เสรี สุพรรณ์นอก – เรื่อง/ภาพ

ในยุคที่ธุรกิจตู้หยอดเหรียญต่างๆ ทั้งตู้เติมเงินมือถือ ตู้เติมน้ำมัน ฯลฯ ได้รับความนิยมจากชาวบ้าน เนื่องด้วยสะดวกสบาย ไม่ต้องขี่รถเข้าในถึงในตลาด ใครที่มีบ้านอยู่ริมถนน หรือเป็นร้านค้าร้านชำ ย่อมอยากหามาติดเอาไว้ สร้างรายได้ให้กับตนเอง

จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้หลอกลวง แฝงมาในรูปของพนักงานบริษัทตู้หยอดเหรียญ ติดต่อขอเช่าที่ติดตั้งตู้ เอารายได้ชนิดเสือนอนกินมาล่อ โดยเฉพาะคนแก่ถือเป็นเป้าหมายหลักในการก่อเหตุ จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อสูญเงินมาแล้วหลายราย

ผู้เสียหายรายหนึ่งนำพฤติกรรมมาโพสต์เตือนภัยลงทางเฟซบุ๊ก ระบุว่าเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2560 มีผู้เสียหายถูกหลอกจ่ายเงินค่าติดตั้งตู้เติมเงินและตู้เติมน้ำมัน เกือบ 2 หมื่นบาท ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี พร้อมระบุว่า ชายคนนี้เป็นมิจฉาชีพ หลอกติดตั้งตู้เติมเงินและตู้เติมน้ำมัน มีคดีติดตัวกว่า 11 คดี

ผู้โพสต์เล่าว่า เพื่อนบ้านถูกชายคนนี้หลอกจะขอเช่าที่ติดตั้งตู้เติมเงิน ตอนแรกบอกไม่เสียค่าใช้จ่ายจึงตกลงเพราะอยากมีรายได้เพิ่ม แต่ตอนหลังมาบอกว่ามีค่าติดตั้งและ ค่ามัดจำเครื่อง รวม 4,200 บาท แต่ไม่ทันได้ติดตั้งตู้เติมเงิน ชายคนนี้มาบอกอีกว่า ขอลงตู้เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 7,930 บาท

จากนั้นชายคนนี้ก็มาบอกอีกว่าไปขออนุบัตรกับ อบต.หนองเสือ พบว่าเป็นพื้นที่สีเขียวต้องชำระค่าภาษีอีก 4,400 บาท ผู้เสียหายก็ยอมจ่ายให้อีก เพราะกังวลว่าถ้าเลิกจะไม่ได้เงินมัดจำที่จ่ายไปก่อนหน้านี้คืน แต่สุดท้ายก็ติดต่อชายคนนี้ไม่ได้ จึงแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

สุดท้าย 18 มงกุฎก็จนมุม ถูกจับได้อย่างสะบักสะบอม ขณะมาหลอกตา-ยายในพื้นที่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ก.ย. พ.ต.ท.กุญชร บุญศิริเภสัช สารวัตร(สอบสวน) สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจสภ.แก่งคอย จับกุมนายวีระพงษ์ ชูคง อายุ 32 ปี บ้านอยู่ ต.หนองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรี อยุธยา ขณะมาหลอก นายกฤษชัย อายุ 63 ปี และภรรยา อายุ 61 ปี ในพื้นที่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นครั้งที่ 5

ก่อนถูกชาวบ้านช่วยกันล้อมจับ ทำให้นายวีระพงษ์วิ่งหลบหนีไปเสียหลักล้มหัวกระแทกก้อนหินได้รับบาดเจ็บหัวแตก จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง และคอยระวังตัวตลอด ขณะที่เข้ามาบ้านสอง ตายายเพื่อเอาเงิน ก็ยังติดเครื่องรถกระบะรอเอาไว้เผื่อต้องหลบหนี

แต่สุดท้ายก็ไม่รอด โดยผู้เสียหายรายใด ที่ถูกนายวีระพงษ์ก่อเหตุหลอกลวงเอาทรัพย์สิน สามารถติดต่อแจ้งความได้ที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

ต่อมาวันที่ 26 ก.ย. นายกฤษชัย อายุ 63 ปี และภรรยา อายุ 61 ปี เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.กุญชร ว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายวีระพงษ์เข้ามาเสนอขอเช่าที่ ติดตั้งตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญและตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ

ค่าติดตั้งตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ประมาณ 4,000 บาท นาย วีระพงษ์เสนอว่าจะมีทั้งตู้เบนซิน 91 ตู้เบนซิน 95 และตู้เติมเงินโทรศัพท์อีกตู้หนึ่ง บอกว่าถ้าจะทำเองก็ได้ และบอกว่าถ้าติดตั้งกล้องก็ไม่ต้องนั่งเฝ้า เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

สองตายายให้ข้อมูลอีกว่า ต่อมานายวีระพงษ์พาไปซื้อตู้ที่บริษัท จึงจ่ายเงินค่าตู้ให้กับบริษัท จำนวน 161,000 บาท ประกอบด้วย ตู้เติมน้ำมัน 2 ตู้ จำนวน 65,000 บาท รวมเป็น 130,000 บาท ตู้เติมเงินโทรศัพท์อีก 1 ตู้ 30,000 บาท เติมเงินอีก 1,000 บาท มีใบเสร็จภาษีถูกต้อง แต่ ต่อมาระบุว่าต้องเสียค่ามลพิษ ค่าภาษี ค่าอบต. ไฟฟ้าภูมิภาค รวมกว่า 50,000 บาท เป็นส่วนต่างที่นอกเหนือ จากที่จ่ายซื้อตู้ที่บริษัท

ต่อมาพวกตนเอะใจว่าทำไม เสียค่าอะไรต่างๆ มากมายขนาดนี้ จึงโทรศัพท์ไปถามบริษัทจนรู้ว่าถูก นายวีระพงษ์หลอก จึงประสานแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย และเพื่อนบ้านคอยจับตาดู ก่อนวางแผนแกล้งหลอกให้นายวีระพงษ์เข้ามาเอาเงิน 3,000 บาท พอนาย วีระพงษ์เข้ามาเอาเงิน จึงร่วมกับ ชาวบ้านล้อมจับตัว แต่นายวีระพงษ์วิ่งหนีไปตามทางที่เป็นหิน จนล้ม หัวแตกเอง และถูกตำรวจจับตัวได้ในที่สุด

ปิดบัญชีนักตุ๋นในตำนานได้อีกราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน