คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์ /ณเดช โรจนประดิษฐ์ เ

รื่อง/ภาพ – ภาพส่วนหนึ่งจาก สวพ 91, Atom Dinky

ท่ามกลางการจราจรอันคับคั่ง บนถนนเอกมัย เมื่อบ่ายวันที่ 21 ธ.ค. ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งคนที่เดินผ่านไปมาอยู่ ริมถนน ต่างต้องพากันตกใจสุดขีด เมื่อจู่ๆ มีรถบรรทุก 6 ล้อ นิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 96-9575 กทม. ขับห้อตะบึงไล่ชนดะ รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่บนถนนที่คับแคบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด

ย้อนกลับไปก่อนหน้า ตำรวจจร.สน.พญาไท พบรถคันดังกล่าวขับฝ่าสัญญาณไฟจราจร ทั้งย้อนศรวิ่งอยู่บนบัสเลนบริเวณแยกประตูน้ำ จึงเรียกให้จอดรถพร้อมนำรถไปขวางหน้าเอาไว้ แต่คนขับรถไม่ยอมจอด กลับพุ่งรถชนรถเจ้าหน้าที่ก่อนขับหลบหนีมาตามถนนเพชรบุรี จึงไล่ติดตามมาพร้อมทั้งวิทยุขอกำลังสกัดร่วมจับ

รถ 6 ล้อไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุด พยายามขับหลบหนี จนพุ่งเฉี่ยวชนรถที่จอดติดอยู่บนถนน ก่อนขับมาในพื้นที่ สน.มักกะสัน เข้าซอยศูนย์วิจัย วิ่งผ่านหน้า สน.มักกะสัน แล้ววนกลับเข้าถนนเพชรบุรีอีกครั้ง ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อ แล้วขับผ่านหน้า สน.ทองหล่อ ไปเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ 10 เลี้ยวขวาเข้าซอยเอกมัย มุ่งหน้าแยกเอกมัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ที่ติดตามมาตัดสินใจยิงสกัดจนยางล้อรถแบน แต่กลับยิ่งเพิ่มความระห่ำให้กับคนขับมากขึ้นไปอีก

หลังขับไล่ชนดะรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนนไม่ต่ำกว่า 40 คัน ก่อนที่รถจะวิ่งมาสิ้นฤทธิ์เพราะน้ำมันหมด บริเวณใกล้กับห้าง บิ๊กซี สาขาเอกมัย ชายคนขับทิ้งรถรีบวิ่งหลบหนี แต่ไม่รอดถูกชาวบ้านและพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอม แทบไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อนำตัวไปตรวจปัสสาวะก็พบว่าเจ้าตัวมี ฉี่เป็นสีม่วง ซึ่งก็ยอมรับแต่โดยดีว่าเสพยามาจนเกิดอาการหลอน

จากการสอบสวนทราบชื่อคือ นายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี ตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายพบยาไอซ์ น้ำหนัก 3.9 กรัม นายเอกพจน์สารภาพว่าก่อนหน้านี้ถูกภรรยาทิ้งไปมีสามีใหม่ จึงเกิดความเครียดและกลุ้มใจ ไปซื้อยาไอซ์มาเสพต่อเนื่องกัน 3 วัน

“ก่อนเกิดเหตุผมขับรถบรรทุกวัสดุก่อสร้างไปส่งลูกค้าที่ย่านสะพานควาย หลังจากส่งของเสร็จจึงขับรถกลับ แต่ระหว่างนั้นผมขับรถย้อนศรและวิ่งบนบัสเลน จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้หยุด ผมนึกขึ้นได้ว่าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงเร่งเครื่องหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมได้” นายเอกพจน์สารภาพ

ตำรวจสอบประวัติพบว่านายเอกพจน์ เคยถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดมาถึง 4 ครั้ง เมื่อปี 2555, 2556, 2557 และ 2559 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะนายเอกพจน์ พบว่ามีสีม่วง จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันคลิปวิดีโอเหตุการณ์ระทึก ขณะที่นายเอกพจน์ขับรถไล่ชนรถที่วิ่งอยู่บนถนนแชร์กันว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต

พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน. ทองหล่อ เปิดเผยว่านายเอกพจน์ ขับรถบรรทุก 6 ล้อ บริษัท ชัยภิวัตร จำกัด ขายวัสดุก่อสร้าง เบื้องต้นได้แจ้ง 7 ข้อหา 1.มียาเสพติด (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2.เสพยาเสพติด 3.ขับรถขณะเสพยาเสพติด 4.ไม่หยุดให้การช่วยเหลือ 5.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 6.ฝ่าฝืนสัญญาณมือเจ้าหน้าที่ และ 7.หลบหนีเจ้าพนักงานโดยไม่หยุดให้การช่วยเหลือ


สำหรับเรื่องการเยียวยาผู้เสียหายเจ้าของรถในท้องที่ สน.ทองหล่อ 32 คัน และสน.มักกะสัน อีก 10 คัน ทางบริษัทประกันภัยได้ประสานมาแล้ว โดยมีวงเงินเยียวยาเบื้องต้นรวมทั้งหมด 600,000 บาท อย่างไรก็ตามหากรถของผู้เสียหายรายใดที่มีวงเงินมูลค่าความเสียหายมากกว่านี้ ต้องฟ้องร้องคดีแพ่งกับทางบริษัทของผู้ต้องหา

ขณะที่ พ.ต.ท.นพดล สามารถ รอง ผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ สรุปยอดความเสียหาย สน.ทองหล่อ มีจำนวน 32 คัน สน.มักกะสัน จำนวน 10 คัน รวมแล้วมีรถส่วนบุคคลจำนวน 34 คัน รถจักรยานยนต์ 8 คัน รวมทั้งหมดจำนวน 42 คัน ค่าเสียหายเบื้องต้นที่ทางเจ้าของรถเรียกร้องมาประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ตัวแทนบริษัทประกันภัยสินมั่นคง ได้เจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายร่วมกับทางบริษัท ชัยภิวัตร จำกัด

นายสุภีร์ บุตรพรม หัวหน้าฝ่ายขนส่ง บริษัท ชัยภิวัตร จำกัด กล่าวว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายเอกพจน์เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ซึ่งในช่วงที่มาสมัครงานก็สัมภาษณ์และสอบถามจากญาติพี่น้อง และตรวจปัสสาวะ แต่ไม่ได้เช็กประวัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนเองบอกกับลูกน้องเสมอว่า หากถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับแล้วออกใบสั่งให้นำมาให้ตน เพราะส่วนใหญ่ลูกน้องจะโดนเรื่องออกวิ่งเลนขวา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยพนักงานขับรถส่วนใหญ่ก็จะมีเงินเดือน 10,000 บาท พร้อมมีที่พักให้

นายเอกพจน์เพิ่งเข้าทำงานได้เพียง 4 เดือน และไม่มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ แต่ได้สอบถามจากเพื่อนคนงานก็บอกว่าจะเป็นคนเก็บตัวเงียบๆ ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าจะขับรถหลบหนีทำไม จนมาทราบว่านายเอกพจน์เสพยาเสพติดเข้าไป จนเกิดอาการหลอนหวาดระแวง เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย

ในส่วนการชดใช้ค่าเสียหายทางบริษัทประกันภัยฯ คุ้มครองจำนวน 600,000 บาท กับคู่กรณีทั้ง 42 คัน ซึ่งต้องแยกเป็นรายๆ ไป โดยส่วนตัวมองว่าค่าเสียหายน่าจะเกิน 2 ล้านบาท ซึ่งหากว่าทางเจ้าของรถไม่พอใจกับวงเงินที่ทางบริษัทประกันภัยจ่ายให้ ทางบริษัท ชัยภิวัตร จำกัด ยินดีชดใช้ในส่วนต่างที่เกิน โดยไม่ต้องไปยื่นเรื่องฟ้องร้อง ให้ติดต่อกับตนที่บริษัท ได้เลยจะได้เจรจาค่าเสียหายกับเจ้าของรถทั้งหมดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน