สดจากสนามข่าว

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / เรื่อง-ภาพ

นับเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนที่ชาวบ้านซาด เฝ้ารอคอยได้เห็นหน้าฆาตกรใจโหด ผู้ทำให้เด็กชาย 2 คนเป็นกำพร้า โดยเฉพาะคนน้องวัยแค่ 8 ขวบได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ เมื่อต้องเห็นภาพมารดาสิ้นใจไปต่อหน้า ทั้งที่คุกเข่ายกมือไหว้อ้อนวอนขอชีวิตจากสองโจรปล้นชิงเงิน กลายเป็นคดีสะเทือนใจชาวโคราช

บ่ายวันที่ 15 ก.ย. วันที่ชาวบ้านรอคอย ก็มาถึง เมื่อ พ.ต.อ.สันติ เหล่าประทาย รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.อาทิพย์ ซึมดอน ผกก.สภ.พิมาย พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.พิมาย และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา ควบคุมตัว นายเกียรติศักดิ์ หรือเต้ย ประภาการ อายุ 19 ปี และ นายแบท (นามสมมติ) อายุ 18 ปี มาถึงบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

จุดเกิดเหตุที่นางอรุณ ปลั่งกลาง อายุ 48 ปี ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ต่อหน้าลูกชายวัย 8 ขวบ เสียงตะโกนด่าทอ สาปแช่ง จึงดังกระหึ่มไปทั่วท้องทุ่งนา พร้อมทั้งพยายามฝ่าแนวกั้นตำรวจเข้ารุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น!!

คดีสะเทือนขวัญ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดบ้านซาด หมู่ 6 ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา สถานที่จัดสวดอภิธรรมศพ นางอรุณ ปลั่งกลาง อายุ 48 ปี หลังเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน กลางดึกคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา

4

เมื่อด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ลูกชายนางอรุณ เล่าให้ชาวบ้านที่มาร่วมงานฟังว่า ระหว่างที่นั่งรถจักรยานยนต์ไปกับแม่ มีชายวัยรุ่น 2 คนมาดักปล้นกลางทาง ใช้ปืนขู่บังคับให้ส่งเงินให้ แต่พอแม่บอกไม่มี คนร้ายเลยใช้ปืนทุบตีศีรษะไปถามไปว่ายอมหรือยัง แม่ต้องนั่งคุกเข่ายกมือไหว้ขอชีวิตบอกยอมแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่แค่ 200 บาท ทำให้คนร้ายโมโหใช้ด้ามปืนทุบหัวแม่อีกหลายครั้งจนนิ่งไป

เมื่อสาเหตุการตายที่แท้จริงถูกเล่าออกจากปากลูกชายผู้ตาย ซึ่งถือเป็นพยานปากเอก ชาวบ้านไม่รอช้ารีบแจ้งไปยังตำรวจโรงพัก พิมายทันที

“ผมได้รับรายงานจากร้อยเวรว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ ส่วนประเด็นการฆ่าชิงทรัพย์นั้นในเมื่อเป็นคำให้การลูกชายผู้ตาย ก็คงจะอยู่นิ่งไม่ได้ต้องเรียกเจ้าของคดีและพยานทั้งหมดมาสอบถามอย่างละเอียด หากเป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเร่งรัดติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว” ผกก.สภ.พิมาย ระบุ หลังสั่งการให้พนักงานสอบสวน กับตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากลูกชายนางอรุณ ในเช้าวันต่อมา

การสืบสวนหาข้อเท็จจริง ร่องรอย เบาะแส ตำรวจเริ่มต้นจากที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวกลางท้องทุ่งนา 2 ฝั่ง จากนั้นเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อม ครอบครัว ญาติ พร้อมหาหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งการทำงานเดินหน้าไปต่อเนื่อง มีการนำตัววัยรุ่นต้องสงสัย 2 คนมาให้ลูกชายเหยื่อชี้ตัว แต่ก็ยังไม่ใช่

กระทั่งกลางดึกวันที่ 14 ก.ย. เกิดเหตุ 2 คนร้ายชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์แล้วทำร้ายเจ้าทุกข์บาดเจ็บ ด้านหลังวัดบูรพาพิมล เขตเทศบาลตำบลพิมาย แล้วผู้เสียหายจดจำใบหน้าและยานพาหนะคนร้ายได้ จนตำรวจไล่ตรวจกล้องวงจรปิดตามไปรวบ นายเกียรติศักดิ์ และนายแบท ได้ที่บ้านพักใน ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

เมื่อพฤติการณ์คล้ายคลึงกับคดีฆ่าชิงทรัพย์นางอรุณ ทั้ง 2 คนจึงถูกเค้นสอบอย่างหนัก สุดท้ายยอมสารภาพ

“สองทุ่ม วันที่ 21 ส.ค. ผมกับนายแบท ขี่รถจักรยานยนต์เล่นไปเรื่อยตามถนนเลียบคลองชลประทาน ก่อนเข้าไปนั่งเล่นในบ้านร้างใกล้ปากทางเข้าบ้านซาด ระหว่างนั้นเห็นนางอรุณขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมากับลูกชาย จึงขี่รถตามประกบแล้วใช้ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ตีไปที่หมวกกันน็อก ทำให้นางอรุณตกใจบิดคันเร่งหนี เสียหลักไปชนกิ่งไม้ข้างทางล้มเสียชีวิต ผมไม่ได้ลงไปทำร้ายซ้ำ แต่อย่างใด และไม่ได้ชิงเงินไปด้วย” นายเกียรติศักดิ์สารภาพ

ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ซึ่งไม่ตรงกับพยานปากเอกที่อยู่ในเหตุการณ์ หลังมาชี้ตัวยืนยันว่าใช่ 2 โจรโหดตัวจริง ก่อนถูกพาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แจ้งข้อหาหนัก ให้ไปพิสูจน์ความจริงกันในชั้นศาล

1

ความโหดเหี้ยมเกินอายุวัยรุ่น 2 คน สร้างบาดแผลชีวิตให้เด็ก 2 คน วัยเพียง 8 ขวบ กับ 11 ขวบ อย่างมหาศาล ต้องกำพร้าแม่ผู้เป็นเสาหลักของบ้านไปอีกคน หลังพ่อด่วนจากไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งยายเด็กยอมรับ คงเลี้ยงดูหลานได้แค่จบชั้นประถม เพราะฐานะไม่ได้มั่งมีอะไร ก่อนส่งไปอยู่กับลุงซึ่งเป็นครูรับเลี้ยงต่อ เพื่ออนาคตหลาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน