สดจากสนามข่าว : อุทาหรณ์2ว่าที่เจ้าบ่าว ค้ายา-ชิงทองหาเงินแต่ง สุดท้ายถูกจับสวรรค์ล่ม

 

 

อนงค์ วงศ์ช่วย – พิรยุทธ์ นิ่มนนท์ – เรื่อง/ภาพ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับชุดปราบปราม ยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 9 ปฏิบัติการตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ รวม 3 จุด

ผลการตรวจค้นเป้าหมายแรกที่ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น คือที่บ้านพัก หมู่ 4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จับกุม นายสมพงศ์ หรือ บอย สงล้อม อายุ 32 ปี พร้อมยาไอซ์ 25 ถุง น้ำหนัก 21.36 กรัม ยาบ้า จำนวน 98 เม็ด อุปกรณ์เสพยาไอซ์ จำนวน 1 ชุด

ส่วนอีกเป้าหมายที่บ้านพักย่าน ถนนราษฎร์อุทิศ จับกุม นายศรัญญู หรือ ยู อินเรือง อายุ 35 ปี ยึดยาไอซ์ 14 ถุง น้ำหนัก 15.67 กรัม ยาบ้า จำนวน 38 เม็ด เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง และอุปกรณ์เสพยาไอซ์ จำนวน 2 ชุด








Advertisement

พอมาถึงเป้าหมายที่สาม ที่บ้านพัก ย่านถนนราษฎร์เสรี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบนายพนษธร สุลาคาร หรือต๊ะ อายุ 28 ปี ชายพิการขาซ้ายขาด เนื่องจากถูกรถชนจนต้องตัดขาทิ้ง อยู่ในบ้านพร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 8 ถุง น้ำหนักรวมทั้งหมด 7.60 กรัม ที่แบ่งไว้ขาย เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง อุปกรณ์เสพยาไอซ์ 2 ชุด

ซึ่งขณะเข้าจับกุมมีแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องแก่ 8 เดือนอยู่ในบ้านด้วย แต่พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

นายพนษธรยอมรับสารภาพว่าซื้อ ยาไอซ์มาจากนายเอก อยู่ที่จ.พัทลุง ในราคากรัมละ 800 บาท มาขายต่อกรัมละ 900 บาท และเสพยาไอซ์ ด้วยก่อนหน้านี้ก็เคยถูกจับในคดียาเสพติดและต้องโทษมากว่า 1 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็หวนกลับมาค้ายาเสพติดอีกครั้ง

นายพนษธรยังบอกอีกว่า กำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ต.ค. และแจกการ์ดเชิญแขกไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน ขณะตำรวจเข้าตรวจค้นในห้องนอนก็พบการ์ดแต่งงานสีชมพูของทั้งคู่อยู่ในห้องด้วย

หลังถูกจับและนำตัวมาสอบสวน นายพนษธรยังนั่งกุมมือแฟนสาวด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเสียใจและผิดหวัง ที่ไม่ได้แต่งงานกันตามที่ตั้งใจเอาไว้ อีกทั้งกำลังจะมีลูกด้วยกันซึ่งไปตรวจครรภ์มาแล้วที่โรงพยาบาลทราบว่าจะได้ลูกสาว

ขณะที่เจ้าตัวก็พยายามต่อรอง ขอให้ตนได้กลับไปจัดงานแต่งงาน ในวันดังกล่าว แม้แค่ชั่วโมงเดียวก็ยังดี แต่กฎหมายก็ย่อมเป็นกฎหมาย แม้จะรู้สึกสงสาร เห็นใจ แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องควบคุมตัวส่งดำเนินคดี ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้

อีกเรื่องราวที่แม้จะไม่ใช่คดียาเสพติดเหมือนคดีแรก แต่ก็ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวต้องชวดงานวิวาห์ไปอีกเช่นกัน

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมจี้ทองคำหนัก 2 สลึง มูลค่ารวม 108,200 บาท ภายในร้านทองชื่อ ห้างเพชรทองศรีโต๊ะกัง ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ ถนนพญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. เมื่อเวลา 18.25 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา

ภายหลังเกิดเหตุชุดสืบสวนสน.พญาไท ระดมออกสืบสวนติดตามตัวคนร้ายกระทั่งสามารถปิดคดีลงได้

วันที่ 26 ต.ค. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก. พ.ต.อ. นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ท.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ รอง ผกก.สส. พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน ควบคุมตัว นายจิรวัฒน์ ศรีวงค์ อายุ 36 ปี บ้านอยู่ ต.ห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทอง ห้างเพชรทองศรีโต๊ะกัง

หลังเจ้าตัวถูกติดตามจับกุมได้ที่ ท่ารถเทพประเสริฐ ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.นครินทร์เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ สีดำ ทำทีมาซื้อทองก่อนคว้าทองวิ่งหลบหนีออกไป เมื่อไล่ภาพวงจรปิดตามไป ก็พบว่าคนร้ายวิ่งไปเอารถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้ใต้สถานีรถไฟฟ้าพญาไท หลบหนี

ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ แล้วพบว่าตรงกับนายจิรวัฒน์ ซึ่งมีประวัติเคยถูกจับในคดีขับรถขณะเมาสุรา ต่อมาสืบทราบว่าได้หลบหนีไปบ้านแฟนสาวที่ จ.เพชรบูรณ์ ฝ่ายสืบสวนสน.พญาไท จึงตามไปจับกุมไว้ได้

สอบสวนนายจิรวัฒน์รับว่า ที่ก่อเหตุเพื่อจะนำสร้อยทองไปขาย แล้วนำเงินไปขอแฟนสาวแต่งงาน จึงควบคุมตัวแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ก่อนนำตัวมาทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ

อีก 2 ตัวอย่างที่แสดงให้เห็น ว่าความชั่วไม่เคยให้ผลดีกับใคร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน