คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ข่าวเหตุการณ์ฆ่า-เผาสาวใหญ่ พยาบาลวิชาชีพ ประจำร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ นับเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้ผู้คน ด้วยผู้ตายมีหน้าที่การงานที่เป็นผู้ช่วยเหลือผู้คนแต่กลับต้องมาถูกก่อเหตุอย่างสยดสยองประการหนึ่ง

อีกประการ คือคำซัดทอดของคนร้ายที่ ก่อเหตุ ที่ยืนยันว่าสามีของผู้ตายนั่นแหละที่เป็นคนบงการฆ่าเมียตัวเอง

รายละเอียดของเหตุการณ์ ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายธนพล ปารีเสน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 18 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้กับตร.สภ.ดอยหล่อ ว่า น.ส.เจนจิรา เกิดแล้ว อายุ 50 ปี พยาบาลวิชาชีพ ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ ภรรยา หายออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. จนป่านนี้ยังไม่กลับบ้านและไม่สามารถติดต่อได้

วันรุ่งขึ้น ร.ต.อ.ยืนยง ไผ่ล้อม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดอยหล่อ รับแจ้งจากนาย ธนพลเพิ่มเติม ว่ามีคนพบศพถูกฆ่าแล้วเผาหมกศพในสวนลำไย เหตุเกิดที่สวนลำไย หมู่ 18 บ้านโทกเสือ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ซึ่งห่างจากบ้านพักไปไม่ไกล สงสัยว่าจะเป็นภรรยาที่หายตัวไป

ร.ต.อ.ยืนยงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สิน รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อนุ เนินหาด ผกก.สภ.ดอยหล่อ พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ รอง ผกก.สส.ภ. จว.เชียงใหม่ พ.ต.ท.ภคพล ธงเชื้อ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ดอยหล่อ พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน

ในที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่พบยางรถยนต์ไหม้ไฟ เศษไม้ ถังพลาสติกใส่น้ำมัน เศษเสื้อผ้าที่ถูกไฟไหม้และกองกระดูกที่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ คล้ายกับทำลายหลักฐานไม่ให้เป็นกองเดียวกัน ขณะที่ซากศพเหลือแต่โครงกระดูก ศีรษะถูกเผาจนจำไม่ได้ว่าเป็นใคร

นายธนพลให้ข้อมูลว่า วันที่หายไปน.ส. เจนจิรา ขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีเทา หมายเลขทะเบียน กว 6520 เชียงใหม่ รวมทั้งพกโทรศัพท์มือถือไอโฟน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจากข้อมูลมือถือ รวมทั้งแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อค้นหารถยนต์ของผู้ตายที่หายไป

ขณะที่นายธนพลให้การเสริมว่า สงสัยว่า นายนิรันดร แก้วเต๋จ๊ะ อายุ 42 ปี อดีตนักโทษคดีฆ่าข่มขืนถูกจำคุก 14 ปี ที่เพิ่งพ้นโทษมาได้ราว 3 เดือน ที่พักอยู่ห้องใกล้ๆ กัน อาจเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ

เพียงวันเดียวหลังพบศพ ตำรวจบุกไปควบคุมตัวนายนิรันดร ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ หลังพาหญิงบริการมาร่วมหลับนอน พร้อมยึดรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซของผู้ตายที่ถูกพ่นสีดำทับไปทั้งคัน ไม่เว้นแม้ป้ายทะเบียน

พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท. ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท. ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมนายตำรวจ ผู้เกี่ยวข้อง เดินทางมาสอบสวนปากคำนายนิรันดร ด้วยตัวเอง ในที่สุดเจ้าตัวให้การซัดทอดว่าที่จริงแล้ว ผู้ที่บงการให้ฆ่าน.ส.เจนจิรา ก็คือนายธนพล ผู้เป็นสามีนั่นเอง

นายนิรันดรสารภาพหมดเปลือกว่า นายธนพลจ้าง 1 แสนบาทให้ร่วมมือกันฆ่าเมียตัวเอง โดยวางแผนมาร่วม 2 เดือนแล้ว เพราะไม่พอใจที่ผู้ตายมาต่อว่าเรื่องที่นายธนพลเจ้าชู้และมีภรรยาน้อย หลังจากที่ทั้งคู่เคยเลิกรากันไปแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายทั้งสองกลับมาคืนดีกันและเมื่อต้นปีโดยจดทะเบียนกันอีกครั้งแต่ปรากฏว่า นายธนพลกลับไปมีเมียน้อยอีก ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและมาต่อว่าและด่าทอ รวมทั้งทวงเงินจำนวนมากที่ยืมไป

เจ้าตัวเล่าว่า นายธนพลเป็นผู้ลงมือสังหารน.ส.เจนจิรา โดยล็อกคอจากด้านหลัง ก่อนกระตุกผมผู้ตายจนคอหัก จากนั้นจับร่างผู้ตายพลิกนอนลงกับพื้น เอากระสอบมาคลุมศีรษะ แล้วให้ตนช่วยอุ้มร่างผู้ตายไปจุดเผา ที่เจ้าตัวจุดไฟรออยู่แล้ว พร้อมให้ช่วยกันโยนร่างผู้ตายใส่ในกองไฟ ปรากฏว่าร่างผู้ตายดิ้น คาดว่าน่าจะเกิดจากเอ็นถูกความร้อนจึงเกิดกระตุก

ตนเฝ้าดูจากเวลาประมาณหนึ่งทุ่มจนถึงตีสองอีกวัน ก่อนจะกลับโดยตนทวงค่าจ้าง 1 แสน แต่นายธนพลบอกให้เอารถยนต์ของผู้ตายไปแทน ตนจึงเอาไปไว้ที่ลานจอดรถธนาคารแห่งหนึ่ง จากนั้นมาซื้อสีกระป๋องสีดำมาพ่นในป่าช้า ย่านสันติธรรม และมาซื้อสาวบริการนอนที่บังกะโล ก่อนถูกตำรวจจับในที่สุด

นายนิรันดรยังอ้างว่า นายธนพลใช้ปืนข่มขู่ให้ทำตามหากไม่ร่วมมือก็จะฆ่าให้ตาย จึงต้องยอมทำตาม

เมื่อคดีพลิกตร.จึงเชิญนายธนพลมาสอบสวน แน่นอนว่าเจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็ง พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาล แต่เนื่องจากหลักฐานยังไม่พอจึงต้องปล่อยตัวนายธนพลไปก่อน

ตำรวจตั้งหลักใหม่ คราวนี้เชิญตัวน้องสาวของผู้ตายมาสอบปากคำอีกครั้ง และตรวจสอบหลักฐานเป็นสมุดบันทึกที่ผู้ตายได้เขียนเรื่องราวที่มีปัญหากับสามีไว้อย่างละเอียด ถึงขั้นระบุว่าหากถูกฆ่าตายก็เป็นฝีมือสามีตัวเอง ตรวจสอบเอกสารเรื่องการกู้ยืมเงินต่างๆ ที่ ผู้ตายทำไว้และเก็บไว้ในล็อกเกอร์ของโรงพยาบาล รวมทั้งพิรุธจากคำให้การของตัวสามี ที่อ้างว่าผู้ตายแต่งตัวออกไปทำงานในวันที่ 9 ธ.ค. ซึ่งที่จริงแล้วเป็นวันหยุดของผู้ตาย ก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลจ.เชียงใหม่อีกครั้ง

คราวนี้ไม่พลาด ทันที่ที่ศาลอนุมัติหมายจับ ตร.บุกไปควบคุมตัวนายธนพล ทันทีขณะหลบอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย” โดยเจ้าตัวยังยืนการปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

คดีนี้ตร.ไม่ได้อาศัยเพียงคำให้การของนายนิรันดร แต่มีการตรวจสอบหลักฐานด้านอื่นมาประกอบ จนศาลเห็นว่ามีมูล จึงอนุมัติออกหมายจับให้ จะผิดจะถูกอย่างไร ก็ไปพิสูจน์กันในศาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน