สดจากสนามข่าว : ผ่าคดีหนุ่มระแวงสาวปันใจ ครกทุบหัวตายสยองคาห้อง กรรมตามทัน-ซิ่งเก๋งตกเหว

ผ่าคดีหนุ่มระแวงสาวปันใจ ครกทุบหัวตายสยองคาห้อง กรรมตามทัน-ซิ่งเก๋งตกเหว

โดย อรรณพ เพ็ชรภิมล เรื่อง/ภาพ

ชีวิตคู่หากไร้ซึ่งความเชื่อใจ อยู่กันด้วยความหวาดระแวง สุดท้ายก็ไปไม่รอด ต้องแยกจากกันสักวัน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่เพียงแต่ว่าจะจากเป็นหรือจากตายเท่านั้น

วันที่ 8 ต.ค. ร.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ อักษรเพียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมภายในห้องเช่า ภายในซอยบางวาด ถนนวิชิตสงคราม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.จักรวรรดิ บุญทวีกุลสวัสดิ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.อำพลวัฒน์ แสงเรือง รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.(ป.) ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.ภูเก็ต แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.วาสนา ดอหล้า อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/1 ม.6 ต.คลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน มีกองเลือดติดอยู่ที่หมอน ตรวจสอบร่างกายพบมีรอยแผลถูกทำร้าย บริเวณศีรษะหลังด้านขวาเป็นบาดแผลฉกรรจ์ พบรอยเลือดกระเซ็นติดผนังห้องนอนเหนือศีรษะผู้ตาย พบจานใส่อาหาร จำนวน 3 ใบวางอยู่ข้างศพ

นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง วางทับกระดาษที่เขียนด้วยลายมือ มีข้อความ ในทำนองว่า “ฝากถึงแม่ พี่สาว และลูกๆ ที่ผมทำไปเพราะเมียผมไปมีคนอื่น ฯลฯ” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด

สอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นพนักงานขายเสื้อผ้า อยู่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วิชิต โดยพักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่ม ชื่อ นายบัญชา ใจจันทร์ อายุ 42 ปี บ้านอยู่ ต.น้ำปั้ว อ.เวียงสา จ.น่าน ก่อนพบศพเวลาประมาณ 11.17 น. มีพยานเห็นนายบัญชาขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กต 3881 กระบี่ ออกจากหน้าห้องเช่าอย่างเร็ว

จนต่อมาเวลาประมาณ 13.47 น. เพื่อนที่อยู่ข้างห้องพักเข้าไปตามน.ส.วาสนาในห้อง เนื่องจากนายจ้างโทร.มาตามว่าทำไมไม่ไปทำงาน เมื่อเพื่อนเข้าไปในห้องพบเห็นผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนแล้ว จึงได้แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ขณะที่จากการตรวจสอบหลังบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบครกหิน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านบน 6.5 นิ้ว ด้านล่าง 4.5 นิ้ว สภาพเปื้อนเลือดซุกซ่อนอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธสังหาร จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

แน่นอนว่าหลักฐานชัดเจน พุ่งเป้าไปที่นายบัญชา ตำรวจจึงรีบวิทยุสกัดจับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว คันดังกล่าวทันที

เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเสียเวลาตามหาให้นาน เพราะเพียงไม่นานก็รับแจ้งพบรถเก๋งคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ แล้วเสียหลักตกเหว บริเวณทางขึ้นเขาป่าตอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ โดยผู้บาดเจ็บเป็นคนขับ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนายบัญชา ใจจันทร์ ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้นั่นเอง

ตำรวจฝ่ายสืบสวนรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบสภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน ส่วนนายบัญชาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าตองไปก่อนแล้ว จึงตามไปตรวจสอบ พบว่านายบัญชาอาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่จึงอายัดตัวไว้ให้รออาการดีขึ้นจึงจะนำตัวไปสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี

รุ่งขึ้นวันที่ 9 ต.ค. พ.ต.ท.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.จรณธร ดนยานฤทธิ์ สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ก่อนเข้าควบคุมตัว นายบัญชา ใจจันทร์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.460/2561 ลงวันที่ 9 ต.ค.2561 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมนำตัวไปสอบสวน หลังแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

จากการสอบสวนนายบัญชารับสารภาพตลอดทุกข้อหาว่า สาเหตุที่ลงมือทำร้ายแฟนสาวเนื่องจากโมโหที่ ผู้ตายซึ่งอยู่กินด้วยกันคิดจะแยกทาง จึงใช้ครกหินฟาดเข้าที่ศีรษะจนนอนแน่นิ่ง จากนั้นนำร่างไปวางไว้บนที่นอน ก่อนจะเขียนจดหมายทิ้งเอาไว้ แล้วรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน แต่ระหว่างทางเกิดไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ระหว่างขึ้นเขาจนรถพุ่งตกเหว

ภายหลังสอบสวนนายบัญชาถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และนำตัวเข้าห้องขัง เพื่อรอส่งตัวฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป