คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พฤตินัย มั่งสวัสดิ์ – วัฒนชัย จำนงค์ทอง

เรื่อง/ภาพ

สภาพสังคมที่ฟุ้งเฟ้อ วัตถุนิยม นำมาซึ่งปัญหาสังคมมากมาย ปัญหาแม่วัยรุ่น ท้องก่อนวัยอันควร ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่นับวันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ข่าวคราวพบเด็กทารกทั้งที่ยังมีชีวิตและถูกทำแท้งออกมาก่อนจะมีโอกาสได้ลืมตาดูโลก ถูกนำมาทิ้ง มีให้เห็นแทบจะทุกวัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. มีผู้พบศพเด็กทารกแรกเกิดถูกนำมาทิ้งไว้ในถังขยะข้างสวนสาธารณะวังมัจฉา ริมหนองบัว ชุมชนหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

1_opt

แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวบ้านต้องตกตะลึง เป็นภาพของศพทารกแรกเกิดเพศหญิง ถูกของแข็งทุบหัวและถูกเชือดเป็นแผลฉกรรจ์หวิดขาด กลายเป็นคดีฆาตกรรมในบัดดล

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ และเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่พบว่าเป็นช่วงกลางคืนมองอะไรไม่ได้ชัดเจนมากนัก จึงยังคงเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น

3

โดยผู้ต้องสงสัยเป็นวัยรุ่นผัวเมียคู่หนึ่ง สามีอายุ 20 ปี ทำงานพนักงานร้านพิซซ่า ส่วนภรรยาวัยแค่ 16 ปี ทำงานเสิร์ฟร้านอาหารอีสานชื่อดังแห่งหนึ่ง

พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 นำชุดสืบสวน ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติพงษ์ จิตรคาม ผกก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.ภ.4 พ.ต.ท. ณัฐพล มุงคำภา พ.ต.ต.สมภพ กองสมบัติ สว.สส.สส.ภ.4 นำกำลังลงพื้นที่เร่งสืบสวนหาข่าว รวมทั้งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติม

พ.ต.ต.สมภพตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งที่สามารถจับภาพเงาเหมือนหญิงสาวสวมผ้าถุง เดินถือถุงขยะใบใหญ่เดินไปที่ริมถนน ตรงจุดเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่มเศษๆ ของคืนวันที่ 30 พ.ย. จึงได้นำมาทำภาพเชิงซ้อนและขยายใบหน้าเปรียบเทียบโดยใช้เทคนิคพิเศษ จนพอจะได้เค้าลางของใบหน้าหญิงสาวผู้ต้องสงสัย

ถัดมาวันที่ 9 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เชิญตัว น.ส.ทิพย์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พร้อมแฟนหนุ่มมา สอบสวน

4

พลันที่น.ส.ทิพย์ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดเจ้าตัวก็ร่ำไห้ออกมา พร้อมยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า เป็นคนเดียวกันที่อยู่ในกล้องวงจรปิด และเป็นคนลงมือฆ่าปาดคอลูกในไส้ของตัวเอง เพราะไม่อยากมีปัญหากับสามีและยังไม่พร้อมที่จะมีลูก โดยปิดบังเรื่องตั้งท้องกับสามีมาโดยตลอด โกหกว่าไปตรวจมาแล้วหมอบอกว่าอ้วน ไม่ได้ตั้งท้อง กระทั่งเกิดคลอดลูกโดยไม่ตั้งใจขณะนอนพักอยู่ในห้องคนเดียว คิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องจึงตัดสินใจฆ่าลูกและกลับมานอนพักและทำความสะอาดคราบเลือดทิ้งหลักฐานทั้งหมด

ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ผกก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเรียนจบชั้น ม.3 แล้วไปทำงานร้านอาหารที่กรุงเทพฯ และ ได้อยู่กินกับแฟนหนุ่มที่ไปทำงานด้วยกัน ก่อนจะกลับมาทำงานที่อุดรธานี แต่หลังอยู่กินด้วยกันปีเศษฝ่ายหญิงตั้งท้องโดยไม่รู้ตัวและปกปิดเรื่องเอาไว้ไม่อยากให้สามีรู้เพราะยังไม่พร้อม

พ.ต.อ.ณัฐนนท์กล่าวว่า กระทั่งหลังเลิกงานประมาณสามทุ่มเศษ สามีขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งน.ส.ทิพย์ที่หอพัก แล้วสามีกลับไปทำงานต่อแล้วไปเล่นสนุ้กเกอร์กับเพื่อนๆ จนประมาณช่วงเที่ยงคืนจึงกลับมาที่ห้องก็พบว่าน.ส.ทิพย์นอนพักอยู่ในห้อง และยังเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุพบศพทารกถูกฆ่าทิ้งถังขยะอยู่ทางเข้าหอพัก เมื่อตำรวจมาสอบถามก็ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ด้านพ.ต.ท.ชาญณรงค์กล่าวว่า คดีนี้ทีแรกสงสัยว่าสามีจะรู้เห็นด้วย แต่น.ส.ทิพย์รับสารภาพว่ากระทำการเพียงคนเดียว โดยเล่าว่าเคยอยู่กินกับสามีที่ร้านอาหารในกรุงเทพฯ และกลับมาอยู่ที่อุดรฯ กระทั่งทะเลาะกัน จึงกลับไปหาแฟนเก่าและตั้งท้อง ก่อนจะกลับมาอยู่กินกับสามีคนนี้อีกครั้งเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และปกปิดเรื่องตั้งท้องเอาไว้ เพราะเกรงว่าสามีจะรับไม่ได้ จนเมื่อสบโอกาสคลอดลูกออกมาจึงฆ่าทิ้งไม่บอกใคร

“เจ้าตัวบอกว่าคืนวันเกิดเหตุนอนพักอยู่ที่ห้อง เกิดปวดท้องเหมือนปวดอุจจาระ จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำแต่ไม่ทันจะนั่งก็เกิดคลอดลูกออกมาจนลูกกระแทกกับโถส้วมและตกลงไปในโถส้วม เมื่ออุ้มเด็กขึ้นมาดูพบว่าแน่นิ่งไม่หายใจ อีกทั้งการตั้งท้องก็ปิดเรื่อง ไม่ให้สามีรู้เรื่อง จึงตัดสินใจฆ่าลูกทิ้งด้วยการเอามีดปอกผลไม้มาเชือดคอ เขายังเล่าให้ฟังว่าขณะเชือดคอเด็กทารกที่คิดว่าตายไปแล้วได้เอามือหยิกแขนด้วยความเจ็บปวดก่อนสิ้นใจตาย จากนั้นก็เดินลงมาเอาถุงขยะสีดำที่ ชั้นล่างของหอพัก เพื่อมาห่อศพทารกไปทิ้งด้วยการนุ่งผ้าถุงออกไปที่ถังขยะ จนกล้องวงจรปิดจับภาพได้” พ.ต.ท. ชาญณรงค์กล่าว

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวน.ส. ทิพย์ไปชี้จุดที่พักห้องเช่า บริเวณชั้นสองของหอพักไม่มีชื่อใกล้จุดพบ ศพทารก และชี้จุดทิ้งศพในถังขยะ ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ปิดคดีสลดลงอีก 1 คดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน