ เขียด ผ่องจันทึก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ 3 ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี นอนหงายอยู่ในพงหญ้าริมถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณท้ายทอย 1 นัด กระสุนทะลุดวงตา โดยมี นายอ๊อฟ อายุ 29 ปี ถูกกระสุนปืนเฉี่ยว ใบหูซ้ายได้รับบาดเจ็บอยู่ในอาการตกใจ

สอบสวนนายอ๊อให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์พากันออกหาปลา โดยตนเป็นคนขับขี่ซ้อนผู้ตาย พอมาถึงที่เกิดเหตุพบนายแหล่ อายุ 31 ปี คนรู้จักกัน ขับขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา จึงตะโกนเรียกทักทายกัน แต่ปรากฏว่านายแหล่ไม่พอใจเลี้ยวรถมาประกบแล้วชักปืนออกมายิงใส่ กระสุนเฉี่ยวใบหูตน

จากนั้นตนรีบขี่รถหลบหนี โดยนายแหล่ยังขี่รถไล่ยิงตามหลังมาอีก 2 นัด จนนายสมเกียรติหงายท้องตกจากรถจักรยานยนต์ ส่วนตนรีบขี่รถหนีกลับบ้าน ต่อมาตนไปที่บ้านนายสมเกียรติพบภรรยาบอกว่ายังไม่กลับมาบ้าน จึงพากันออกมาตามหาตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะพบว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

พ.ต.อ.อาลักษณ์ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บและผู้ตายรู้จักกับมือปืนเป็นอย่างดี ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกัน ส่วนนายแหล่มีประวัติพัวพันยาเสพติด เคยถูกจับเมื่อปี 2558 ข้อหาจำหน่ายยาบ้าและมีอาวุธปืนเถื่อน เพิ่งพ้นโทษออกมา

คดีนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การของนายอ๊อฟทั้งหมด เพราะเสื้อผ้าที่ทั้งคู่สวมใส่อยู่ไม่ใช่ชุดสำหรับไปหาปลา จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการนัดหมายมาพบกันเพื่อตกลงธุรกิจบางอย่าง แต่ตกลงกันไม่ได้จึงไล่ยิงกัน ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

หลังกดดันไล่ล่าอย่างหนัก ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค. พ.ต.อ.อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก.สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี, พ.ต.ท.ทองพูน จันทะเนตร รองผกก.ป., พ.ต.ท.พิษณุ สุริยะ สว.สส. พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้นำนายปฏิวัติ ปิตตานัง หรือ แหล่ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 5 ต.โสมเยี่ยม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38, กระสุน 8 นัด และปลอกกระสุน 2 ปลอก, รถกระบะเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน บน 7102 หนองคาย ที่มีรอยกระสุนหลายสิบนัด

จากการสอบสวนนายปฏิวัติ ให้การรับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บจริง แต่เป็นการป้องกันตัว โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนพยายามจะฆ่ามาแล้วครั้งหนึ่ง โดยใช้อาวุธปืนไล่ยิงหลายสิบนัด ทำให้รถกระบะมีร่องรอยของกระสุนปืนหลายแห่ง แต่สามารถขับหลบหนีรอดมาได้

นายแหล่ให้การว่า แม้ตัวเองจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แฟนสาวของตัวเองถูกคมกระสุนเข้าที่มือได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุเจ้าตัวให้การว่า เนื่องจากพ่อค้ายาบ้าคิดว่าพาตำรวจไปจับ จึงได้มีคำสั่งตายให้จัดการ หลังจากนั้นจึงได้หาอาวุธปืนมาพกติดตัวเอาไว้

“วันเกิดเหตุขณะขับรถกระบะมาจากสวนยางจะกลับบ้าน มาถึงจุดเกิดเหตุ พบกลุ่มผู้ตายซุ่มอยู่บริเวณแถวนั้น แล้วขี่รถจยย.ตามหลังมาพร้อมเรียกชื่อผม ก่อนใช้ปืนยิงใส่รถ จากนั้นผมจึงคว้าปืนยิงสวนกลับไป 2 นัด เพื่อป้องกันตัวเอง แต่มารู้ว่ามีคนเสียชีวิต จึงได้หนี ไปตั้งหลักแล้วให้ญาติติดต่อเข้ามามอบตัวดังกล่าว” นายปฏิวัติกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อาลักษณ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ นายปฏิวัติได้หลบหนีไปที่ จ.เลย ก่อนที่จะให้ญาติติดต่อเข้ามอบตัว โดยตำรวจเดินทาง ไปรับตัวที่บ้านหนองฮี ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านคนรู้จัก พร้อมของกลาง แล้วนำตัวมาสอบสวน

ส่วนที่อ้างว่ามีคนสั่งฆ่าเรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวน แต่สาเหตุที่ยิงกันตายนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างแน่นอน ซึ่งจะขยายผล

หลังสอบสวนตำรวจนำตัวนายปฏิวัติ ไปทำแผนฯประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน