สายอรุณ ปินะดวง – เรื่อง/ภาพ

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 76 กำหนดเรื่องสิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้รถใช้ถนน เดินเท้า ต่อรถพยาบาล โดยจะต้องหลบและหลีกให้พ้นผิวจราจรทางด้านซ้ายทันที เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนหรือเห็นไฟ วับวาบ หากไม่ปฏิบัติตามจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ไม่ใช่แค่ประชาชน แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งด่านตรวจตามท้องถนน หากพบเห็นรถพยาบาลเปิดไซเรนวิ่งมาก็ต้องคอยอำนวยความสะดวกให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คงไม่มีใครมานั่งขอตรวจสอบว่า รับคนป่วยมาจากไหน จะไปที่ไหนเป็นแน่

เลยกลายเป็นช่องทางให้ขบวนการค้ายานรก ใช้รถพยาบาลในการขนส่งยา เพราะนอกจากตำรวจจะไม่เรียกตรวจแล้ว ยังหลงกลคอยอำนวยความสะดวกให้เสียอีก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้

19.00 น. วันที่ 9 ก.ย. พ.ต.อ.สมภพ สุภาพร ผกก.สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนิสร ไชยศ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมชาย ธิติพลวิภาส รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สรรเสริญ ฉันทะ สวป. พ.ต.ท.วิศิษฐ์ ปลื้มใจ สว.สส. และชุดปราบปราม ชุดสืบสวน สภ.ดอกคำใต้ พร้อมกำลังทหาร ร่วมกันตั้งด่านตรวจค้น บริเวณแยกแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา

ก่อนพบรถพยาบาลเปิดสัญญาณไฟวับวาบและไซเรนขับมาจากด้าน จ.เชียงราย ด้วยความเร็ว แต่ครั้งนี้แทนที่จะปล่อยให้ผ่านไป เจ้าหน้าที่กลับเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจค้น

สาเหตุเพราะก่อนหน้านี้ ทาง ผกก.สภ.ดอกคำใต้ ได้รับการประสานจากชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ชุดป.ป.ส.ภ.5 ร่วมกับ ปป.4 สปป., บก.สส.ภ.5, ศอ.ปส.ภ.5 และทหารกองกำลังผาเมือง ติดตามกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ที่ลักลอบขนยานรก โดยใช้รถพยาบาลจำนวน 2 คัน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่มาจาก จ.เชียงราย

โดยคันแรกเป็นทะเบียน ฮท 3632 กรุงเทพมหานคร เป็นรถขับนำทาง พบ ว่าเปิดไฟฉุกเฉินบนหลังคาฝ่าสัญญาณไฟแดงมาตลอดทาง

ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่พบว่ามีเหตุฉุกเฉิน หรือคนป่วยที่ทำให้ต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่วิ่งนำเพื่อสำรวจด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ตามเส้นทางขน ยาเสพติด จึงควบคุมชายในรถจำนวน 2 คนไว้สอบสวน

รออยู่ไม่นานก็มีรถพยาบาล ทะเบียน ฮง 3869 กรุงเทพมหานคร ขับตามมาในเส้นทางเดียวกัน

แต่พอวิ่งเข้าใกล้ด่าน พอคนขับสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงกลับรถและขับหลบหนีอย่างรวดเร็ว ชุดปฏิบัติการจึงขับรถไล่ติดตามไป พบว่ามีคนในรถตู้โยนสิ่งของทิ้งออกจากรถ ทราบภายหลังเป็นยาเสพติด รถพยาบาลคนร้ายซิ่งหนีสุดชีวิต เป็นระยะทางนับ 10 กิโลฯ กระทั่งถึงเขต อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงยางรถจนแตก แต่คนขับก็ยังขับหนีต่อไป

สุดท้ายรถคันดังกล่าวเสียหลักไปชนรั้วบ้านของชาวบ้านจนไม่สามารถไปต่อได้ คนร้าย 3 คนรีบวิ่งลงจากรถ เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมได้ ตรวจสอบพบยาเสพติดในรถทั้งหมด เป็นไอซ์ 322 ก.ก. ใส่ถุงชาสีเขียวอ่อน และเคตามีน 60 ก.ก. ใส่ถุงสีเขียวเข้ม รวมกับของกลางที่ทิ้งระหว่างทาง รวมเป็นยาไอซ์ 398 ก.ก. ยาเคตามีน 60 ก.ก.

เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวทั้ง 5 รายมาสอบสวน จนในที่สุดก็รับสารภาพว่าไปรับยาเสพติดมาจากอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ อ.แม่สาย โดยมีชายวัยรุ่น 2 คน ขับรถเก๋งมาช่วยขน ต่อมาชุดสืบสวนขยายผลไล่ตรวจเช็กกล้องวงจรปิด หารถลักษณะตามที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูล จนพบว่าคือรถเก๋ง โตโยต้า รุ่นยาริส สีเทา หมายเลขทะเบียน กจ 5948 อุทัยธานี จึงประสานด่านในพื้นที่ให้ตรวจสอบ

กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ด่านตรวจท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พบเก๋งตามที่ได้รับแจ้ง จึงควบคุมตัว ชายวัยรุ่นทั้ง 2 มาสอบปากคำ รับว่ารับคำสั่งจากนายหนึ่ง ให้ไปรับกุญแจเปิดอาคารพาณิชย์ที่เก็บยาเสพติด จากนายสอง แล้วนำกุญแจมาเปิดอาคารพาณิชย์ที่ซุกซ่อนยาเสพติด ส่งให้กับรถตู้ฉุกเฉินเพื่อซุกซ่อนและลำเลียงยาเสพติด

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาด พร้อมให้ขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม

ด้าน นายรังสรรค์ นันทกาวงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ชี้แจงว่า รถทั้งสองคันที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้นั้น เป็นรถที่วิ่งอยู่ในเขตเทศบาล แต่เป็นรถของเอกชนที่เข้ามาวิ่ง เป็นลักษณะได้รับการคัดสรรจากสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่ทำการฝึกอบรม ก่อนที่จะคัดสรรให้มาลงในแต่ละพื้นที่

“รถแอมบูแลนซ์ที่วิ่งอยู่ในเขต ไม่ใช่ ลูกน้องที่ขึ้นตรงกับทางเทศบาล แต่ขึ้นตรงกับสสจ. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำให้ทางเทศบาลเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นอย่างมาก เบื้องต้นทางเทศบาลสั่งยุบหน่วยกู้ชีพออกไปจากเทศบาล และจะทำเรื่องถึงสสจ. ให้ดำเนินการจัดสรรและ คัดบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ได้รับ บาดเจ็บต่อไป” นายกทต.บึงยี่โถ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน