ชาญพงษ์ บุญอุทิศ – อดิศร จิตตเสวี –

การเล่นอำกันขำๆ ในหมู่เพื่อนฝูงนับเป็นเรื่องปกติวิสัยของสัตว์สังคมแบบมนุษย์เรา เพราะต้องมีเรื่องเฮฮาแก้เครียดในกลุ่มคนกันเอง

ด้วยยุคโซเชี่ยลครองเมืองในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนหันไปหมกมุ่นอยู่ในโลกไซเบอร์จนกลายเป็นสังคม ก้มหน้า

แต่นิสัยขี้เล่นขี้อำของคนเราไม่เคยเปลี่ยน ยังคงติดการเล่นมุขขำขันติด ตลกอยู่เช่นเดิม เพียงเปลี่ยนจากการพูดคุยกันทางตรง เป็นสนทนาวิสาสะกันผ่านมือถือ แอพพลิเคชั่น และสังคมออนไลน์

ความรวดเร็วและเครือข่ายที่กว้างขวางในการติดต่อสื่อสาร ทำให้บางเรื่องราวที่เราคิดว่าเป็นแค่มุขตลก กลับสร้างความตื่นตระหนกให้สังคมส่วนใหญ่ อย่างที่เห็นเป็นข่าวอยู่เนืองๆ

ล่าสุดก็มีหนุ่มพิเรนทร์โพสต์เฟซบุ๊กด้วยมุขที่คิดว่า ขำขัน จนต้องกลายเป็นผู้ต้องหาไปแบบไม่เป็นเรื่อง

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อโลกโซเชี่ยลพากันแชร์โพสต์ของชายคนหนึ่งที่ลงภาพถ่ายให้เด็กทารกวัยแบเบาะนอนดูดขวดนมที่ภายในบรรจุน้ำสีเข้มไว้

โดยผู้โพสต์ที่อ้างตัวเป็นพ่อของเด็ก ระบุว่า เด็กร้องอยากกินน้ำ ต้องเลือกระหว่างยาบ้ากับน้ำกระท่อม

จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา

แล้วก็ทันทีทันควัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หากตรวจสอบพบว่าการกระทำดังกล่าวเป็น การนำน้ำกระท่อมมาให้เด็กดื่ม และส่งผลให้เด็กได้รับอันตรายจริง ก็จะเข้าข่ายฐานความผิดที่มีโทษทางอาญา และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

หากการโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการตรวจสอบแล้ว ไม่เข้าข่ายฐานความผิดใดๆ แต่ก็ไม่สมควรที่จะนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยลมีเดียเพราะถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ให้กระทำด้วยความมีสติ รู้คิด ไม่คึกคะนอง ควรตระหนักถึงศีลธรรม อันดีงามและความสงบเรียบร้อยในสังคมเป็นสำคัญ เพื่อที่จะไม่ให้เด็ก เยาวชน หรือผู้ที่อาจนำไปลอกเลียนแบบ นำไปปฏิบัติให้เกิดความเสียหายต่อส่วนตัวและส่วนรวมได้

ขณะที่ พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 (คุมงานฝ่ายสืบสวน) เปิดเผยว่า หลังมีการโพสต์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และตัวผู้โพสต์ เช็กอินในพื้นที่สน.หนองจอก จึงสั่งให้ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน. หนองจอก ตรวจสอบกรณีให้เด็กกินน้ำกระท่อมในขวดนม ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เพราะมีสารเสพติด หากน้ำ ในขวดนมเป็นน้ำกระท่อมจริง จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ยาเสพติด

พฤติกรรมแบบนี้เป็นการกระทำที่ ไม่ถูกต้องถ้าเป็นเรื่องจริง เพราะน้ำกระท่อมมีสารเสพติดไมทราไจนีน (Mitragynine) ที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง และถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นน้ำกระท่อมจริง ก็จะมีความผิดในการจำหน่ายจ่ายแจก สิ่งเสพติดประเภทที่ 5

หากไม่ใช่เรื่องจริงก็จะมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14 นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ขณะนี้กำลังประสานงานกับบก.ปอท.ตรวจสอบ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ทำเรื่องเทคโนโลยีโดยตรง

คํ่าวันเดียวกัน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์

พ.ต.อ.ศักยะพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็บุกไปรวบตัว นายกฤษณะ วิเศษจุมพล วัย 20 ปี ผู้ที่โพสต์เฟซ บุ๊กดังกล่าวจากบ้านพักย่านหนอกจอก คุมตัวกลับไปที่สน.หนองจอกให้ พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รองผบก.น.3 สอบปากคำ

พ.ต.ท.ประเสริฐ จันทร์แดง หัวหน้างานสอบสวน สน.หนองจอก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าเจ้าตัวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ที่ทำไปเพราะความคึกคะนองรู้เท่าไม่ถึงการณ์

โดยวันเกิดเหตุ หลังจากภรรยาออกไปข้างนอก นายกฤษณะ อยู่กับลูก 2 คน ลูกร้องเลยเอาชาลิปตันให้ลูกกิน พอลูกดูดขวดนมที่มีชาอยู่ก็หยุดร้อง

เลยนึกสนุกเพราะสีชามีสีคล้ายน้ำต้มใบกระท่อม เลยโพสต์ลงด้วยความสนุก ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเขาเอาน้ำต้มใบกระท่อมใส่ขวดนมให้ลูกกิน เป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คุณพ่อพิเรนทร์รายนี้คงเข็ดไป อีกนาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน