กฤษณะ เชิญธงไชย – เรื่อง/ภาพ

ขึ้นชื่อว่า ‘โจร’ มักจะเชื่อถือ คำพูดไม่ได้ เป็นจริงดังคำพังเพย ที่ว่า “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร”

เมื่อผลประโยชน์ยังลงตัวก็ร่วมหัวจมท้ายกันชื่นมื่น แต่หากเกิดความขัดแย้งกันขึ้นก็พร้อมจะหักหลังพลพรรคได้ทันที

เหตุการณ์หักเหลี่ยมกันเอง ในแวดวงอาชญากรรมมีมาอย่าง ต่อเนื่อง ล่าสุดตำรวจภาค 5 ก็ซ้อนกล ช่วยเหยื่อจากแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่รีดเงินกว่า 20 ล้านบาท ที่มีเบื้องลึก มาจากการขัดแย้งกันภายในของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปลายเดือนสิงหาคม เมื่อมี 5 คนร้ายบุกอุ้มหญิงวัย 50 ปี ชาวเผ่าม้ง บ้านปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จากบ้านพักใน อ.แม่แตง พร้อมติดต่อให้ญาตินำเงินมาไถ่ตัวในราคา 25 ล้านบาท

ด้วยจำนวนเงินที่มหาศาลลูกของเหยื่อจึงโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความขอความ ช่วยเหลือจากตำรวจ

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 สั่งระดมตำรวจมือปราบเข้าคลี่คลายคดีทันที นำโดย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ. 5 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่สืบเบาะแสจนทราบถึงต้นสายปลายเหตุว่า เกิดจากการระแวงกันเองขององค์กรค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งมี นายเปา แซ่จาง เป็นหัวหน้า โดยมีคนในครอบครัวของเหยื่อเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ร่วมขบวนการอยู่ด้วย

แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งส่วนกลาง ภาคเหนือ และ ภาคอีสาน จับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ได้ 8 ครั้ง เป็นเครือข่าย เกี่ยวโยงกันมา โดยผู้ต้องหาอีกหลายคนหลบหนีไปได้

จากการขยายผลจับได้เฉพาะคนขับรถและคนรับ ส่วนตัวการใหญ่ยังจับไม่ได้ ทำให้แก๊งยาเสพติด เกิดระแวงกันเอง คิดว่ามีการหักหลังกันและเรียกร้องเงินค่าขายยาเสพติด พวกที่รับมาจำหน่ายก็ไม่มีให้และหลบหนีไป

ต่อมา วันที่ 4 ก.ย. กลุ่มคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อลูกของเหยื่อ ให้นำเงินสดทั้งหมดตามที่เรียกร้อง ไปส่งมอบบริเวณใต้สะพานลอย ริมถนนเชียงใหม่-พร้าว ตรงข้าม ม.แม่โจ้ เจ้าหน้าที่จึงปลอมตัวไปพร้อม ลูกชายของเหยื่อ

เมื่อถึงที่นัดหมายพบ น.ส.เป้า หรือ มีนา แซ่จาง อายุ 28 ปี ชาว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และ นายธีรธร หรือ เล่า ถิรวสุวี อายุ 32 ปี ชาว อ.แม่แตง มารอรับเงินอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนพก 1 กระบอก และกระสุนจำนวนหนึ่ง

เค้นสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งคู่ สารภาพว่าร่วมกับ นายเปา และ น.ส.กฤษณีพร หรือ มณี วจนะผาสุก ภรรยา นายเปา และนายสิทธิศักดิ์ หรือ เก้ง ไพศาลศิริกุล อายุ 37 ปี ชาว อ.พบพระ จ.ตาก เรียกเงินค่าไถ่จำนวน 25,000,000 บาท โดยขังเหยื่อไว้ใน รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย

เจ้าหน้าที่จึงตามไปตรวจสอบ พบรถกระบะฟอร์ด สีแดง ทะเบียน ผล 84 เชียงใหม่ จอดอยู่ข้างห้องหมายเลข 5 ตามคำให้การ โดยมีเพียงนายสิทธิศักดิ์เฝ้าเหยื่อตามลำพังจึงบุกจับกุมทันที

พบหญิงชราที่เป็นเหยื่อถูกกักขัง โดยใช้เทปกาวปิดตา และกุญแจมือสองอันพันธนาการติดกับเก้าอี้ และใช้เทปกาวพันบริเวณข้อเท้าทั้งสองข้างติดกัน

สอบสวนนายสิทธิศักดิ์ทราบว่า นายเปาและน.ส.กฤษณีพร เพิ่งออกไปจากรีสอร์ตดังกล่าวหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การตรงกันว่า นายเปา หรือที่ผู้ร่วม ขบวนการเรียกว่าเสี่ยเปา ไม่พอใจที่ยาบ้าล็อตใหญ่ถูกจับบ่อยครั้ง จึงเกิดความระแวงว่าผู้ร่วมขบวนการ จะหักหลัง เพื่อไม่ต้องจ่ายเงินค่ายา จึงได้วางแผนในการอุ้มตัวญาติ ของผู้ร่วมขบวนการไปเรียกค่าไถ่ หวังจะเอาเงินค่า ยาเสพติดคืน

จึงส่งตัวทั้งหมด ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจ ครอบงำผิดทำนองคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง

โดยน.ส.เป้าพบว่ามีหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก คดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และปลอมเอกสารทางราชการติดตัวอยู่ด้วย

ส่วนเสี่ยเปาและภรรยา พนักงานสอบสวน ก็รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนระดมกำลังตำรวจไล่ล่าลากคอมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เพื่อกวาดล้างแก๊งอุบาทว์ ที่เป็นภัยร้ายเกาะกินสังคมให้สิ้นซาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน