ผ่าคดีหมอสูติฯฉาว คลี่ปมข่มขืนคนไข้ ‘อัจฉริยะ’ลุยพิสูจน์

จี้แพทยสภาลงดาบ

ผ่าคดีหมอสูติฯฉาว – ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอพิสูจน์กันในชั้นศาล สำหรับกรณีหมอสูติฯชื่อดังในจ.นครสวรรค์ ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิด ข่มขืนอนาจารคนไข้ขณะตรวจภายใน

ก่อนที่จะพยายามจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าปิดปาก เพื่อไม่ให้เป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล

แต่ในที่สุดเหยื่อก็ไม่ยอม พร้อมแจ้งทนายความและนักเคลื่อนไหวทางสังคมคนดัง อย่างบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

ซึ่งก็ออกมาเดินหน้าลุยพร้อมอ้างว่ามีเหยื่อถูกล่วงละเมิดไม่ต่ำกว่า 50 คน

จนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกหมอคนดังกล่าวมาแจ้งข้อหา

ผ่าคดีหมอสูติฯ ฉาว

ทนายนิด้า

ไม่จบเพียงแค่นี้ เมื่อมีคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะโอละพ่อ ไม่ใช่การข่มขืนคนไข้

แต่เป็นประเด็นชู้สาวที่ไม่เหมาะสม!??

ทั้งจากคำถามว่าทำไมไม่แจ้งความทันที ไม่ต่อสู้ ไม่ร้องเรียกให้คนช่วย

เป็นข้อถกเถียงและต่อสู้กันทางกฎหมาย

ไม่สามารถด่วนสรุปได้อย่างรวดเร็ว

ฉะหมอสูติฯ ข่มขืนคนไข้

เรื่องราวนี้ปรากฏขึ้นในโลกออนไลน์ในช่วงค่ำวันที่ 14 พ.ย. เมื่อเพจทนายนิด้า ของนางศรันยา หวังสุขเจริญ โพสต์ข้อความระบุว่าได้รับร้องเรียนจากบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ผู้ก่อตั้งองค์กรทำดี ให้ช่วยรับคดีคนไข้ถูกหมอใหญ่ข่มขืนกระทำชำเรา

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของทนายนิด้า และบุ๋ม-ปนัดดา สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานราชการหญิงอายุ 29 ปี สังกัดส่วนราชการท้องถิ่น มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ แต่อาการไม่หาย

จึตัดสินใจมารักษาตัวที่คลินิกในตัวเมืองนครสวรรค์ เมื่อเข้าไปก็เปลี่ยนชุดเข้าไปให้หมอตรวจอวัยวะภายใน จากนั้นขึ้นไปนอนบนเตียงขาหยั่ง จากนั้นหมอตรวจภายใน โดยใช้กล้องส่องดูเพื่อให้ภาพจากกล้องขึ้นจอ โดยปิดไฟและล็อกประตูห้องตรวจ

ผ่าคดีหมอสูติฯ ฉาว

อัจฉริยะและทีมงานพร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบคลินิกที่เกิดเหตุ

จากนั้น หมอใช้นิ้วจับที่อวัยวะเพศ เดินมาใกล้เตียงขาหยั่ง แล้วใช้อวัยวะเพศมาถูไถอวัยวะเพศของตนเอง โดยใช้มือกดที่ท้องน้อย พร้อมพูดว่าจะแนะนำการร่วมเพศที่ถูกต้องให้ ด้านเหยื่อสาวบอกว่าเจ็บที่อวัยะเพศ แต่หมอไม่หยุด ก้มตัวมาทับ พยายามซุกไซ้ลำคอ แล้วกอดเหยื่อเอาไว้แน่น บอกให้คิดว่ากำลังมีเพศสัมพันธ์

ต่อมา เมื่อวันที่ 21 ก.พ. เหยื่อคนดังกล่าวปวดท้องอีก จึงไปตรวจที่คลินิกเดิม ก่อนจะขึ้นเตียงขาหยั่งเพื่อตรวจภายใน แต่ก็เกิดเหตุแบบเดิม พยายามใช้อวัยวะเพศล่วงล้ำเข้ามา ใช้ปากเป่าที่อวัยวะเพศของเหยื่อ ใช้เครื่องมือและนิ้วมือแหย่เข้ามาในอวัยวะเพศ ใช้เวลากว่า 20 นาที

ตอนแรกที่หมออ้างว่าใช้ของปลอมสอดใส่ แต่กลับใส่ถุงยางอนามัยให้ด้วย อ้างว่าเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศให้คนไข้ เพื่อลดความ เจ็บปวด

และหลังจากที่เกิดเรื่องหมอคนดังกล่าวได้ติดต่อมาหาเหยื่อ พร้อมโอนเงินให้ 3 แสนบาทเพื่อปิดคดี มีหลักฐานเป็นแช็ตไลน์ยืนยัน ซึ่งในแช็ตยังพบว่าหมอเรียกเหยื่อว่าที่รักด้วย

ขณะที่เหยื่อสาววัย 26 ปีอีกคน ก็ยืนยันว่าถูกหมอลวนลามที่คลินิก ขณะตรวจอาการฝีที่หว่างขาใกล้อวัยวะเพศ เมื่อปี 2558 โดยเรียกว่าที่รักเหมือนกัน สอนการร่วมเพศกับแฟน ทำท่าให้ดู แล้วก็ไซ้ซอกคอและเลียที่หู

เมื่อกลับมารักษาอีกครั้ง ก็ถูกจับหน้าอก ไซ้ต้นคอ หู ใช้นิ้วสวมถุงยางใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ และก้มไปเลียด้วย

เป็นพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดคนไข้

ตร.แจ้งข้อหา-เร่งสอบ

เมื่อเป็นเรื่องเป็นราวผู้เสียหายไปแจ้งความที่สภ.เมือง จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่จึงเรียกนพ.จักรพงษ์ ลีลาพร อายุ 53 ปี แพทย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลนครสวรรค์ประชารักษ์ และเจ้าของคลินิกจักรพงษ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา ประกอบด้วยกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น

โดยนพ.จักรพงษ์ให้การปฏิเสธ ยื่นประกันตัว ขอต่อสู้คดีและให้การในชั้นศาล

ขณะที่ บุ๋ม ปนัดดา ยืนยันว่าเท่าที่ตรวจสอบมีเหยื่อถูกล่วงละเมิดจากฝีมือหมอคนนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ราย พร้อมเรียกร้องให้เหยื่อออกมาแจ้งจับ นพ.จักรพงษ์ และให้ตร.โอนคดีให้อยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม

ขณะที่ ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า มาตรฐานการตรวจภายใน สำคัญสุดจะต้องมีบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้หญิงอยู่ในกระบวนการตรวจด้วย นอกจากเพื่อเป็นพยานให้แพทย์ ยังทำให้ผู้ถูกตรวจสบายใจ

ผ่าคดีหมอสูติฯ ฉาว

รับคนไข้

นพ.ชนิ นทร์ จารุวัฒนมงคล ผอ.โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ระบุว่า ได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งนพ.จักรพงษ์ ให้การปฏิเสธ ระบุว่าการใช้เครื่องอัลตราซาวด์ ต้องสวมถุงยางอนามัยเพื่อให้ปลอดเชื้อ สอดเข้าไปตรวจภายใน เบื้องต้นยังไม่มีความผิดชัดเจน จึงไม่ต้องสั่งพักงาน

ร.ต.อ.รัช พล ขวัญเซ่ง ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขอให้การชั้นศาล คาดว่าใช้เวลา 10-15 วันจะสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ อย่างไรก็ตามการตรวจพิสูจน์ผู้เสียหายที่ร.พ.ตำรวจ ทราบว่าไม่พบคราบอสุจิ แต่มีร่องรอยบางอย่าง เนื่องจากผู้เสียหายไม่ได้มาตรวจทันที แต่ทิ้งระยะกว่า 10 วัน

พญ.ชัญ วลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา ในฐานะสูตินรีแพทย์ กล่าวถึงเครื่องมือตรวจภายในที่มีลักษณะ คล้ายอวัยะเพศชายว่า มีจริง เรียกว่าเครื่องอัลตราซาวด์หาโรคทางนรีเวช ลักษณะของเครื่องมือก็มีความคล้ายกับอวัยวะเพศชาย แต่ไม่ได้เหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ และมีเพียงขนาดเดียว มีหัวกลมๆ

หากใช้เครื่องมือนี้ขั้นแรกต้องใส่เจลที่บริเวณหัวเครื่องมือ ใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อและใส่เจลลงไปอีกครั้ง กรณีใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เมื่อมีการนำเครื่องมือไปตรวจกับอีกบุคคลหนึ่ง เพราะไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อได้ เนื่องจากลักษณะของเครื่องมือดังกล่าวตรงหัวกลมๆ จะปล่อยคลื่นวิทยุ ไม่สามารถเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ได้

เป็นความคืบหน้าของคดี

อัจฉริยะจี้แพทยสภาฟัน

อย่างไรก็ตามยังคงมีเสียงท้วงติงว่าคดีนี้อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด

โดยนาย เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ระบุว่า เรื่องนี้ จะกล่าวหาใครถ้าไม่มีหลักฐานระวังสิ่งที่ตามกลับมา อย่างเช่นกล่าวหาหมอจับหน้าอก ไซ้ซอกคอ จับอวัยวะเพศ เลีย ถ้าจริงก็แล้วไป แต่ไม่จริงอย่าออกตัวแรง เพราะต้องคิดว่าเป็นได้หรือไม่ ถ้ามีคนถูกหมอคนนี้ข่มขืน 20-30 คนแล้วไม่เคยแจ้งความ ทั้งที่เวลาผ่านไปเป็นเดือนเป็นปี

คดีเกี่ยวกับหมอโดนแบล็กเมล์มีเยอะ เพราะหมอรวย สุดท้ายแพ้คดี หมอก็ฟ้องกลับ ถูกออกหมายจับ ทีนี้หนีเลย

ด้านนาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็เป็นอีกคนที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมให้นพ.จักรพงษ์ จำลองเหตุการณ์ให้ดู

หลังจากตรวจสอบ ก็เดินหน้ายื่นเรื่องต่อแพทยสภา เพื่อเอาผิดกับ นพ.จักรพงษ์ ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 และตามข้อบังคับว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2549 โดยหลักฐานประกอบด้วย สลิปการโอนเงินที่ทาง นพ.จักรพงษ์ โอนให้ผู้เสียหาย ข้อความจากเฟซบุ๊ก ที่นพ.จักรพงษ์ พูดคุยกับ ผู้เสียหาย ว่าจะรับผิดชอบดูแลตลอดชีวิต

ผ่าคดีหมอสูติฯ ฉาว

ยื่นแพทยสภา

รวมทั้ง รายการประจำวันคดี 3 ฉบับ เมื่อปี พ.ศ.2560 ทาง นพ.จักรพงษ์ ยอมรับว่าได้ทำการอนาจารคนไข้ 2 ราย พร้อมกับให้เงิน ค่าเสียหาย 30,000 และ 40,000 บาท ซึ่งล่าสุดก็ได้ให้เงินผู้เสียหายอีก 300,000 บาท

จากการพูดคุยกับผู้เสียหาย จ.เพชรบูรณ์ เล่าให้ตนฟังว่า มีการตรวจโดยการเปิดเสื้อชั้นใน ใช้มือที่ไม่ใส่ถุงมือยาง คลึงบริเวณเต้านมและบอกว่าเต้านมสวย ลูบไล้ไปตามร่างกาย เล้าโลม ใช้นิ้ว สอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการลวนลามและอ้างว่า เป็นขั้นตอนของกระบวนการรักษา

อีกทั้งตั้งแต่คลินิกเปิดมาไม่เคยมีพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลหรือบุคคลที่สามเข้ามาอยู่ด้วยในระหว่างการตรวจภายในเลย ซึ่งถือว่าผิดแน่นอน

ส่วน นพ.จักรพงษ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เป็นข่าวถึงปัจจุบันได้แต่ร้องไห้ ในใจ ที่ยืนมาได้เพราะมีครอบครัวและเพื่อนฝูง คนไข้ที่ตอบให้กำลังใจ และขอชี้แจงว่าเงินที่โอนให้คนไข้ 3 แสน ก็เพราะอยากให้จบเรื่อง อยากกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา

ส่วนที่ใช้นิ้วสอดใส่ ก็เป็นขั้นตอนการรักษา ไม่อยากให้เข้าใจผิด ตนมีความรักกับคนไข้ทุกคน แต่ไม่ใช่เชิงชู้สาว และไม่อยากทำร้ายใคร จึงไม่อยากให้ข่าวต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ สรรพนามในการเรียกคนไข้ ว่า “ที่รัก” ก็จะเผลอพูดออกมาบ้างซึ่งก็พูดกับทุกคน ธรรมชาติผู้หญิงมักจะชอบความอ่อนโยน ซึ่งเป็นหลักจิตวิทยาอยู่แล้ว

เป็นข้อชี้แจงฝั่งหมอ

รอชี้ขาดกันตามกระบวนการยุติธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน