ผ่าแผนนศ.สาวจับอจ.หื่น แท็บเล็ตถ่ายใต้กระโปรง คดีฉาวในม.ดังเชียงใหม่

สดจากสนามข่าว – ข่าวโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาว เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคม แต่ครั้งนี้นับว่าไม่ธรรมดา ด้วยที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ ซ้ำผู้ก่อเหตุยังเป็นถึงอาจารย์ ที่ควรจะเป็นผู้ที่ไว้วางใจได้มากที่สุด กลับมาก่อเหตุเสียเอง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นักศึกษาสาว 3 คน อายุ 18-19 ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าพบ พ.ต.อ.ธีระพล อินทรลิบ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวน เพื่อให้การเพิ่มเติม กรณีถูกอาจารย์หนุ่มใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตแอบถ่ายใต้กระโปรง

อาจารย์หื่นมอบตัว

ขณะเดียวกันกลุ่มอาจารย์ผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็เข้าพบพนักงานสอบสวนเช่นกัน เพื่อนำแท็บเล็ตของอาจารย์ที่ถูกกล่าวหามามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน

3 นักศึกษาสาวเผยเรื่องราวก่อนเป็นคดีว่า เริ่มมาจากการที่สังเกตเห็นความผิดปกติ ที่อาจารย์หนุ่มชอบนำแท็บเล็ตไปวางเอาไว้ที่พื้นใต้โต๊ะ โดยคว่ำด้านหน้าจอลงทำให้กล้องของแท็บเล็ตหงายขึ้น พอมีนักศึกษาไปยืนปรึกษางาน ก็จะตรงกับใต้กระโปรงพอดี

3 น.ศ.สาวเข้าแจ้งความ

เก็บความสงสัยเอาไว้ แต่ยังไม่บุ่มบ่ามทำอะไรด้วยยังไม่มีหลักฐาน จึงวางแผนกันโดยแอบถ่ายคลิปพฤติกรรมดังกล่าวเอาไว้ จากนั้นให้เพื่อนๆ ที่นุ่งกางเกงขาสั้นไว้ข้างใน ทำทีเข้าไปปรึกษากับอาจารย์หนุ่มเพื่อให้ได้หลักฐาน

ทั้งหมดยังวางแผนให้นักศึกษาสาวหน้าตาดี เข้าไปชวนอาจารย์หนุ่มพูดคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนอาศัยจังหวะหยิบเอาแท็บเล็ตที่วางอยู่ที่พื้นวิ่งหนีออกไปนอกห้องเรียน โดยอาจารย์หนุ่มซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจจนหน้าซีดรีบวิ่งตามออกไปติดๆ

แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เมื่อกลุ่มนักศึกษามอบแท็บเล็ตดังกล่าวให้อาจารย์อีกท่านเก็บเอาไว้ ซึ่งเมื่อเปิดดูก็พบว่าโปรแกรมอัดวิดีโอยังทำงานอยู่ ซ้ำยังมีคลิปที่เพิ่งอัดไว้ล่าสุดเป็นหลักฐานมัดตัวอย่างดี

ขณะที่พ.ต.อ.ธีระพล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้รับแท็บเล็ตไอแพดที่ใช้ก่อเหตุ เห็นคลิปวิดีโออยู่ในเครื่องแล้ว เชื่อว่าน่าจะก่อเหตุจริงตามที่ถูกกล่าวหา โดยน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ ขอระยะเวลาทำงานอีกเล็กน้อย เพื่อเร่งดำเนินการตามขั้นตอน

น.ศ.สาวให้การตร.

ด้าน ดร.ประภา สุขเกษม คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้นำหลักฐาน มามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบมายังไม่ชัดเจนว่า อาจารย์หนุ่มคนดังกล่าวได้ก่อเหตุจริงหรือไม่ ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับอาจารย์หนุ่มคนดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด

อดีตผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนหนึ่งได้เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ตนซึ่งมีลูกเป็นอาจารย์ในคณะดังกล่าวได้สอบถามแล้วทราบว่า ทางมหาวิทยาลัยเองก็กำลังประชุมหารือกัน เพื่อจะดำเนินการกับอาจารย์คนดังกล่าวที่มาทำให้ภาพพจน์ของทางมหาวิทยาลัยเสียหาย กำลังให้ทางนิติกรของทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบและดำเนินการอยู่

สำหรับการการจ้างอาจารย์พิเศษนั้น ส่วนมากแล้วทางมหาวิทยาลัยจะไม่ได้สอบประวัติหรือเช็กเรื่องสุขภาพจิตอาจารย์ที่มารับจ้างสอนพิเศษ ไม่เหมือนกับอาจารย์ที่สอบเข้ามาบรรจุ ต้องมีการตรวจสอบประวัติและตรวจสอบสุขภาพจิตอย่างละเอียด ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

พ.ต.อ.ธีระพลเปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติหมายจับนายจเด็จ เตชะสาย อายุ 31 ปี ชาว ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ในข้อหา “กระทำการอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นไม่อยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำการให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ โดยกระทำในที่สาธารณสถาน หรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ โดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำ”

“ได้ขอหมายอนุมัติหมายจับแล้ว และหากมีพยานหลักฐานเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ภายหลัง ความผิดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ สาเหตุที่ขออนุมัติหมายจับเลย เนื่องจากคดีมีความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี ผู้ต้องหามีพฤติกรรม หลบหนี ทางพนักงานสอบสวนสามารถอนุมัติขอหมายจับ ศาลจึงได้อนุมัติหมายจับดังกล่าว” รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเพื่อนอาจารย์ระบุว่า อาจารย์พิเศษคนดังกล่าวนั้น มีบ้านเดิมอยู่ จ.ลำปาง ในช่วงที่เป็นนักศึกษาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หลังจากจบแล้วกลับมาเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้มหาวิทยาลัย กระทั่งเกิดเรื่อง

ภายหลังถูกออกหมายจับ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายจเด็จ ก็เดินทางเข้ามอบตัว พร้อมให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา โดยทนายความที่เดินทางมาร่วมให้ปากคำได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ประกันตัววงเงิน 200,000 บาท ก่อนได้รับอนุญาตจากพนักงานสอบสวนให้ประกันตัวได้ โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้มาพบเพื่อสอบปากคำอีกครั้ง และส่งตัวให้อัยการในวันที่ 18 พ.ย.

จะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำไป แต่ผลลัพธ์ มันช่างไม่คุ้มกันเสียเลย

กฤษณะ เชิญธงไชย

เรื่อง/ภาพ