เปิดคลิปตุ๊กตุ๊กกร่างล้อมรถ ท้าเอาเรื่องแกร็บเชียงใหม่ ขนส่งฯสั่งฟันทั้งสองฝ่าย

 

กฤษณะ เชิญธงไชย –

ปัญหาการกระทบกระทั่ง ระหว่างแกร็บคาร์-แกร็บไบก์ กับผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะ กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ดูเหมือนจะยังไม่พบทางออก ไม่ใช่แค่ประเทศ ไทย แต่แทบทุกประเทศที่แกร็บคาร์เข้าไปให้บริการ ก็ล้วนประสบปัญหาไม่แตกต่างกัน

แม้ตัวแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการเรียกรถจะไม่ผิดกฎหมาย แต่การนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการ หรือผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบขับขี่รถสาธารณะนั้นยังเป็นเรื่องที่ผิดตามพ.ร.บ.ขนส่งทางบก แต่ก็เป็นการยากที่เจ้าหน้าที่จะตรวจจับ จึงมีรอดหูรอดตาไปได้เป็นจำนวนมาก

แล้วก็เป็นเรื่องขึ้นมาอีกจนได้ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Winston Vaduz โพสต์คลิปวิดีโอลงในกลุ่ม “จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com” พร้อมกับแคปชั่นว่า “Welcome to Chiang Mai”? โดยในคลิปเป็นเหตุการณ์ของกลุ่มคนขับรถรับจ้าง ตุ๊กตุ๊ก แท็กซี่ เข้ารุมรถแกร็บ ขณะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาส่ง ทั้งด่า ข่มขู่ กระโดดถีบ เรื่องแย่งลูกค้านัก ท่องเที่ยว บริเวณหน้าอาเขตเชียงใหม่

ซึ่งมีผู้ชายสวมเสื้อสีน้ำตาลเป็นคนขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้าง ตะโกนท้าทายด่าทอคนขับรถแกร็บเป็นภาษาเหนือว่า “มันเป๋นจะได คิงเป็นไค๋ ฮาบะมีสิทธิอู้จะอี้ คิงลงมา คิงลงมา” พร้อมกับเดินไปหยิบอาวุธลักษณะคล้ายท่อนเหล็กในรถสามล้อออกมา และกระชากคนขับรถแกร็บให้ออกมานอกรถ ข่มขู่ให้บอกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชายหญิงลงจากรถ ซึ่งคลิปที่เผยแพร่นักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นผู้ถ่ายเอา ไว้เองด้วย

คลิปดังกล่าวถูกแชร์ส่งต่ออย่างรวดเร็ว พร้อมคำคอมเมนต์ต่อว่าการกระทำของคนขับรถตุ๊กตุ๊กดังกล่าว พร้อมระบุว่า หากไม่ พอใจแกร็บก็ต้องทำตามขั้นตอน ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายคนอื่น กักขังคนอื่นแบบนี้ เนื่องจากการกระทำเช่นนี้กระทบกับภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ และความเสียหายที่ผู้ประกอบ อาชีพรายอื่นๆ จะได้รับ

พลันที่เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็น ข่าวใหญ่ตามสื่อต่างๆ ทั้งตำรวจและขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ต่างตามหาตัวให้ควั่กทั้งสองฝ่าย จนในที่สุดก็ทราบว่าคนขับตุ๊กตุ๊กหัวร้อน คือ นายรุ่งรุจ จินาเรือน อายุ 37 ปี ก่อนเจ้าตัวจะถูกแฉว่าเคยก่อเหตุชูนิ้วกลาง ให้กับรถกระบะมาแล้วถูกเผยแพร่ในโซเชี่ยล ถูกเจ้าหน้าที่เรียกปรับ เมื่อปี 2559 ผ่านมา 2 ปีก็มาก่อเหตุระเบิดอารมณ์ร้อนกับแกร็บคาร์อีก

ตำรวจตามตัวนายรุ่งรุจมาสอบสวน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ทำถูกต้องแล้ว ไม่ได้รับความถูกต้องจะให้ทำอย่างไร หากินได้เงินวันละ 200-300 จะเลี้ยงลูกเมียอย่างไร มีเรื่องก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้มาสนใจ เคยร้องเรียนทางกฎหมายแล้ว มีการรับเรื่องแล้ว แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย ส่วนสิ่งที่เกิดกับนักท่องเที่ยวเจ้าตัวก็ยอมรับว่าก็เสียใจเหมือนกัน

วันที่ 2 ต.ค. ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ นางพรรณี พุ่มพันธุ์ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตัวแทนรถรับจ้างสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมหารือ เพื่อหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ขนส่งยังได้เชิญนายรุ่งรุจ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก เข้าพบและว่ากล่าว ตักเตือน พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย โดยเจ้าตัวยอมรับว่าก่อเหตุจริง ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 1 ต.ค. เนื่องจากรู้สึกอัดอั้นมานานที่แกร็บคาร์เข้ามาให้บริการและแย่ง ผู้โดยสาร

ที่ผ่านมาได้พยายามขอร้องด้วยดีมาตลอดแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเกิดเหตุในครั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เสียหาย แต่ที่ทำลงไปเป็นเพราะอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนขับรถรับจ้างสาธารณะ ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหากรณีแกร็บคาร์อย่างเด็ดขาดเสียที เพราะที่ผ่านมามีการ ร้องเรียนมาตลอด แต่ไม่เป็นผล และยังคงถูกแย่งทำมาหากินอยู่ตลอด

สําหรับคนขับแกร็บคาร์นั้น เจ้าหน้าที่ทราบชื่อคือ นายสินชัย ยอดตา อายุ 29 ปี ซึ่งวันเกิดเหตุได้ให้ใบขับขี่ไว้กับเจ้าหน้าที่แล้วขับรถออกไป อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาเพื่อสอบถามรายละเอียด และดำเนินการตามกฎหมาย ฐานความผิดนำรถส่วนบุคคลมารับส่ง ผู้โดยสารสาธารณะ

นางพรรณีกล่าวว่า การดำเนินทางกฎหมายแบ่งเป็น 2 ส่วน ผู้ขับแกร็บคาร์จะถูกดำเนินตามพ.ร.บ.ขนส่ง การใช้ผิดประเภท มีโทษปรับ 2 พันบาท พร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากพบการกระทำความผิดต่อเนื่องซ้ำซากก็จะดำเนินการขั้นสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ส่วนคนที่เข้าไปรุมต่อว่าดังกล่าวก็ได้ทำความเข้าใจชี้แจงถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการ ซึ่ง จากนี้ได้พูดคุยทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าว หากพบว่ามีการทำผิดก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการ

ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้สั่งห้ามผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ขับขี่รถบริการสาธารณะ ทำพฤติกรรมข่มขู่คุกคามหรือกระทำการใดที่ไม่เหมาะสมโดยเด็ดขาด โดยให้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแทน รวมทั้งใช้ช่องทางแจ้งทางไลน์กลุ่มที่ตั้งขึ้นมาอีกทางด้วย

กฎหมายมีอยู่แล้ว แค่แจ้งผู้มีหน้าที่ทำตาม ก็จะไม่บานปลายเป็นเรื่องใหญ่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน