สดจากสนามข่าว
ณัฏฐนันท์ ศิริสันติวรกุล
เรื่อง/ภาพ
หากถามว่าบุคคลในอาชีพใดที่มีโอกาสถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์มากที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยแทบทุกคนจะนึกถึงอาชีพโชเฟอร์แท็กซี่ โดยเฉพาะผู้ที่เลือกหลีกหนีการจราจรที่ติดขัดในช่วงกลางวัน มาวิ่งรถหาผู้โดยสารในช่วงเวลากลางคืน ทุกครั้งที่ขับรถออกจากบ้านไม่มีโอกาสรู้เลยว่าจะเจอผู้โดยสารประเภทไหน
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.ต.ภานุพงศ์ ภาวะบุตร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุมีคนขับรถแท็กซี่ถูกฆ่าเสียชีวิต ตรงบริเวณถนนทางเข้าบ้านบ่อ-กระซ้าขาว หมู่ 1 ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพชายสวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน ที่บริเวณหน้าผากมีบาดแผลคล้ายถูกของแข็งตีเข้าอย่างแรงจนหน้าผากยุบ และที่มือขวาก็มีรอยคล้ายถูกของมีคมบาด จากการชันสูตรพลิกศพพบที่ใต้ราวนมด้านซ้ายมีรอยถูกยิงเป็นรูทั้งหมด 9 รูด้วยกัน
ใกล้กันพบรถแท็กซี่สีฟ้า ป้ายเหลือง ทะเบียน ทล 6026 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบป้ายคนขับรถ ระบุชื่อ นายสิทธิศักดิ์ ปรักมาศ อายุ 53 ปี เป็นคนคนเดียวกันกับผู้ตาย เป็นชาว จ.สุรินทร์ ส่วนที่มิเตอร์มีเลขระบุระยะทาง 26.7 กิโลเมตร เป็นเงิน 373 บาท ห่างออกไปเล็กน้อยที่พื้นถนนด้านหน้ารถพบชิ้นส่วนหมอนรองกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ และมีรอยเลือดหยดเป็นทางหลายแห่ง อีกทั้งยังพบเงินสด 440 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง
ต่อมานางประจวบ คำจีน อายุ 49 ปี อยู่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ภรรยาของผู้ตาย หลังจากทราบเหตุการณ์ก็ได้เดินทางมาดูศพสามีด้วยอาการเศร้าเสียใจ ก่อนให้การว่า เมื่อประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง สามีโทรศัพท์มาบอกว่าอยู่แถวบางมด กำลังจะกลับเข้าบ้าน จึงบอกไปว่าให้รีบกลับมาดึกมากแล้ว
นางประจวบให้การต่อว่า ปกติทุกวันสามีจะออกไปขับรถแท็กซี่ที่เช่ามา เมื่อได้เงินประมาณ 500-600 บาท พอเป็นค่าเช่ารถและค่ากับข้าวก็จะกลับเข้าบ้านแล้ว ไม่เคยขับจนดึกแบบนี้ ส่วนทรัพย์สินภายในตัวที่สูญหายไปนั้น เป็นเงินสดในกระเป๋าสะพายที่จะต้องมีติดตัวไว้ตลอดประมาณ 1,000 บาท โดยจะพกไว้เผื่อรถมีปัญหา
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ ก็พบว่าบริเวณเสาไฟฟ้าห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเวลาเที่ยงคืนเศษมีรถแท็กซี่วิ่งผ่านกล้องวงจรปิดเข้าไปด้านในทางจุดที่เกิดเหตุ ผ่านไปประมาณ 3 นาทีมีชายต้องสงสัยคนหนึ่งเดินออกมาด้วยความรีบเร่ง ลักษณะรูปร่างผอม สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ มีหมวกคลุมใบหน้า ซึ่งตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ เพื่อสืบหาตัวชายต้องสงสัยคนดังกล่าว
เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายเรียกรถแท็กซี่ก่อนที่จะพามายิงห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 27 กิโลเมตร ตามที่เลขมิเตอร์ขึ้น ซึ่งหลังจากก่อเหตุแล้วก็ได้หลบหนีไปด้วยการเดินเท้าตามเส้นทางต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่เร่งแกะรอยว่าได้หลบหนีไปทางใด
ตำรวจไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ขยายวงกว้างออกไปในที่สุดก็ได้ภาพวงจรปิดภายในร้านเซเว่นฯ บริเวณตลาดมหาชัย ที่สามารถบันทึกภาพใบหน้าชายต้องสงสัย ระหว่างเข้าไปซื้อสินค้าในร้านช่วงเช้าหลังเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน
คดีนี้ทั้ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รรท.ที่ปรึกษา (สบ 10) ลงมาควบคุมวางแนวทางการสืบสวนด้วยตัวเอง โดยเริ่มจากตรวจสอบหาจุดที่คนร้ายเรียกรถแท็กซี่มา
ผ่านเข้าสู่วันที่สามในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ โดยเมื่อตี 3 วันที่ 16 ธ.ค. พล.ต.ต.กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมชุดสืบสวน ภ.7 ภ.จว.สมุทรสาคร และ สภ.บางโทรัด บุกจับตัวนายอาว หรือ มิน ยี ออง อายุ 22 ปี แรงงานก่อสร้าง สัญชาติเมียนมา ได้ที่ข้างห้องน้ำวัดสุธรรมวดี (วัดมอญ) ซอยบางกระดี่ 25 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติรุดไปสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตัวเอง ก่อนเผยว่า จากการสืบสวนหาข่าวรวมทั้งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดจุดข้างเคียง พบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 คน ก่อเหตุแล้วได้เดินเท้าหลบหนีไปทางวัดใต้บ้านบ่อ ต.บ้านบ่อ ไปยังวัดบางกระเจ้า ต.บางกระเจ้า เดินเท้าออกสู่ถนนพระรามสอง และเดินเท้าเข้าเขต อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต่อเนื่องไปยังเขตตำบลโคกขาม
ชุดสืบสวนตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดย้อนเส้นทางก่อนเกิดเหตุ พบว่าคนร้ายเรียกรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาจากริมถนนพระรามสอง จากหน้าหมู่บ้านเต็มสมบูรณ์ ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตรวจสอบพบว่าก่อนขึ้นแท็กซี่ได้ปั่นรถจักรยานมาจากหมู่บ้านซื่อตรง พรีเมียม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงได้สืบสวนหาข่าวพบว่าคนร้ายอาศัยอยู่ในแคมป์ที่พักคนงานในหมู่บ้านซื่อตรง พรีเมียม ก่อนทราบต่อมาว่า คนร้ายเป็นคนสัญชาติเมียนมา ชื่อ อาว หรือ มิน ยี ออง อายุ 22 ปี ก่อนสามารถติดตามจับกุมตัวได้
ขณะที่ผู้ต้องหาอ้างว่า ทะเลาะกับผู้ตายเรื่องขับรถอ้อม แล้วผู้ตายใช้ปืนข่มขู่จนแย่งปืนกัน สุดท้ายปืนลั่นใส่ โดยหลังเกิดเหตุโยนปืนทิ้งในบ่อปลาใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เนื่องจากผู้ต้องหานำรถจักรยานไปซ่อน เพื่อจงใจเรียกรถมาก่อเหตุชิงทรัพย์ จึงนำตัวไปทำแผนฯ ก่อนส่งดำเนินคดีต่อไป
