เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.สามเสน พ.ต.ท.สิริพงษ์ วรผลึก รอง ผกก.สส.สน.สามเสน พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร สว.สส.สน.สามเสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวิษณุ จันทร์ย้อย อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1938/2561 ลงวันที่ 29 ส.ค.2561 อยู่บ้านเลขที่ 51/59 ม.21 ถ.ทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปีไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌศ 1800 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน สามารถจับกุมได้ที่สถานีบริการน้ำมันพีที ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

เบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของ น.ส.แอร์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับ ปวช. ได้พาเจ้าตัวเข้าแจ้งความ ว่าถูกคนร้ายซึ่งแอบอ้างเป็นผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะ ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ผ่านระบบแอพพลิเคชั่นแกร็บ ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดบริเวณทางกลับรถใต้สะพานกรุงธนฯ (ฝั่งพระนคร) ถ.ราชวิถี

น.ส.แอร์ให้การเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเรียนหนังสือเสร็จแล้ว ได้ไปทำงานพิเศษที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง โดยเข้างานกะกลางคืน เมื่อทำงานเสร็จแล้วก็จะเดินทางกลับบ้าน จึงเรียกแกร็บคาร์ให้มารับ แต่แกร็บคาร์คันที่เรียกเกิดหลงทาง

แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ยืนรออยู่นั้น ได้มีชายคนหนึ่งขับรถยนต์ผ่านมา โดยเป็นรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ แล้วได้บอกว่า พี่เป็นแกร็บเหมือนกันขึ้นมารถพี่มั้ย ไม่ต้องเรียกผ่านแอพพลิเคชั่น เดี๋ยวเราค่อยตกลงราคากัน เมื่อเห็นว่าเป็นแกร็บเหมือนกันจึงได้ขึ้นรถไปกับแกร็บคันดังกล่าว ซึ่งครั้งแรกไม่มีปัญหาอะไร ไปส่งถึงปลายทางโดยสวัสดิภาพ

หลังจากนั้นคนขับออกอุบายขอแลกเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกันไว้ อ้างว่าวันหน้าจะได้ไม่ต้องเรียกแกร็บคาร์คันอื่นอีก ให้โทรศัพท์ไปหาโดยตรงเพื่อที่จะได้ไปรับไปส่งให้ต่อมา วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ได้โทรศัพท์มาหาโดยสอบถามว่าวันนี้จะใช้บริการหรือไม่จะได้ขับรถไปรับให้

จึงตอบไปวันนี้จะมีเพื่อนอีก 3 คนเดินทางกลับด้วย ก่อนจะมีการตกลงเรื่องราคากันและผู้ต้องหาก็ตอบตกลง ขณะเดินทางกลับเพื่อนๆ ได้ทยอยลงตามเส้นทาง จนกระทั่งเหลืออยู่ในรถเพียงคนเดียว คนขับขับรถพาไปที่ใต้สะพานกรุงธนฯ หรือสะพานซังฮี้ ก่อนจะลวนลาม แต่ตนก็พยายามขัดขืน

สุดท้ายจึงถูกคนขับต่อยไปที่ท้องจนจุกหมดแรง ก่อนถูกก่อเหตุข่มขืน จากนั้นก็ทิ้งตนไว้ที่จุดดังกล่าว จึงรีบโทร.แจ้งผู้ปกครองให้ทราบและมารับตัว ก่อนพากันมาแจ้งความ ดังกล่าว

หลังรับแจ้งตำรวจตรวจสอบภาพวงจรปิด พร้อมประสานไปทางผู้ให้บริการแกร็บ รวมทั้งนำเบอร์โทรศัพท์มือถือที่คนร้ายให้ไว้กับเหยื่อสาวไปตรวจสอบ จนในที่สุดก็ทราบว่าคือนายวิษณุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับจากศาลอาญา ก่อนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ขณะที่นายวิษณุรับสารภาพว่า ใช้วิธีการไปจอดรถดักรอเหยื่อตามป้ายหยุดรถประจำทางใกล้สถานศึกษา จากนั้นใช้แอพพลิเคชั่น บีทอล์กสแกนค้นหาเหยื่อซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ใกล้เคียงร่วมพูดคุยบ้าง หรือเดินเข้าไป พูดคุยเองบ้าง แล้วอ้างว่าตนเองเป็นผู้ขับขี่รถบริการรับส่งผู้โดยสารแกร็บ (Grab) โดยใช้บัญชีของพ่อที่แอบสมัครเอาไว้ ก่อนอาสาขอไปส่งเหยื่อตามที่ต้องการไป

จนเมื่อถึงปลายทางก่อนเหยื่อลงจากรถก็จะให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของตนไว้กับเหยื่อ โดยอ้างว่าเพื่อการเรียกใช้ในคราวต่อไปโดยตรง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นแกร็บ หากเหยื่อ รายใดหลงเชื่อเรียกใช้บริการอีกครั้งก็จะหา สถานที่และโอกาสใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขืนกระทำชำเราก่อนหลบหนีไป

ตำรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่า ผู้ต้องหาเป็นอดีตทหารประทวนยศสิบเอก และมีพฤติกรรมดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้กับเด็กสาวอายุไม่เกิน 15 ปี ในท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี มาก่อนตามคดีอาญาที่ 1162/2560 ลงวันที่ 25 ก.ย.2560 ปัจจุบันอยู่ระหว่างหลบหนีคดี และถูกปลดออกจากทหาร ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีกในท้องที่ สน.สามเสน

ด้านบริษัทแกร็บ ประเทศไทย ได้ชี้แจงยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ของบริษัท แต่ได้แอบอ้างเป็นผู้ขับขี่แกร็บคาร์เพื่อล่อลวงผู้เสียหาย และก่อเหตุดังกล่าวขณะที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ได้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น จึงไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดของผู้ขับ และเส้นทางการเดินทางได้ รวมถึงได้ลงโทษระงับแอ๊กเคานต์ผู้ขับขี่ ที่ผู้ก่อเหตุนำมาใช้แอบอ้างอย่างถาวร ตั้งแต่วันดังกล่าวแล้วด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน