แปดโมงเช้าวันที่ 15 ธ.ค. พ.ต.ต.วิเศษ พุ่มพวง สว.สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยมังกร-ขันดี ซอย 8 หมู่ 8 ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรายุทธ พูลธัญญะ รอง.ผบช.ภ.1

พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก. พ.ต.อ.นพดล สุคนธวิท ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ต.สายันต์ มโนรัตน์ สว.ป.ฯ ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.เทพารักษ์ เดินทางไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุกลางถนนพบร่างนายมงคล ศรีขว่าง อายุ 38 ปี ตำแหน่งนักวิชาการประกันสังคมสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธ ขนาด .38 เข้าที่บริเวณกลางหลังทะลุหน้าอก 1 นัด อาการสาหัสนอนหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาล ก่อนนำส่ง ร.พ.เปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 3กอ 7697 กรุงเทพฯ ของผู้ตาย ล้มคว่ำอยู่ ที่หน้าปัดรถพบหัวกระสุนขนาด .38 เจาะคาอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ที่เกิดเหตุยังมีผู้บาดเจ็บที่โดนลูกหลงอีก 1 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ร.ร.เทพศิรินทร์สมุทรปราการ กำลังนั่งร้องไห้ตัวสั่นด้วยอาการตกใจ ทราบชื่อ นางสาวอัมพวรรณ สุขนิล อายุ 17 ปี ถูกคมกระสุนปืนถากเข้าที่บริเวณสะโพกขวา 2 แผล เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง ร.พ.สมุทรปราการ

ตำรวจสอบถามชาวบ้านได้ความว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกสีเข้ม ทะเบียน 850 ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว หลังก่อเหตุหลบหนีมุ่งหน้าออกไปทางปากซอยมังกรทะลุถนนเทพารักษ์

ขณะที่ นางอรัญญา ศรีขว่าง อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้ข้อมูลว่าสามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ทั้งเรื่องส่วนตัวและที่ทำงาน ก่อนเกิดเหตุ สามีขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ไปทำงานตามปกติ กระทั่งมาถูกยิงตาย

พ.ต.อ.นพดลสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ประสานพื้นที่ใกล้เคียง สกัดจับรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี พร้อมกับสั่งการให้ชุดสืบสวนตามแกะรอยจากภาพวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสไล่ล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วน

คดีนี้พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ให้ความสำคัญลงมากำกับดูแลด้วยตนเอง พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ลงพื้นที่ร่วมมือกับชุดสืบสวน ภ.1 สืบจังหวัดสมุทรปราการและสภ.สำโรงเหนือ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย

แนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีการวางแผนการลงมืออย่างดี และอาจมีมากกว่าสองคน คนร้ายน่าจะจอดรถซุ่มดูผู้ตายก่อนออกจากบ้าน จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้านหลัง กระทั่งสบโอกาสขณะผู้ตายชะลอรถจะเลี้ยวเข้าซอย จึงชักอาวุธปืนชนิดลูกโม่ขนาด .38 กระหน่ำยิงใส่จนเสียชีวิต

ตำรวจสามารถระบุขั้นตอนและพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายได้แล้ว แต่ประเด็นการสังหารกลับมืดมน ทั้งเรื่องขัดผลประโยชน์เรื่องส่วนตัวและเงินกู้นอกระบบ ไม่พบว่าผู้ตายจะมีอะไรที่เกี่ยวข้อง

เมื่อข้อมูลออกมาว่าผู้ตายไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร ก็เหลืออยู่เพียงเรื่องเดียว คือเป็นการฆ่าผิดตัว

หลักฐานเดียวที่พอจะทำให้สาวไปถึงตัวคนร้ายได้ คือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามถนนต่างๆ เพราะแน่ใจว่าคนร้ายทำงานเป็นทีม จึงน่าจะมีทั้งคนดูต้นทาง คนชี้เป้า มือปืน และทีมพาหลบหนี

ชุดสืบสวนนำภาพจากกล้องวงจรปิดทั่วเมืองปากน้ำมาตรวจสอบ ไล่ย้อนกลับไปตั้งแต่เส้นทางที่ผู้ตายออกจากบ้าน เส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี รวมทั้งย้อนไปในวันก่อนเกิดเหตุ เนื่องจากคาดว่าคนร้ายน่าจะเคยมาดูตัวผู้ตายหรือเฝ้าสะกดรอยตามมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

ใช้ความพยายามไล่ดูภาพกันจนตาแฉะ เจอภาพรถต้องสงสัยหลายคัน แต่เมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าไม่เกี่ยวข้อง กระทั่งในที่สุดความพยายามก็ประสบผล เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถระบุลักษณะของรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัยได้ เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ รุ่น 15 ไอสีแดง ทะเบียน 2กฉ-84558 กทม.

กระทั่งวันที่ 28 ธ.ค. เจ้าหน้าที่สืบสวนจนแน่ชัดว่า หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุนั้นคือ นายสายชล ภิรมย์รักษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/15 หมู่ 6 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ จึงตามไปจับตัวเอาได้ ขณะกบดานอยู่ที่บ้านพัก ที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางหมวกกันน็อก 1 ใบ ก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.สำโรงเหนือ

ต่อมานายธนกฤต ประสาททอง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 822 ซ.สุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ หลังเพื่อนถูกจับ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟคันที่ใช้ก่อเหตุ

ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดยบอกว่าเป็นการฆ่าผิดตัว เนื่องจากผู้ตายแต่งตัวและขี่รถจักรยานยนต์คล้ายกับคู่อริ ที่เป็นเป้าหมายตัวจริง

พล.ต.ต.ธรรมนูญเปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้จากการสืบสวนทราบว่ามี ผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ทั้งหมด 7 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับได้ทั้งหมด 4 คน และตามจับตัวได้แล้ว 2 คน โดยเฉพาะ นายมาริโอ้ (ชื่อเล่น) ผู้ต้องหาที่ลั่นไกก่อเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตามจับกุมตัว

ส่วนเบื้องหลังนำไปสู่การจับกุมนั้น พล.ต.ต.ธรรมนูญเผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายทั้งสองคนขี่รถจักรยานยนต์ไปทิ้งที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะมีพวกขับรถกระบะไปรับมาส่งที่ย่านราษฎร์บูรณะ แล้วแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งตร.พบเบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ นำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

/////

สมภพ สนเวส เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน