อดิศร จิตตเสวี – พิรยุทธ์ นิ่มนนท์ – เรื่อง/ภาพ

หัวค่ำวันที่ 17 ส.ค. ท่ามกลางความพลุกพล่านของการจราจรบนถนนเพชรบุรี เกิดเหตุชายสองคนเปิดฉากตะลุม บอนกัน ก่อนที่หนึ่งในนั่นจะฟุบลงไปกับพื้นจากคมมีดที่กะซวกเข้าที่หน้าอกขวา ขณะที่ชายที่ก่อเหตุรีบวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ไม่กี่นาทีต่อมา พ.ต.ท.เกษม พิพิธกุล สว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงบาดเจ็บสาหัสบริเวณริมถนนเพชรบุรี ช่วงแยกเพชรพระราม แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท เจ้าหน้าที่แพทย์เวรนิติเวช ร.พ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่ พฐ.และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนเพชรบุรีขาเข้า ก่อนถึงแยกเพชรพระราม บริเวณหน้าศุภาลัย พรีเมียร์ ราชเทวี พบร่างนายชัชวาลย์ พฤกษชาติ อายุ 35 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่เหนือหน้าอกขวาจำนวน 1 แผล นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นถนน เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อพยายามช่วยชีวิตแต่ไม่เป็นผล ในที่สุดเจ้าตัวก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ตำรวจตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบหมวกกันน็อกแบบเต็มใบตกอยู่ 1 ใบ ห่างออกไปประมาณ 4 เมตรพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 เอส สีน้ำเงิน เลขทะเบียน ยฉก 432 กรุงเทพมหานคร ของผู้ก่อเหตุ จอดอยู่ริมถนน ที่รถมีหมวกกันน็อกแขวนอยู่อีก 2 ใบ

ขณะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก 125 ไอ สีเทา เลขทะเบียน 3 กจ 1405 ของผู้ตาย จอดห่างจากศพประมาณ 12 เมตร เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นรถฮอนด้า เวฟ มีผู้ชายเป็นคนขับและผู้หญิงซ้อนท้าย จอดอยู่ข้างทางบริเวณปากซอยเพชรบุรี 12 ลักษณะเหมือนมีปากเสียงกัน ผู้ชายพยายามล็อกแขนผู้หญิงไม่ให้ลงจากรถ แต่พยานไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะคิดว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว และชายดังกล่าวก็ไม่มีท่าทีจะทำร้ายผู้หญิงแต่อย่างใด

กระทั่งรถคันดังกล่าวขี่มาถึงจุดเกิดเหตุ แล้วมีรถฮอนด้าคลิกของผู้ตายขับตามหลัง พยายามเบียดให้จอดริมฟุตปาธ จากนั้นคนขับรถทั้ง 2 คันได้ลงจากรถเข้าตะลุมบอนกัน ก่อนที่ผู้ตายจะล้มลงที่พื้น ส่วนคนร้ายวิ่งข้ามถนนหลบหนีไป เมื่อเข้าไปดูจึงเห็นว่าถูกแทง

คดีนี้ไม่ยากเย็นอะไร เพราะในที่เกิดเหตุคนร้ายทิ้งไว้ทั้งรถจักรยานยนต์ และพยานสำคัญซึ่งคือ น.ส.ส้ม (สงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 30 ปี ผู้หญิงที่ซ่อนท้ายรถผู้ก่อเหตุมาและอยู่ในเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น

จากการสอบปากคำ น.ส.ส้มให้การว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแฟนหนุ่มของตน ชื่อ นายภาณุพงศ์ เขียวหวาน หรือ เอ็ม อายุ 30 ปี โดยก่อนก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับตนที่หน้าห้างพันธ์ุทิพย์พลาซ่า ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกมา และพบกับ นายชัชวาลย์ ผู้ตาย ซึ่งมีเรื่องผิดใจกันมาก่อนจึงเรียกมาพูดคุยหลังจากทั้งคู่เคยทะเลาะกัน นายภานุพงศ์ เลยโชว์มีดที่พกมาเป็นการข่มขู่ ก่อนจะขี่รถออกมา

น.ส.ส้ม กล่าวต่อว่า กระทั่งรถจักรยาน ยนต์จอดติดไฟแดง ตนกลัวจึงพยายามลงจากรถ แต่นายภาณุพงศ์ล็อกตัวไว้ไม่ให้ลง เมื่อไฟเขียวจึงขี่รถออกไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งนายชัชวาลย์ขับขี่ตามมาทันและมีปากเสียงกันอีกครั้งจนถึงขั้นชกต่อยกัน นายภานุพงศ์จึงชักอาวุธมีดมาแทงผู้ตายเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป

รู้ตัวว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน ตำรวจพญาไท จึงติดตามกดดันทั้งทางเพื่อนและญาติพี่น้อง จนล่าสุดวันที่ 20 ส.ค. นายภาณุพงศ์ก็เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจฝ่ายสืบสวน สน. พญาไท หลังหลบหนีไปกบดานอยู่ที่จ.เชียงใหม่ โดยมี พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท รวมกันสอบปากคำ

นายภาณุพงศ์ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับแฟนสาวที่ห้างพันธ์ุทิพย์และเจอผู้ตายพอดี จึงเกิดมีปากเสียงกัน เนื่องจากทราบมาว่าผู้ตายแอบมาชอบพอกับแฟนสาวตน หลังจากรับแฟนสาวออกมาแล้วผู้ตายขี่รถจยย.ตามมาหาเรื่องตนอีก จนเกิดมีปากเสียงกันอีกรอบ ก่อนที่ตนจะใช้มีดที่พกมาจ้วงแทงผู้ตายแล้วหลบหนีไปจ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นคิดว่าหนี ไม่รอดแน่จึงเดินทางเข้ามอบตัวดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.เกษม พิพิธกุล สว.(สอบสวน) สน.พญาไทได้ควบคุมตัวนายภาณุพงศ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวน 3 จุด จุดแรกบริเวณหน้าห้างพันธ์ุทิพย์ จุดที่สองบริเวณปากซอยเพชรบุรี 12 และจุดสุดท้ายที่บริเวณริมถนนเพชรบุรีขาเข้า ใกล้แยกเพชรพระราม หน้า ศุภาลัย พรีเมียร์ ราชเทวี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

หลังเสร็จสิ้นการทำแผน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวกลับไปสอบปากคำเพิ่มเติม และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน