คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ภูษณิศา สัญญารักษกุล

เรื่อง/ภาพ

คนอยู่บ้านใกล้เรือนเคียง มีอะไรหนักนิดเบาหน่อยอภัยได้ก็อภัยกันไป จะได้ ไม่เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง เพราะจากเรื่องเล็กๆ หากไม่ควบคุมสติให้ดี อาจขยายจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนถึงขั้นลงไม้ลงมือฆ่ากันตายได้

เช่นคดีล่าสุดเมื่อเที่ยงคืนเศษวันที่ 22 ธ.ค. ศูนย์วิทยุ 191 ภูธร จ.ลำปาง รายงานเหตุร้ายแรงว่าเกิดเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้อื่น ภายในร้านอาหารชื่อ “คำเหมย” เลขที่ 790/2 หมู่ 15 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง มีผู้เสียชีวิตและ ผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยคนร้ายยังจี้ ชิงรถจักรยานยนต์ของผู้อื่นหลบหนีไป

ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุริมา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง รีบรายงานให้พ.ต.อ. นันทวิทย์ เทียมบุญธง รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง รับทราบพร้อมไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง แพทย์เวร ร.พ.ลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยบรรเทาภัย 3 และสมาคมกู้ภัยนครลำปาง

ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายอาหารพื้นเมืองและมีสุราบริการ ภายในร้านพบศพหญิงวัยกลางคน สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ ข้างโต๊ะ ทราบชื่อต่อมาคือ นางเหมย ท้าว บุญเรือง อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน ส่วนบนเก้าอี้พบศพชายสภาพนั่งบนเก้าอี้ ศีรษะฟุบแนบ อยู่กับโต๊ะทราบชื่อคือนายใหญ่ หรือจรัล ณ ลำปาง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 485/2 หมู่ 15 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นลูกค้าที่เข้ามาดื่มกินในร้าน โดนยิงบริเวณขมับซ้ายทะลุแก้ม

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ นายนฤบาล ท้าวบุญเรือง อายุ 49 ปี สามีของนางเหมย ถูกยิงบริเวณหน้าอก 2 นัด แขนซ้าย 1 นัด นอนฟุบอยู่ใต้ถุนบ้าน และนายกฤษณะ หรือเก่ง ฟูเต็มวงศ์ อายุ 34 ปี ลูกติดนางเหมย ถูกยิงเข้ากลางหลัง 1 นัด วิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ทางป่าหลังบ้าน จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวทั้งคู่ส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง

ตํารวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำเดินเข้ามาในร้าน และได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงเข้าใส่นางเหมยและนายใหญ่ ซึ่งนั่งดื่มกินกันอยู่ด้านหน้าร้าน จากนั้นได้เดินเข้าไปทางด้านหลังบ้าน ยิงใส่นายนฤบาลและนายเก่ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกมาหน้าร้าน และใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขรต 35 ลำปาง ของนายเกียรติพันธ์ จอมวงค์ อายุ 20 ปี ที่ขี่ผ่านมาพอดี หลบหนีตามถนนจามเวที แต่ไม่ทราบเส้นทางว่าคนร้ายหลบหนีไปทางใด

สอบปากคำพยานต่างให้การตรงกันว่า คนร้ายคือนายกุลชาร์ แผ่นทองหรือแม็ค อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 795 หมู่ 15 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งอยู่บ้านใกล้ๆ กับร้านที่เกิดเหตุนั่นเอง

ไม่ต้องรอนาน หลังผ่านไปเพียงวันเดียว ตร.ก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน จ.ลำปาง นำโดย พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง บุกเข้าจับกุมตัวนาย กุลชาร์ ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ในจ.ลำพูน พร้อมอาวุธปืน 4 กระบอก มีปืนพกสั้นลูกโม่ .357 พร้อมกระสุน 40 นัด อาวุธปืนออโต เมติกขนาด.380 พร้อมกระสุน 10 นัด และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .22 อีก 2 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนนำตัวมา สอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง

ทั้งนี้เบื้องหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจนพบรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ในพงหญ้าด้านหลังโรงเรียนกีฬา ห่างจาก ที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร จึงได้นำไปตรวจสอบ ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทาง รวมทั้งติดตามสืบสวนในทางลึกกระทั่งทราบว่านายกุลชาร์ เปลี่ยนรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งหนีไปกบดานอยู่ที่ ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ใน ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม ก่อนบุกเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ขณะเจ้าตัวนอนพักผ่อนอยู่ในห้องดังกล่าว

ต่อมาที่ สภ.เมืองลำปาง พ.ต.อ.นันทวิทย์ เทียมบุญธง รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง ร่วมสอบปากคำนายกุลชาร์ ก่อนที่พ.ต.อ.นิคมจะเปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ทราบว่าทางผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่บ้านใกล้ๆ กัน แต่กลับมีปัญหาเรื้อรังกันมานาน ในหลายๆ ประเด็น ทางผู้ต้องหาได้ให้การว่ามีเรื่องทะเลาะกันบ่อย เพราะทางร้านผู้ตายมักเปิดเพลงและส่งเสียงดังเป็นประจำ อีกทั้งยังมีลูกค้าบางรายที่พอเมาแล้วมักมายืนฉี่สร้างความสกปรกที่หน้าบ้าน

นายกุลชาร์อดทนสะสมความโกธรมานานจนมาถึงจุดระเบิดขึ้น ก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวอ้างว่าถือปืนจะเข้าไปเพื่อขู่เท่านั้น แต่ก็ถูกสามี ผู้ตายเข้ามาแย่งปืนไปได้และยังทำร้ายร่างกาย จึงเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวมาอีกกระบอก กระหน่ำยิงคนในร้านจนมีคนเจ็บและตาย ก่อนที่จะจี้เอารถของคนอื่นหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ข้างทาง จากนั้นได้เดินกลับมาเอารถจักรยานยนต์ที่บ้าน และหลบหนีไป เช่าหอพักแห่งหนึ่งที่ จ.ลำพูน เพื่อซ่อนตัวกระทั่งมาถูกตร.ตามไปจับตัวได้ในที่สุด

พ.ต.อ.นิคมกล่าวต่อว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเป็นเหตุถึงชีวิตและบาดเจ็บ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในสถานที่สาธารณะและชุมชนเขตเมือง? ส่วนการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ต้องดูความพร้อมของเจ้าหน้าที่ก่อน เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิต และชาวบ้านต่างรอที่จะดูหน้าคนร้าย อาจจะทำให้เกิดการชุลมุนขึ้นได้ จึงต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง

เมื่อใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาแทนสติ ผลที่ตามมาจึงมีแต่ทางร้ายเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน