คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

บุญทวี ทองร่วง

เรื่อง/ภาพ

10.30 น. วันที่ 29 ธ.ค. ปี?59 ที่เพิ่งผ่านพ้นมา เกิดเหตุการณ์สลดขึ้นในพื้นที่ ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เมื่อ ร.ต.ท.ณัฐพร ช่วยนุกูล รองสว.(สอบสวน) สภ.ป่าบอน รับแจ้งมีชาวบ้านพบศพ 2 แม่-ลูก ถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบเสียชีวิต อยู่ในคูน้ำในสวนปาล์มน้ำมันริมถนนสายสี่แยกเตาถ่าน-หนองเที๊ยะ ท้องที่ หมู่ที่ 10 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง

พลันที่รับแจ้งเหตุร้าย จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัทรวิชญ์ คีตโมนียกุล ผกก.สภ.ป่าบอน พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สิงหพล รอง ผกก.(งานสอบสวน) ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่ขรี

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ นางอารีย์ พรหมทองรักษ์ อายุ 54 ปี และบุตรสาว วัย 13 ปี เด็กนักเรียน ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ป่าบอน อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 7 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เสียชีวิตอยู่คูน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน

สภาพศพนางอารีย์ ผู้เป็นแม่มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ท้ายทอย ส่วนบุตรสาววัย 13 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ แต่สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นกลับหน้า กลับหลัง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

นอกจากนั้นใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุบนถนนในหมู่บ้านสายเตาถ่าน-หนองเที๊ยะ ห่างคูน้ำที่พบศพประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถ จยย. หมายเลขทะเบียน ขงน 69 พัทลุง ของผู้ตายจอดอยู่

ตํารวจเร่งสอบสวนจนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นางอารีย์ พร้อมด้วยบุตรสาววัย 13 ปี ไปช่วยญาติขายของในงานปีใหม่ที่ทางเทศบาลตำบลป่าบอนจัดขึ้น ที่สนามใกล้เทศบาลตำบลป่าบอน

ภายหลังเลิกงานทั้งคู่ขี่และซ้อนรถจยย.กลับบ้านในเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ขณะมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนร้ายขี่รถตามประกบเมื่อได้จังหวะในที่เปลี่ยว จึงบังคับให้ทั้งคู่จอดรถ

นางอารีย์ พร้อมบุตรสาวเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามวิ่งหลบหนี แต่นางอารีย์ถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบตีที่บริเวณท้ายทอย ก่อนจะลากร่างทิ้งร่องน้ำสวนปาล์มน้ำมันเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ส่วนบุตรสาววัย 13 ปี พยายามวิ่งหนีเอาตัวรอดห่างไปประมาณ 100 เมตร คนร้ายตามทันคาดว่าน่าจะเกิดการต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกัน เนื่องจากตรงจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรอยเท้าของคนร้ายและร่องรอยการต่อสู้

ตำรวจสันนิษฐานว่าเด็กหญิงน่าจะสู้อย่างสุดฤทธิ์ เพื่อหวังเอาชีวิตรอด แต่สุดท้ายถูกคนร้ายจับกดน้ำจนเสียชีวิตตาม ไปอีกคน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะมาจากเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว เนื่องจากก่อนเกิดเหตุขณะที่นางอารีย์ผู้ตายไปช่วยญาติขายของอยู่ในงานเทศกาลปีใหม่ ที่ทางเทศบาลตำบลป่าบอนจัดขึ้น ที่สนามใกล้เทศบาลตำบลป่าบอน มีพยานเห็นว่าเจ้าตัวมีปากเสียงกับชายคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นชนวนในการก่อเหตุครั้งนี้ก็เป็นได้

วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ระดมทีมสืบสวนฝีมือดี ทั้งจากกองบังคับการสืบสวน ภาค 9 สืบจังหวัดพัทลุง และสืบท้องที่ เร่งรวบรวมหาพยานหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดี

พ.ต.อ.ภัทรวิทย์ ผกก.สภ.ป่าบอน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนทั้งพยานแวดล้อมและพยานบุคคลของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายน่าจะมีเพียงคนเดียว และได้ขับรถตามผู้เสียชีวิตทั้งสองมาจากงานเทศกาลปีใหม่

ผกก.ป่าบอนยังเผยอีกว่า ส่วนกรณีเด็กหญิงวัย 13 ปี ผู้เสียชีวิตนุ่งกางเกงขาสั้นกลับด้านเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งศพของทั้งสองตรวจพิสูจน์ที่ โรงพยาบาล ป่าบอน จ.พัทลุง ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืนแต่อย่างใด ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งประเด็นเรื่องโกรธแค้นส่วนตัวและชู้สาวในส่วนของผู้เป็นแม่

ที่จริงแล้วคดีนี้ตำรวจมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจแล้ว แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดทำให้ดูเหมือยว่าคดีจะ เงียบหาย ถูกกลบกลืนด้วยเทศกาลปีใหม่

กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ต.อ.ภัทรวิชญ์ คีตโมนียกุล ผกก.สภ.ป่าบอน พ.ต.ท.พฤกษ์ กุลประสิทธิ์ รอง ผกก.(ป) พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สิงหพล รอง ผกก.(งานสอบสวน) พ.ต.ท. อุสมาน ยีตาหวี สว.สส.ฯ และ พ.ต.ต.วิสูตร นุ้ยนุ่น สวป. พร้อมด้วยนายตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับกุมตัว นายเคลื่อน ธรรมศรี อายุ 60 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว

ตำรวจนำตัวนายเคลื่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในสถานที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนที่ทราบเหตุการณ์ ไปดูการทำแผนดังกล่าวจำนวนมาก ท่ามกลางการเฝ้าระวังในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เนื่องจากเกรงว่าญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต จะเข้าทำร้ายผู้ต้องหา แต่การทำแผนประกอบคำรับสารภาพก็เสร็จสิ้นไป ด้วยดี จากนั้นได้นำตัวนายเคลื่อน กลับโรงพักโดยทันที

นายเคลื่อนผู้ต้องหาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับบ้านมาพร้อมกับผู้ตายทั้งสอง โดยนางอารีย์ พร้อมบุตรสาว ขับรถ จยย.ส่วนตนปั่นจักรยานตามกันมา

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้มีการจอดรถ คุยกัน โดยนางอารีย์ขอเงินตนจำนวน 1,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ตนก็ได้ให้เงิน นางอารีย์ ผู้ตาย อยู่โดยตลอด เนื่องจากตน และนางอารีย์ผู้ตายมีความสนิทสนมกัน แต่ครั้งนี้ตนไม่มีเงินให้

จนเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง ตนจึงนำนางอารีย์ ไปคุยกันในสวนปาล์มน้ำมัน เพราะเกรงว่าคนที่ผ่านไปมาจะเห็นเข้า แต่นางอารีย์ไม่ยอมพร้อมกับโวยวาย ว่าจะนำเรื่องที่มีความสัมพันธ์กันไปแจ้งตำรวจ

ตนโมโหเลยหยิบไม้ทุบนางอารีย์ จนสลบ ก่อนลากไปทิ้งลงไปในร่องน้ำ ในสวนปาล์มดังกล่าว ส่วนเด็กหญิง วัย 13 ปี บุตรสาวนางอารีย์ เห็นเหตุการณ์โดยตลอด วิ่งหนีเข้าไปแอบในสวนปาล์ม ตนจึงจำเป็นต้องตามไปลงมือฆ่าปิดปาก

จะอ้างอย่างไร สุดท้ายแล้วนายเคลื่อน ก็ต้องชดใช้ผลแห่งการกระทำของตนเอง ตามกฎหมายอยู่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน