วิทยา ปัญญาศรี – เรื่อง/ภาพ

“หนูขโมยของมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง เริ่มจากการขโมยของครั้งแรก คือการขโมยโทรศัพท์คุณครูที่โรงเรียน ตอนนั้นครูจับได้แต่ไม่เอาเรื่อง จนกระทั่งจบชั้นป.6 หนูไม่เรียนต่อ ไม่มีงานทำอาศัยอยู่กับตา-ยาย ส่วนเงินที่ขโมยมาได้ก็จะนำไปใช้จ่ายเที่ยวเล่นกับแฟนหนุ่ม” คำรับสารภาพอันชวนตะลึง จากปากของ น.ส.มิว (นามสมมติ) อายุ 15 ปี โจรสาววัยใส ที่รับว่าก่อเหตุมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง

เรื่องราวของโจรสาววัยใสรายนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ต.ท.มนูญ ม่วงมิตร สารวัตรสอบสวน โรงพักวังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันควบคุมตัวน.ส.มิว (นามสมมติ) อายุ 15 ปี มา สอบสวนที่โรงพัก ภายหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางหวาน โนนบุ อายุ 54 ปี ได้มาแจ้งความที่สภ.วังเจ้า ว่าเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีขโมยแอบเข้าไปในบ้านของตน ก่อนจะรื้อค้นทรัพย์สิน ได้สร้อยคอทองคำเส้นละ 1 บาท จำนวน 3 เส้น และยังขโมยเครื่องประดับต่างๆ รวมทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นของหลานสาวตนไปด้วย

โดยหลังรับแจ้งชุดสืบสวน ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน สืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม หลานสาวของผู้เสียหายได้เปิดเฟซบุ๊กพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่ง สวมเสื้อและใส่ต่างหู คล้ายกับของตนที่หายไป ได้ถ่ายรูปคู่กับแฟนหนุ่มลงเฟซบุ๊ก ซึ่งหลานสาวของผู้เสียหายจำทรัพย์สินได้อย่างแม่นยำ จึงได้แจ้งให้นางหวาน ซึ่งเป็นยายทราบ และพากันมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัว

พลันที่ตำรวจได้ข้อมูล จึงวางแผนจับกุมโจรสาววัยใส โดยให้ผู้เสียหายทำทีติดต่อไปทางแช็ต เพื่อแกล้งถามถึงที่มาของต่างหูและกระเป๋าผ้า ที่ใส่อยู่ในรูปถ่ายบนเฟซบุ๊ก ว่าซื้อที่ไหนจะไปหาซื้อมาใส่บ้าง และพยายามหลอกถามที่อยู่ จนได้ข้อมูลชัดเจน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกไปตรวจสอบตามที่อยู่ที่สืบสวนมาได้ ก่อนจะพบผู้ต้องหาน.ส.มิว กำลังเดินอยู่บริเวณหน้าบ้าน และยังสวม ต่างหูที่ขโมยมาอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและสอบถาม ผู้ต้องหา ที่เป็นเยาวชนหญิงวัยเพียง 15 ปี ทำเอาเจ้าตัวถึงกับตะลึง ด้วยไม่คาดคิดว่าตำรวจจะตามสืบจนรู้ว่าตนเป็นคนร้าย

เมื่อจำนนต่อหลังฐาน น.ส.มิวก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดี ว่าตนเป็นผู้ขโมยของในบ้านของยายหลานผู้เสียหายจริง พร้อมกันนั้นยังพาชุดสืบสวนไปตรวจค้นของกลาง เป็นสร้อยคอและเครื่องประดับ ที่เจ้าตัวนำไปซุกซ่อนเอาไว้ เพื่อเตรียมนำไปทิ้ง เนื่องจากขายไม่ได้

น.ส.มิว โจรสาววัยใส ยังให้การในเบื้องต้นว่า ตนเองเคยเป็นเพื่อนกับหลานสาวของนางหวาน และเคยเข้าออกบ้านที่เกิดเหตุหลายครั้ง ทำให้รู้ว่าในบ้านสามารถเข้าออกได้ทางใดบ้าง วันที่เกิดเหตุเข้าไปตรวจดูที่ประตูหน้าบ้าน พบว่ามีกุญแจคล้องอยู่แต่ไม่ได้ล็อก จึงบิดกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้านได้โดยง่ายดาย

โจรสาววัยใส ให้การเพิ่มเติมว่า ได้รื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ได้กลัวว่าเจ้าของบ้านจะกลับมาเจอ เมื่อค้นหาทรัพย์สินได้ส่วนหนึ่ง จึงเดินออกจากบ้าน ขณะนั้นเหลือบตาไปเห็นเสื้อแฟชั่นของหลานสาวผู้เสียหาย แขวนอยู่ที่ราวตากผ้า รู้สึกชอบจึงหยิบเอามาด้วย ทั้งนี้ทรัพย์สินที่ขโมยมา หากเป็นทองตนจะนำไปทยอยขาย นำเงินมาใช้จ่าย หากเป็นเงินสด ก็จะนำมาใช้จ่ายซื้อข้าวของตามที่ใจอยากได้

ทั้งนี้โจรสาววัยใสให้การยอมรับว่า ขโมยของมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง เริ่มจากการขโมยของครั้งแรก คือการขโมยโทรศัพท์คุณครูที่โรงเรียน ตอนนั้นครูจับได้แต่ไม่เอาเรื่อง จนกระทั่งจบชั้นป.6 และไม่เรียนต่อ ไม่มีงานทำอาศัยอยู่กับตายาย ส่วนเงินที่ขโมยมาได้ก็จะนำไปใช้จ่ายเที่ยวเล่นกับแฟนหนุ่ม

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถามถึงเรื่องที่โพสต์ เฟซบุ๊ก โจรวัยใสบอกว่า ไม่คิดว่าผู้เสียหาย จะจำเสื้อและของที่ขโมยมาได้ และไม่คิดว่าตนเองจะถูกจับอีกด้วย

ด้วยความที่เจ้าตัวยังเป็นเยาวชนอายุเพียง 15 ปี หลังสอบสวนพ.ต.ท.มนูญ จึงส่งตัวไปที่สถานพินิจ ก่อนเร่งประสานเจ้าหน้าที่ สหวิชาชีพ ร่วมสอบสวนปากคำ เพื่อแจ้งข้อหาอย่างเป็นทางการอีกครั้งต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน