สดจากสนามข่าว

อดิศร จิตตเสวี / พิรยุทธ นิ่มนนท์ – เรื่อง/ภาพ

ย้อนกลับไปเมื่อ 20.00 น. คืนวันที่ 10 ส.ค. เกิดเหตุอุกอาจ คนร้ายจ่อยิง น.ส.ชลินธร วัฒนศัพท์ วัย 34 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาเคหะธนบุรี ก.ม.8 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

ตร.ท่าข้ามพบร่างน.ส.ชลินธรนอนหายใจรวยริน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ลำตัวรวม 4 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งร.พ.นครธน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พ.ต.ท.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา สว.สส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในร้าน พบว่าคนร้ายเป็นชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 180 ซ.ม. อายุประมาณ 30 ปี ผิวดำแดง ไม่ปกปิดใบหน้า ก่อนเกิดเหตุได้ทำที มาซุ่มดูใกล้ที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา

กระทั่งเห็นน.ส.ชลินธรเดินเข้ามาภายในเซเว่นฯ คนร้ายจึงได้เดินเข้าไปในร้านก่อนใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จนน.ส.ชลินธรล้มลง จากนั้นได้จ่อยิงซ้ำรวม 4 นัด บริเวณท้อง จากนั้นก็วิ่งหนีไปขี่จยย.ฮอนด้า สีเหลือง-เทา ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีมุ่งหน้าออกถนนพระราม 2

วันรุ่งขึ้น ที่ สน.ท่าข้าม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 และพ.ต.อ.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เรียกประชุมชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ซึ่งจาก การตรวจสอบประวัติทราบว่าน.ส.ชลินธรเคยมีสามีและมีลูกสาว วัย 7 เดือน 1 คน แต่ปัจจุบันได้เลิกกันไป แต่เมื่อชุดสืบสวนไปติดตามตัวจนเจอก็พบว่ารูปพรรณไม่ตรงกับคนร้าย

3

เมื่อนำภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านมาให้ดู เจ้าตัวก็ระบุว่าคนร้ายมีลักษณะคล้ายกับ นายพิชัย หรือ เบียร์ ตั้งจิต อายุ 34 ปี อดีตครูสอนว่ายน้ำ ชาว จ.สุพรรณบุรี ตรวจสอบพบว่านายพิชัยอาศัยอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร

เมื่อไปตรวจสอบที่พักก็พบว่าหายไปแล้ว ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 511/2559 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองและพาอาวุธปืนไป ในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้ รับอนุญาต”

แนวทางสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายยังหลบหนีอยู่ในจังหวัดใกล้เคียง จากการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ จับภาพคนร้ายได้ไปจนถึงหน้าซอยพระราม 2 ซอย 60 แต่เนื่องจากบริเวณหน้าซอยดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดจึงทำให้การติดตามภาพคนร้ายไม่ต่อเนื่อง

แนวทางการสืบสวนพบว่านายพิชัยและน.ส.ชลินธร รู้จักกันตั้งแต่ปี 2557 ก่อนที่ทั้งคู่จะมีสัมพันธ์กัน โดยนายพิชัยได้แอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ก่อนจะใช้แบล็กเมล์น.ส.ชลินธร สุดท้ายได้นำคลิปออกเผยแพร่ กระทั่งน.ส.ชลินธรต้องเลิกรากับสามี

เจ้าตัวจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิชัย ที่สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รวมถึงมี คดีทำร้ายร่างกายกันด้วย ซึ่งคดีความของนายพิชัยทางศาลใกล้จะพิจารณาตัดสิน น่าจะทำให้นายพิชัยเกิดความเครียดจึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุสยอง

อีกทั้งก่อนเกิดเหตุนายพิชัยพูดเปรยกับ คนใกล้ชิดว่าจะใช้วิธีตั้งศาลเตี้ยเพื่อจัดการ โดยเรื่องต้องขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

ผ่านไปร่วม 2 เดือนเจ้าหน้าที่ใช้ทั้งเทคโนโลยี ทั้งการวางสายซุ่มดัก จนมีข้อมูลว่านายเบียร์หลบหนีไปอยู่ตามต่างจังหวัดต่างๆ ไม่อยู่ที่ไหนนานๆ ย้ายไปเรื่อยๆ แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถปิดคดีได้สำเร็จ โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 ก.ย. นำกำลังปิดล้อมร้านขายของเก่าโคกขามรีไซเคิล เลขที่ 99/4 ม.7 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทร สาคร หลังสายรายงานว่านายพิชัยหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่กับญาติที่เป็นเจ้าของร้าน

ชุดสืบสวนบุกเข้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อม ของกลาง อาวุธปืนยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 76 นัด พร้อมเสื้อผ้าชุดที่ใส่ก่อเหตุ และรถจยย.ฮอนด้า ทะเบียน ขธม 218 ชลบุรี จึงนำตัวมา สอบสวนซึ่งเจ้าตัวก็สารภาพแต่โดยดี

2

รุ่งขึ้นพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผบก.น.9 เดินทางมาร่วมสอบสวน ที่ สน.ท่าข้าม ก่อนจะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ขณะที่นายพิชัยสารภาพว่าแอบถ่ายคลิปวิดีโอขณะมีความสัมพันธ์กับผู้ตายเอาไว้ ก่อนจะใช้คลิปดังกล่าวเพื่อขู่เอาเงิน 1,500,000 บาท จน น.ส.ชลินธรเข้าแจ้งความ ก่อนวันเกิดเหตุ 2 วัน ได้นัดไกล่เกลี่ยกันนอกรอบแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ รวมทั้งใกล้ถึงเวลาที่ศาลจะตัดสินคดีกรรโชกทรัพย์แล้ว จึงลงมือก่อเหตุด้วยความแค้น

คดีแรกยังไม่ทันได้ตัดสินแต่หาได้มีความสำนึกในความผิด มาก่อคดีซ้ำอีก คราวนี้ถึงขั้นฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โทษหนักสุดถึงประหารชีวิตทีเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน