คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เรื่อง/ภาพ

อาชีพคนรับใช้ หรือศัพท์สมัยใหม่เรียกว่า ‘คุณแจ๋ว’ แม้นชื่อจะดูต่ำต้อยในสายตาของบางคน แต่ก็เป็นอาชีพที่สุจริต มีศักดิ์ศรีไม่แตกต่างจากอาชีพทั่วๆ ไป นอกจากจะต้องเก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนแล้ว ยังเป็นอาชีพที่ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีนิสัยมือไวใจเร็ว

แต่เป็นธรรมดาทุกอาชีพทุกวงการ ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลว รวมทั้งยังมีมิจฉาชีพที่แฝงมาในคราบต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนรับใช้

ดังเช่นรายล่าสุด ที่เรื่องราวถูกเปิดเผย ขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 12 ธ.ค. นายธนภาค จิระเดชดำรง อายุ 30 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัทซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์แห่งหนึ่ง เจ้าของบ้าน ที่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ว่าถูกสาวชาวเมียนมา ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานในบ้าน เลขที่ 41 ซอยตากสิน 12 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ได้เพียง 2 วัน ก่อนจะฉกทรัพย์สินมีค่าทั้งเครื่องเพชร เงินสดไทยและต่างประเทศมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท

นายธนภาคให้การว่า บ้านของตนเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 3 ชั้น อยู่ภายในซอยตากสิน 12 พักอาศัยอยู่เป็นครอบครัวรวม 5 คน กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมาตัดสินใจติดต่อนายหน้าหาคนใช้และว่าจ้าง น.ส.ขิ่น เมียท อู ปู ชาวเมียนมา อายุ 30 ปี ที่อยู่ระบุตามบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย พักอยู่บ้านเลขที่ 189 ม.1 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ มารับหน้าที่ทำความสะอาดและรับใช้ทั่วไป

2

เหตุการณ์ดำเนินไปตามปกติ คนรับใช้สาวทำงานขยันขันแข็งเป็นที่น่าพอใจ จนเช้าวันเกิดเหตุวันที่ 12 ธ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. น.ส.ขิ่นบอกพ่อและแม่ตนว่า ขออนุญาตไปเยี่ยมแฟนหนุ่มสัญชาติเดียวกัน ซึ่งถูกรถชนอยู่โรงพยาบาล ในจ.สมุทรปราการ คนในบ้านจึงอนุญาต ก่อนที่น.ส.ขิ่น จะออกไปพร้อมกับถุงพลาสติก 2 ใบ และไม่กลับมาอีกเลย

ภายหลังกลับมาจากที่ทำงานในช่วงเย็น ตนขึ้นไปยังห้องนอนยังชั้นที่ 3 ของบ้านก็เริ่มผิดสังเกตว่า กุญแจที่ไขตู้และลิ้นชักเก็บทรัพย์สินได้หายไป จึงนำกุญแจสำรองออกมาเพื่อไขดู ก็พบว่าทรัพย์สินมีค่า หายไปจนหมด ขณะที่น.ส.ขิ่น ก็ยังไม่กลับมา อีกทั้งไม่สามารถโทร.ติดต่อได้เลย ตั้งแต่ช่วงเช้าภายหลังออกจากบ้านไป

สำหรับทรัพย์สินที่หายไป มีทั้งแหวนเพชร 2 วง สร้อยคอเพชร 2 เส้น สร้อยข้อมือเพชร 2 เส้น สร้อยทองคำ พร้อมพระเครื่อง เงิน สดสกุลยูโร 1 ล้านบาท และเงินสดสกุลไทยอีก 8 หมื่นบาท รวมกว่า 7 ล้านบาท

5

หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน. บุคคโล พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล และพ.ต.ท.มหพล มีเสน สว.สส.สน.บุคคโล ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ตํารวจตรวจสอบจนพบความเคลื่อนไหวล่าสุดของน.ส.ขิ่น ไปปรากฏตัวอยู่ที่ย่านถนนกิ่งแก้ว จ.สมุทร ปราการ คาดว่าคงหลบหนีไปกบดานกับกลุ่มแรงงานพม่าด้วยกัน ตามนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะรีบรวบรวมหลักฐานในการขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ

4_opt

ขณะเดียวกันพ.ต.อ.จิณวัตรเปิดเผยว่า หลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ชุดสืบสวนติดตามไปยังที่ที่ผู้ต้องหาเคยไปทำงานในย่าน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อเก็บข้อมูล ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอออกหมายจับจากศาลอาญาธนบุรี และศาลได้ออกหมายจับเลขที่ 796/2559 ลงวันที่ 13 ธ.ค.59 ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างกำลังตำรวจไปตรวจสอบตามแหล่งที่คาดว่าจะไปกบดานอยู่ เช่น สุวินทวงศ์ มหาชัย บางเสาธง บางแก้ว รวมทั้งประสานด่านตม. ทั้ง 5 ด่าน ประกอบด้วย ด่านแม่สาย จ.เชียงราย ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านจ.กาญจนบุรี ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่าน จ.ระนอง เนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะรีบหนีออกนอกประเทศ หรืออาจจะกบดานสักพักเพื่อรอให้ตำรวจหยุดเคลื่อนไหวแล้วค่อยออกไป

“ฝากเตือนไปยังนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในบ้านให้ตรวจสอบจับตาเป็นพิเศษ หรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ไปทำประวัติเก็บข้อมูลไว้ หรือตรวจสอบโทรศัพท์ของชาวต่างด้าวนั้นๆ ด้วยว่า มีการติดต่อเพื่อนแรงงานชาวต่างด้าว หรือญาติพี่น้องคนไหนบ้าง เพราะหากเกิดคดีเช่นนี้แล้วจะได้ติดตามตรวจสอบได้เร็วขึ้น”

4

นายธนภาคได้โพสต์เรื่องราวพร้อมรูปภาพ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “Thana pak Alcotec” เพื่อช่วยกันตามหา ก่อนจะมี ผู้ให้ข้อมูลกลับมาว่า รู้เรื่องของหญิงสาว ดังกล่าว โดยเคยก่อเหตุคล้ายกัน เมื่อเดือนมี.ค. โดยใช้ชื่อว่า ‘โม’ ซ้ำยังก่อเหตุมาหลายครั้งแล้วยังไม่เคยโดนจับได้ ก่อนให้ช่วยกันแชร์ข้อมูลต่อๆ กันไป นอกจากนี้ยังมีชาวเมียนมาเข้ามาแสดงความเสียใจและขอโทษที่คนชาติเดียวกันมาก่อเหตุทำให้เสียชื่อเสียง

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบสัญญาณโทรศัพท์ของสาวใช้แสบไปโผล่บริเวณชายแดนไทย- เมียนมา ก่อนจะพบครั้งสุดท้ายในเขตจังหวัดเมียวดีของเมียนมา แต่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ว่าจะเป็นแผนลวงหรือไม่ ขณะที่เจ้าทุกข์ประกาศตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท

คดีนี้เชื่อว่าตร.กัดไม่ปล่อยแน่ หากยังอยู่เมืองไทยเชื่อว่าไม่นานต้องถูกจับได้แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน