คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พิรยุทธ นิ่มนนท์ /จันทร์ชนะ สายสวาท

เรื่อง/ภาพ

เช้าวันที่ 13 ธ.ค. เกิดเหตุฆาตกรรมสยองขึ้น เมื่อมีผู้พบศพโชเฟอร์ รถแท็กซี่ วัย 49 ปี ถูกฆ่าตายเปลือย ภายในซอยรามอินทรา 5 ตร.บางเขนรุดไปตรวจสอบ พบก่อนตายเจ้าตัวมีเรื่องทะเลาะกับวัยรุ่นอายุเพียง 15 ปี จนมาถูกฆ่าตายสยอง

เหตุการณ์เปิดเผยขึ้นเมื่อ ร.ต.อ.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ รองสว.(สอบสวน) สน. บางเขน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในซอยรามอินทรา 5 แยก 17 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ สวป. พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย พ.ต.ต.ภิญโญ แสงทิพย์ สว.สส. ร.ต.อ. พรชัย ว่องประเสริฐการ รอง สว.สส. แพทย์นิติเวช ร.พ.ภูมิพล กองพิสูจน์หลักฐานและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นคอกเลี้ยงม้าเก่า เนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา ถูกดัดแปลงทำเป็นบ้านพักไม่มีเลขที่ มีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณด้านหน้าบ้านพบศพ นายชมภู ขันธุรา อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 145 ม.4 ต.ดงแคนใหญ่ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร สภาพศพนอนคว่ำไม่สวมเสื้อผ้า ตรวจสอบร่างกายพบบาดแผลคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่ศีรษะ แขนซ้าย ไหล่ขวา และลำตัว กว่า 20 แผล บริเวณใกล้เคียงพบโทรศัพท์ 1 เครื่องตกอยู่

เจ้าหน้าที่สอบสวน นายพัธ มักผล อายุ 37 ปี ให้การว่า ตนขับแท็กซี่กะดึกคู่กับคนตายซึ่งขับกะเช้า โดยพักอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ปกติจะดื่มเหล้าด้วยกันประจำ ช่วงหัวค่ำก่อนเกิดเหตุชวนผู้ตายไปซื้อเหล้ามาดื่มด้วยกัน จากนั้นก็เข้านอน ตอนเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. ตนเดินจากบ้านพักมาเรียกผู้ตาย เนื่องจากนัดกันไปดูข่ายที่ดักปลาไว้ ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตแล้ว

นายพัธให้การว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายพาหญิงสาวมาที่บ้านพัก 3 คน โดยบอกตนว่ารับ ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวมาจากปั๊มเอสโซ่ ตรงข้ามห้างบิ๊กซีดอนเมือง (สะพานใหม่) แต่ไม่มีค่าโดยสาร จึงพากลับมาที่บ้านพัก

“ขณะนั้นผมขับออกไปซื้อเหล้าดื่มไม่ถึง 15 นาที ผู้ตายก็ขับรถกลับออกไปส่งหญิงสาวกลุ่มดังกล่าว หลังจากส่งแล้วผู้ตายกลับมาเล่าให้ฟังว่าตอนส่งหญิงสาวกลุ่มนั้นลงรถมีกลุ่มวัยรุ่นชายประมาณ 6-7 คนจอดรถรออยู่ และมีวัยรุ่นหนึ่งในกลุ่มนั้นขู่ว่า มึงทำอะไรแฟนกูเดี๋ยวกูจะเอาให้ตาย จากนั้นก็มาเกิดเหตุดังกล่าว” นายพัธให้การ

ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม จนมีพยานให้ข้อมูลว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. คืนวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกัน จากนั้นได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ
1
เบื้องต้นตำรวจคาดว่าจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัวหรือเรื่องชู้สาว ซึ่งตอนเกิดเหตุคาดว่าผู้ตายน่าจะนอนอยู่แล้วถูกบุกเข้ามาใช้อาวุธทำร้ายจนเสียชีวิต จึงเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในซอยที่เกิดเหตุ รวมทั้งไปสอบสวนหาพยานที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ดอนเมือง (สะพานใหม่) เพื่อหาเบาะแสของหญิงสาวกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งวัยรุ่นที่กล่าวอาฆาตผู้ตายเอาไว้

เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนตามจนพบตัวหญิงสาวทั้งสามคนดังกล่าว เมื่อสอบสวนก็ได้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงดึกวันก่อนทั้งสามพบกับผู้ตายที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ดอนเมือง (สะพานใหม่) ผู้ตายรับวัยรุ่นสาวทั้งสามคนขึ้นรถมา แต่เนื่องจากไม่มีค่าโดยสารจึงพากลับมาที่บ้านพักภายในซอยรามอินทรา 5 จากนั้นได้ให้ทั้งสามคนใช้ปากและมือช่วยกันสำเร็จความใคร่ให้ โดยตกลงว่าจะให้เงิน 200 บาท แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว จึงพากลับไปส่งยังจุดที่รับมา แล้วให้เงินกับวัยรุ่นทั้งสาม 100 บาท

ขณะมาส่งได้พบกับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี แฟนหนุ่มของหนึ่งในกลุ่มสาวดังกล่าว นายเอไม่พอใจถึงกับกล่าวอาฆาตเอาไว้ แน่นอนว่าในชั้นนี้ผู้ต้องสงสัยหนีไม่พ้นนายเอ
2
17.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมพ.ต.อ.ภานุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.กก.สส.บก.น.2 ก็รีบเดินทางมาที่ สน.บางเขน หลังได้รับรายงานว่า นายเอ (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 15 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมของกลาง อาวุธมีดดาบ 2 เล่ม เสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ เลขทะเบียน ษงม 829 กทม. หลังถูกไล่ติดตามกดดันอย่างหนัก

พล.ต.ท.ศานิตย์ร่วมสอบปากคำนายเอ ก่อนกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง ส่วนสาเหตุเนื่องจากแฟนของนายเอ ผู้ต้องหา ขึ้นรถแท็กซี่มากับเพื่อนอีก 2 คน จากนั้นมีการพูดจาหยอกล้อเชิงชู้สาว จากนั้นผู้ตายได้ขับรถพาทั้ง 3 คนมายังบ้านพักแล้วลวนลาม สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนสาวจึงได้โทรศัพท์ไปฟ้องนายเอ จากนั้นนายเอจึงได้ขี่รถ จยย.นำอาวุธมีดดาบมาลงมือก่อเหตุดังกล่าว

โดยนายเอยอมรับสารภาพว่า ลงมือทำเพียงลำพัง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาว่า “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” นำส่งพนักงานสอบสวนสน.บางเขนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน