เกาะติดตามจับโจรจี้โลตัส ก่อเหตุที่เพชรบูรณ์ ไปจนมุมหนองคาย

 

 

อารีย์ สีแก้ว – ประภาพร ส่อนราช – เรื่อง/ภาพ

สภาพเศรษฐกิจที่ผืดเคือง ผู้คนมากมายต่างตกในภาวะหนี้ท่วมตัว จนหลายคนอับจนหนทาง สุดท้ายถูกบีบให้เดินเข้าสู่เส้นทางแห่งมิจฉาชีพ กลายเป็นโจรด้วยความจำใจ

แน่นอนว่าโจรจำเป็นเหล่านี้ย่อมไม่มีความชำนาญ ไม่มีการวางแผนทางหนีทีไล่ได้แยบยลเช่นเดียวกับพวกมืออาชีพทั้งหลาย พลันที่ลงมือก่อเหตุก็นับถอยหลังรอเวลาถูกจับไว้ได้เลย

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค. เมื่อ ร.ต.ท.พรภัทร เชียงดา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ภายในร้านสะดวกซื้อ โลตัสเอ็กซ์เพรส สาขา สะเดียง ถนนบูรกรรมโกวิท ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูเบศ แสงอร่าม รอง ผกก. (สส.) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และชุดสืบสวน

เมื่อไปถึงพบร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน สอบสวนพนักงานสาว 2 คนภายในร้าน ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยน้ำเสียงสั่นจากความตกใจว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานเคาน์เตอร์อยู่ในร้าน 2 คน ขณะนั้นไม่มีลูกค้าอยู่ภายในร้านเลย

จู่ๆ มีชายสวมเสื้อแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนส์ขาเดฟ สะพายกระเป๋าคาดอกสีเขียว สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ เดินเข้ามาในร้าน จากนั้นใช้อาวุธมีดปลายแหลมออกมาจี้ พร้อมกับพูดข่มขู่ ให้พนักงานส่งเงินมาให้หมด พนักงานจึงหยิบเงินในลิ้นชักส่งให้จำนวนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าเท่าไหร่ คนร้ายนำเงินใส่กระเป๋าที่คาดหน้าอกอยู่ จากนั้นได้วิ่งหลบหนีออกจากร้านไป

ขณะที่จากการสอบถามพยานที่อยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นคนร้ายมานั่งเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ข้างๆ ร้านเป็นเวลานาน กระทั่งสบโอกาสที่ไม่มีลูกค้าภายในร้านจึงเข้าก่อเหตุดังกล่าว จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไปขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มาก หลบหนีไปทางตัวเมืองเพชรบูรณ์

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุขอกำลังระดมออกสกัด ในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี และจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีนี้ไม่ต้องรอนาน เพราะเพียงแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงตำรวจก็ติดตามจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ โดยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ต.ค. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันสอบปากคำนายสุพิน จวบกระโทก อายุ 29 ปี ชาว ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

ผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการใด เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ และพาอาวุธไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางเป็นเสื้อยืดสีดำแขนยาวตัวที่ใช้ก่อเหตุ เงินสด 5,510 บาท

พ.ต.อ.เกษมกล่าวว่า คดีนี้ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.ภูเบศ แสงอร่าม รอง ผกก. (สส.) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ สวมหมวกกันน็อก ใช้มีดไปก่อเหตุจี้ชิงเงินภายในร้านสะดวกซื้อโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขา สะเดียง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

โดยคนร้ายได้เงินไปประมาณ 8 พันบาท หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุพิน ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกคดียาเสพติดเมื่อปี 2553 และมีแฟนเป็นชาวลาว จึงคาดว่าอาจจะหลบหนีมาในพื้นที่ จ.หนองคาย

หลังจากได้รับการประสานได้แจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย พบนายสุพินอยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงเข้าควบคุมตัวไว้ โดยภายในตัวนายสุพินมีเงินสดที่ได้จากการชิงทรัพย์คงเหลืออยู่ 5,510 บาท

จากการสอบสวนนายสุพินให้การรับสารภาพว่า ทำงานอยู่ที่ร้านอะลูมิเนียม ในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ติดหนี้ 2,000 บาท ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้ จึงคิดสั้นตัดสินใจคว้ามีดทำครัวจากที่บ้านบุกเข้าไปจี้ชิงเงินจากพนักงานขายโลตัสเอ็กซ์เพรส โดยไม่ได้ทำร้ายผู้ใด จากนั้นทิ้งมีดในถังขยะใกล้กับร้าน

ส่วนเงินนำไปใช้หนี้เจ้าหนี้แล้วจึงหลบหนีมายัง จ.พิษณุโลก ก่อนจะนั่งรถทัวร์มา จ.อุดรธานี ต่อรถมาถึง จ.หนองคาย เพื่อนัดพบกับแฟนสาวชาวลาว หลังจากสอบสวนเบื้องต้นได้แจ้งตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์มารับตัวนายสุพินไปดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน