คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อดิศร จิตตเสวี / สมศักดิ์ ชฎารัตน์ / นรินทร์ เนียมประดิษฐ์ / อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

เรื่อง/ภาพ

งานทุบ-รื้อถอนอาคารขนาดใหญ่ มีขั้นตอนวิธีการ ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่เพียงแค่เอาเครื่องจักร เอาค้อนมาทุบๆ ก็ใช้ได้ อาคารแต่ละแบบก็มีวิธีรื้อถอนที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าขั้นตอนที่ดูยุ่งยากชักช้า ล้วนกำหนดมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงาน

แต่หากผู้ปฏิบัติงานขาดความเข้าใจ หรือถึงขั้นไม่ใส่ใจเสียแล้ว ย่อมหนีไม่พ้นความสูญเสีย ดังเช่นเหตุการณ์อาคาร 8 ชั้น ภายในซอยสุขุมวิท 87 ถล่มทับคนงานบาดเจ็บและเสียชีวิต ระหว่างที่รื้อถอน

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ร.ต.อ.โอปอ โนนทะขันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุอาคารถล่มมีผู้ติดอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 87 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ พร้อมรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.เสถียร วิชญ์ธนมาลา รองผกก.(สอบสวน) นายสันต์ ทองสุข หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารไทยยานยนต์มิตซู เลขที่ 2225 สูง 8 ชั้น เคยเป็นโชว์รูม ขายรถยนต์มิตซูบิชิแต่เลิกกิจการไปแล้ว และอยู่ระหว่างการรื้อถอนตัวอาคาร โดยมีการกั้นพื้นที่ล้อมรอบด้วยสังกะสี ส่วนตัวอาคารที่รื้อมีความยาวประมาณ 100 เมตร เนื้อที่ประมาณ 250 ตารางเมตร จุดที่พังถล่มลงมา เป็นบริเวณส่วนกลางของตัวอาคาร พังถล่มลงมาทั้ง 8 ชั้น เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ติดอยู่ภายใน 4 ราย

เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เข้าไปตรวจสอบในเบื้องต้น พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ถูกแผ่นปูนทับตามร่างกาย มีรายหนึ่งถูกแผ่นปูนทับหัวขาด และยังมีผู้สูญหายอีก 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายบุญแจ้ง เรศละออง คนขับรถแบ๊กโฮ และนายไพร คะนุนรัมย์ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 ราย

จากการสอบสวนนายพิชิต ภาสดา อายุ 43 ปี คนขับรถแบ๊กโฮอีกรายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและคนงานรวม 9 คน กำลังรื้อถอนอาคาร โดยตนเองกำลังเติมน้ำมันรถอยู่ชั้นล่าง ส่วนคนงานคนอื่นๆ ก็เข้าไปอยู่ภายในอาคาร จู่ๆ ได้ยินเสียงสะลิงขาด แล้วอาคารก็ถล่มลงมาเสียงดังสนั่น ฝุ่นตลบ

ตนและคนงานวิ่งหลบหนีออกมาได้รวม ทั้งหมด 5 คน มีเพื่อนคนงานบาดเจ็บเล็กน้อยจากการที่ถูกเศษหิน ปูน ร่วงใส่

ขณะที่นายสันต์ ทองสุข หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เปิดเผยว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้เกิดเหตุเศษหินจากการรื้อถอนกระเด็นถูกชาวบ้านในละแวกนั้น เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ทางสำนักงานเขตพระโขนงจึงมีหนังสือสั่งให้ระงับการรื้อถอนไว้ชั่วคราว และให้ทำแผนดูแลความปลอดภัยระหว่างการรื้อถอนอาคารใหม่มาเสนอ แต่ยังไม่มีการทำหนังสือมาเสนอในรอบใหม่ก็มีการเข้ารื้อถอนจนเกิดเหตุอาคารถล่มดังกล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดทั้งหมด 3 ข้อหาคือ 1.กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย 2.ผิดพ.ร.บ.อาคาร ปีพ.ศ.2522 และ 3.ขัดคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสำนักงานเขตได้มีคำสั่งระงับการรื้อถอนแล้วแต่ก็ยังมารื้อถอน โดยจะเรียกตัวผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดีทั้งหมด

ในส่วนของการค้นหาผู้สูญหาย เจ้าหน้าที่ตั้งศูนย์อำนวยการ ติดตามผู้ที่สูญหายภายในอาคาร โดยมี พ.ต.อ.ดร.บัณฑิต ประดับสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในอาคารจากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยทีมสภาวิศวกร ร่วมประชุมวางแผนช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ระดมทั้งสุนัขกู้ภัยและอุปกรณ์เครื่องเรดาร์ไลฟ์โลเกเตอร์ ร่วมค้นหาร่าง ผู้สูญหายอย่างไม่ลดละ ทำงานกันตลอด 24 ช.ม. ก่อนจะพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว

แต่การนำศพออกมาไม่ใช่เรื่องง่าย อุปสรรคสำคัญคือซากวัสดุของอาคารที่กองทับถมกันอยู่หลายชั้น โดยเฉพาะแผ่นพื้นคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ทับกันอยู่ ซึ่งหากไม่ระวังอาจพังครืนลงมาอีกได้

ต้องใช้เวลาถึง 4 วัน จึงประสบความสำเร็จ ในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถเจาะแผ่นปูนลงไปนำศพผู้เสียชีวิตทั้งคู่ออกมาได้

ขณะที่ ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า สำหรับการรื้อถอนอาคารที่สูงเกิน 3 ชั้นขึ้นไป จะต้องมีวิศวกรควบคุมการออกแบบ และการรื้อถอนเนื่องจากขั้นตอนของการรื้อมีความสำคัญ รวมถึงเครื่องมือและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

สำหรับอาคารที่พังลงมาเป็นโครงสร้างไร้คานที่เสริมสะลิงเข้าไป ซึ่งมีความอ่อนแอกว่าอาคารที่มีเสาคานรับน้ำหนัก หากไม่มีความชำนาญในการรื้อถอนเมื่อพื้นอาคารถูกทำลายไปโดยไม่มีอุปกรณ์รองรับน้ำหนัก จะทำให้พังถล่มลงมาเหมือนเช่นอาคารนี้

ขณะที่ตำรวจดำเนินคดีกับกรรมการผู้มีอำนาจดำเนินการ บริษัท แมกกะทู และกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทบอยโอเชี่ยน สตาร์ จำกัด ในข้อหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

อุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ต้องเข้าไปรื้อถอนอาคารต่างๆ จำไว้ว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน” ช่วยได้เสมอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน