คลี่ปมฆ่าติวเตอร์หนุ่ม – “ตอนแรกผมคิดว่าเขานอนซ่อมรถแท็กซี่อยู่จึง ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอกลับมาจากทำธุระก็ยังเห็นนอนอยู่ท่าเดิมเลยไปเรียกวิน จยย.มาช่วยกันดูถึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว” คำให้การของพยาน ผู้มาพบศพนายณัฏฐวัฒน์ เพียรสกุล หรือโบ๊ต อายุ 27 ปี ติวเตอร์หนุ่ม และเป็นจุดเริ่มต้นของคดีสยองที่มีปมเหตุมาจากความหึงหวง

สภาพศพใต้รถแท็กซี่

คดีดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 พ.ย. พ.ต.ต.วสันต์ กันเกตุ สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตใต้รถแท็กซี่ริมถนนภายในซอยประชาชื่น 4 แยก 1-4 แขวง และเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.นพคุณ ไพเราะ รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน พ.ต.ต.ชัยวิชญ์ สุทำเลา สว.สส. ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

นายณัฏฐวัฒน์ เพียรสกุล ผู้ตาย

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนภายในซอย บริเวณใต้ท้องรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า ลีโม่ สีชมพู ทะเบียนป้ายเหลือง ทย 5563 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์แท็กซี่ไทย จำกัด สภาพไม่ได้ใช้งานมานานมีฝุ่นเกาะและยางรถแตก

พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนสั้น กางเกงสแล็กส์สีดำขายาว ไม่สวมรองเท้า สภาพศพนอนหงายในท่าขัดสมาธิ ศีรษะมีถุงขยะสีดำคลุมอยู่ เมื่อเปิดถุงออกมาตรวจสอบ พบศีรษะด้านขวามีบาดแผลจากกระสุนปืน 1 แห่ง คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 วัน จึงนำร่างส่งชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ

รถฟอร์ดของคนร้าย

เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบถุงดำภายในพบกระเป๋าสะพายหลัง มีเสื้อกันหนาวสีดำ หนังสือติวคณิตศาสตร์ ม.3 และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ตำรวจทราบว่าผู้ตายคือ นายณัฏฐวัฒน์ เพียรสกุล หรือโบ๊ต อายุ 27 ปี ติวเตอร์หนุ่ม สอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นม.3

จากการสอบสวนพยานผู้พบศพคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พบผู้ตายนอนหงายอยู่ใต้รถแท็กซี่คันดังกล่าวจึงได้จอดรถและมองเข้าไป แต่เข้าใจว่าผู้ตายกำลังซ่อมรถเนื่องจากแต่งตัวคล้ายคนขับแท็กซี่

ต่อมาเวลา 21.00 น. หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ขณะขับขี่รถกลับมาตามเส้นทางเดิมก็พบว่าผู้ตายยังนอนอยู่ในลักษณะท่าเดิม จึงได้เรียกวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับผ่านมาพอดีให้เข้าไปดูพร้อมกัน พบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตโดยมีถุงพลาสติกคลุมหัวอยู่ จึงได้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบตรวจสอบ

นายสุรสิทธิ์ จันทร์วงศ์สกุล คนร้าย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพอยู่นั้น มี น.ส.ศศิกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เดินทางมาดูศพก่อนแจ้งว่าเป็นแฟนกับนายณัฏฐวัฒน์ ผู้เสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุเจอกับผู้ตายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้ตายบอกว่าจะออกไปติวหนังสือก่อนจะหายตัวไปขาดการติดต่อ

น.ส.ศศิกานต์ให้ข้อมูลสำคัญกับตำรวจว่า ทราบว่าผู้ตายขึ้นรถยนต์อเนกประสงค์สีแดง ทำให้สงสัยว่าอาจจะเป็นฝีมือ นายสุรสิทธิ์ จันทร์วงศ์สกุล อายุ 30 ปี แฟนเก่าของตน ซึ่งเคยบอกว่าหากนอกใจจะตามฆ่าแฟนใหม่ อีกทั้งแฟนเก่าก็มีรถยี่ห้อและสีเดียวกัน และยังมีบ้านพักอยู่ละแวกที่พบศพอีกด้วย

พล.ต.ต.เอกชัย ผบก.น.2 สั่งการให้ชุดสืบสวนไปเฝ้าจับตาที่บ้านผู้ต้องสงสัย กระทั่งเวลาราวตี 2 วันที่ 11 พ.ย. ตำรวจพบนายสุรสิทธิ์ ขับรถยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอเวอเรสต์ สีแดง ทะเบียน 6 กธ 5416 กรุงเทพมหานคร ออกมาจากซอย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเรียกให้หยุด

แต่เจ้าตัวพยายามขับวิ่งฝ่าแนวตำรวจ ระยะกว่า 100 เมตร กระทั่งเสียหลักชนกิ่งไม้จนทำให้กระจกมองข้างซ้ายหัก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นพบอาวุธปืนพกแบบลูกโม่ ขนาด .38 และกระสุนจำนวนหนึ่ง ซุกอยู่ในกระเป๋าคาดเอว และม้วนเทปกาวสีแดงซึ่งตรงกับที่ใช้พันคอของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จึงเก็บลายนิ้วมือรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ภายหลังนำตัวมาสอบสวนที่ สน.เตาปูน นายสุรสิทธิ์ก็รับสารภาพหมดเปลือก ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าติวเตอร์หนุ่ม เนื่องจากความหึงหวง โดยในวันที่ 8 พ.ย. ได้ล่อนายณัฏฐวัฒน์มาเจอที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านอิสรภาพ อ้างว่าต้องการให้มาติวพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ให้

จากนั้นได้พูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่อง แฟนในรถ แต่ได้มีปากเสียงกัน โดยผู้ตายด่าทอตนเองว่าโง่เป็นควาย ที่โดนแย่งแฟน ทำให้โมโหชักปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะใช้ถุงดำคลุมและใช้เทปกาวสีแดงพันรอบคอเพื่อป้องกันรอยเปื้อน ก่อนที่จะขับรถคันดังกล่าวมายังซอยประชาชื่น 4 และทิ้งศพไว้บนรถเป็นเวลา 1 วัน จึงนำศพมาซุกใต้ท้องรถแท็กซี่เพื่ออำพรางคดี

ภายหลังรับสารภาพ ตำรวจแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับหนุ่มโหด ก่อนพาตัวไปทำแผนฯประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวส่งฝากขังเพื่อรอสรุปสำนวนส่งฟ้อง

นอกจากนี้ตำรวจยังพบอีกว่ารถยนต์ฟอร์ดที่ หนุ่มโหดใช้เป็นรถที่ถูกแจ้งหายเอาไว้ จะต้องสอบสวนต่อไปว่าเจ้าตัวมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่